ด.ช.​ขนุนกับด.ช.มะขาม


ทั้งคู่เป็นตัวผู้ ตกลงกับลูกชายไว้แต่แรก ตัวผู้ทั้งหมดดีกว่า จะได้ไม่ต้องเลี้ยงลูกมันต่อๆไปอีก นึกถึงถ้าเป็นสมัยโน้น เจ้าตัวขาวคงถูกเรียกว่าไอ้ด่าง เจ้าตัวน้ำตาลคงถูกเรียกว่าไอ้มอม

ขนุนกับมะขาม ไม่รู้อายุเท่าไหร่แน่ แต่ถือกำเนิดที่บ้าน เมื่อ 6 มีนาที่ผ่านมา ลูกชายเล่าถึงเจ้าสองตัวก่อนจะนำมาเลี้ยงจริง ด้วยเรามีแผนจะย้ายไปอยู่ในสวน จึงอยากมีหมาเฝ้าสวน ไว้กันคนหรือกันงูกันเงี้ยวบ้าง จู่ๆลูกชายบอกว่าที่ทำงานมีแม่หมาออกลูก 8 ตัว พ่อตัวใหญ่น่าจะเป็นลูกครึ่งปนหมาฝรั่ง แต่แม่มันที่ออกลูกยั้วเยี้ยนี้เป็นหมาไทยแท้ๆ ตัวไม่ถึงกับเล็ก ลูกชายว่าอย่างนั้น แถมบอกว่าหย่านมเมื่อไหร่ จะแบ่งมาเลี้ยงสักสองตัว

ไม่กี่วันจากนั้น ลูกชายเลิกงานกลับบ้าน ที่ไม่ปกติคือวันนั้นพาเจ้าสองตัวมาในกล่องกระดาษใบเขื่อง บ้านเราไม่เคยเลี้ยงสัตว์มาก่อน ตัวเองเลี้ยงหมาแมวมาบ้างก็ตั้งแต่เด็กๆ จนมีครอบครัว มีลูก ก็ยังไม่เคยเลี้ยงสัตว์ใดๆอีกเลย ปรึกษากันทั้งครอบครัวครั้งใด จะเห็นตรงกันว่า อยากเลี้ยง แต่ภาระอันมากมาย จะไปไหนมาไหน ดูแล จะทำอย่างไรกัน มันจะกิน จะอยู่ สุดท้ายของทุกครั้งที่ปรึกษาหารือคือ ไม่เลี้ยงดีกว่า

ลูกชายบอกมันกินข้าวได้แล้ว แต่ยังกินนมแม่อยู่ อายุคงสองเดือนกว่า แต่เท่าที่ดูยังเล็กมาก ไม่น่าถึงสองเดือน ผมคิดเองเออเอง อายุเท่าไหร่จึงไม่รู้แน่ ลองค้นความรู้จากเว็บไซต์เกี่ยวกับการงอกของฟันเพื่อบอกอายุ แต่ดูไม่รู้อยู่ดี




จะตั้งชื่อมันว่าอะไร ตัวหนึ่งขนสั้น สีขาว มีลายด่างสีครีม รอบนัยน์ตาเป็นสีดำ คล้ายคนอดนอน หางโด่ชี้ฟ้าเลย บางคนที่เห็นเรียกหางอย่างนี้ว่าหางดาบ อีกตัวหนึ่งสีน้ำตาล ขนยาวกว่า หน้าตาปากและจมูกเป็นสีดำ ปลายเท้าทั้งสี่สีขาว หางม้วนกลับเป็นวงกลมสวยงาม ทั้งคู่เป็นตัวผู้ ตกลงกับลูกชายไว้แต่แรก ตัวผู้ทั้งหมดดีกว่า จะได้ไม่ต้องเลี้ยงลูกมันต่อๆไปอีก นึกถึงถ้าเป็นสมัยโน้น เจ้าตัวขาวคงถูกเรียกว่าไอ้ด่าง เจ้าตัวน้ำตาลคงถูกเรียกว่าไอ้มอม พยายามนึกตั้งชื่ออยู่หลายวัน เจ้าแว่นตากับเจ้าถุงเท้าดีไหม ตามรูปลักษณ์เด่นๆ สุดท้ายลงเอย โดยเพื่อนๆช่วยตั้งอีกแรง เจ้าตัวขาวชื่อว่าขนุน ส่วนเจ้าตัวน้ำตาลชื่อมะขาม ตามสีคล้ายฝักมะขามของมัน




แรกๆให้กินนมกล่องกับกล้วยน้ำว้าสุก เลียนแบบที่เคยเลี้ยงลูกมา(ฮา) อาหารเม็ดอะไรต่างๆ ตั้งใจจะให้กินเวลาคนไม่อยู่ ปกติจะให้กินเหมือนคนกิน อาหารกับข้าวที่เหลือจะได้ไม่เหลือทิ้ง การอยู่อาศัยจะให้อยู่ใต้ถุน ไม่ให้ขึ้นบนบ้าน กลัวความเลอะเทอะ เปรอะเปื้อน ขนที่ร่วงอีกที่จะทำให้มีภาระขึ้น ที่สำคัญหวังจะเลี้ยงให้มันเฝ้าบ้าน ถ้ามัวอยู่แต่บนบ้าน ใครไปใครมา กว่าจะรู้เห็น โจรขโมยก็ถึงห้องนอนแล้ว

ต่อมาเริ่มให้กินข้าว แรกผสมน้ำอุ่น คล้ายข้าวต้ม กับข้าวส่วนใหญ่เป็นเนื้อปลาทูจากตลาดสด แกะเอาก้างออก กลัวจะติดคอมัน ช่วงแรกที่ให้ข้าวสวย(ไม่ผสมน้ำ) ประกอบกับเป็นมื้อแรกๆที่แกะเนื้อปลาทูขยำข้าวให้ กินเข้าไปได้คำสองคำเท่านั้น เจ้าสองตัวมันส่ายหัว อ้าปาก สะบัด ร้องเอ๋งๆๆ เท้าหน้าไขว่อยู่ที่ปาก ข้าวปลาในปากในชามหกกระเด็นเซ็นซ่านเลอะเทอะไปหมด ไอ้เราก็นึก “ตายละหว่า! ก้างติดคอ ไหงติดพร้อมกันเลย” จับมันอ้าปากดู ก็มองไม่เห็นอะไร มันทั้งสะบัดทั้งร้องอยู่อย่างนั้นชั่วครู่ ไม่น่าใช่ก้างแล้ว น่าจะเป็นข้าวหอมนิลปนกับหอมมะลิ ซึ่งมีความเหนียว ยิ่งพออุ่นซ้ำด้วยไมโครเวฟ ข้าวจะยิ่งเหนียวขึ้น น่าจะจากข้าวที่เหนียวติดฟันติดเหงือก จึงลองนำน้ำอุ่นมาผสมให้อย่างเคย อาการที่ว่าคล้ายก้างติดคอนั้น หายเป็นปลิดทิ้ง มาจนทุกวันนี้(ฮา)



คอยห้ามไม่ให้ขึ้นบ้าน มันก็ไม่ขึ้น คล้ายเชื่อฟัง บางครั้งแกล้งเอาเท้าแตะๆ มองว่าจะห้ามหรือเปล่า ถูกห้ามก็ถอย ด้วยสายตาเว้าวอน แต่ถ้าคนออกจากบ้านไปทำงานหมด หรือวันที่ไม่มีใครอยู่ หลังเลิกงานกลับมาจะพบเจ้าสองตัวนั่งอยู่บนบ้านดูเด่นเป็นสง่าเสมอๆ แถมหันหน้าออกคล้ายกำลังทำหน้าที่เฝ้าหรือรอเจ้าของบ้านอยู่ประมาณนั้น ถ้าดุมันจะรีบวิ่งลงจากบ้านอย่างรวดเร็ว แสดงว่ารู้และจำได้ว่าถูกห้าม เป็นอยู่อย่างนี้ตลอด ถ้าคนอยู่มันไม่ขึ้น ถ้าคนไม่อยู่มันจะขึ้นไปนั่งเล่นบนบ้านสบายใจ บางครั้งเอากระดูก เอาเศษไม้ หรือของเล่นต่างๆของมัน ไปแทะเล่นอย่างเพลิดเพลินเสียด้วย

จะเฝ้าบ้านได้หรือ เป็นคำถามที่ทุกคนเริ่มคิด ตั้งแต่ยังเล็กเจ้าสองตัวจะนอนในกรงข้างบ้าน พอดีกลางดึกคืนนั้นฝนตกหนัก เหมือนจะเป็นวันที่กรมอุตุฯแจ้งว่าประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว ผม ภรรยา และลูกชาย ตื่นขึ้นกุลีกุจอไปเปิดกรงรีบเอาเจ้าสองตัวขึ้นบ้าน เอาผ้าปูใต้ม้านั่งที่ระเบียงให้นอน ซึ่งฝนสาดไม่ถึง หรืออาจเพราะเหตุการณ์นี้ด้วย ที่เจ้าสองตัวมักขึ้นบ้านอยู่เรื่อยถ้าคนไม่อยู่ ที่สำคัญมันขี้กลัวมาก ไม่ว่าจะหมาหรือแมวข้างบ้านเดินผ่านไกลๆ แขกไปใครมา หรือคนแปลกหน้า มันจะเห่าอยู่บ๊อกสองบ๊อก เห่าพลางหนีพลาง สถานที่ที่มันจะหนีไปหลบทุกครั้ง คือบริเวณระเบียงบ้านนั่นเอง คงรู้สึกตรงนี้ปลอดภัยสำหรับมัน และถ้าเกิดอารมณ์นี้เข้า อย่าห้ามไม่ให้มันขึ้นบ้านให้เสียเวลา อย่างไรก็ไม่ฟัง ตียังไม่หยุดเลย แสดงว่ามันกลัวหมาแมวหรือคนแปลกหน้ามากกว่ากลัวเรา แล้วอย่างนี้จะฝากบ้านไว้กับมันได้หรือ เลี้ยงเสียข้าวสุกเสียแล้วกระมัง(ฮา)



จะไปธุระค้างคืนที่ไหน ทำไงดี ทิ้งไว้ก็ไม่ได้ จะกินอะไร จะเข้ากรงนอนมั้ย เพราะบางทีหรือบางอารมณ์ต้องวิ่งไล่ต้อนกันรอบบ้าน ถ้านอนข้างนอกยุงกัดตายแน่ ขนาดในกรงมีมุ้ง ยุงเล็ดลอดเข้าไปตามรูโหว่จากฝีมือ(ฝีปาก)พวกมันเอง ยังร้องครางเสียงหลง เพราะฤทธิ์ยุง ตกลงจึงต้องเอามันไปด้วย ไปไหนมาไหนเจ้าสองตัวจึงติดสอยห้อยตามตลอด เหมือนมีลูกเล็กๆเพิ่มอีก 2 คนอย่างนั้นเลย มันจะจองที่นั่งด้านหน้า บริเวณที่วางเท้าคน แต่เหมือนรู้ อยู่บ้านซนมาก พอขึ้นรถ อยู่ในที่แคบกลับไม่ซนเลย นอนคู้หัวคอเกยกันผึ่งแอร์เย็นสบายใจ

ไปมาอยู่อย่างนี้ไม่กี่ครั้ง คงเพราะเริ่มโตและรู้ขึ้น เสาร์อาทิตย์หนึ่งจะออกจากบ้าน เจ้าสองตัวส่งสายตา ออกท่าทางก่อนแล้ว ตะกุยตะกายจะขึ้นรถ ทั้งที่ไม่เคยมีอาการอย่างนี้มาก่อน แล้วก็จริงๆ ทุกทีชวนเดินเล่นไปที่รั้วหน้าบ้าน อย่างไรมันก็ไม่ไป หรือไปแค่ครึ่งทางก็กลับ แต่วันนั้นเจ้าสองตัวมันวิ่งหน้าตั้งตามรถไปจนถึงประตูรั้ว เหนื่อยจนหอบแฮ่กๆ แลบลิ้นยาว แต่ก็ยังร้องเอ๋งๆอ้อนจะไปด้วย หลอกล่อมันจนปิดประตูรั้วได้และออกรถ ขณะที่เสียงร้องอ้อนของมันยังแว่วตามหลังอย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุด

อีกไม่นานเรื่องตามรถตามคนก็เกิดขึ้นอีก คราวนี้พัฒนากว่าเดิม มันยิ่งรู้ขึ้น จะมาโรงเรียนตอนเช้า ทุกวันลูกชายจะคอยจับทั้งสองตัวเวลาถอยรถออกรถ เกรงจะทับมัน แต่ไม่กี่วันมานี้ คิดอย่างไรของมันไม่รู้ ไม่เคยตามมีอยู่ครั้งเดียวก็ครั้งนั้น แต่วันนั้นเป็นวันหยุด ออกจากบ้านสาย คล้ายเราจะไปที่อื่นอย่างมันเคยไป...แต่วันนี้ไปโรงเรียนตามปกติ เวลาก็เช้าปกติ ซึ่งมันไม่เคยตาม พอลูกชายคล้อยหลังขึ้นบ้านเท่านั้น เจ้าสองตัววิ่งหน้าตั้งเหมือนเดิม สายตามันซึ่งมองเห็นทางกระจกหลัง มุ่งมั่นมากทั้งสองตัว เกรงจะไม่ทันรถ ควบไม่หยุด จนถึงประตูรั้วอีกแล้ว ร้องเอ๋งๆอ้อน ตะเกียกตะกายจะขึ้นรถให้ได้ พอหลอกล่อปิดประตูรั้วขังมันอยู่ข้างในก็ออกรถ เสียงร้องอ้อนเอ๋งๆยังคงดัง และคล้ายจะดังกว่าเดิม มันรอดรั้วลวดหนามด้านข้างออกมาแล้ว วิ่งตามต่อหน้าตั้ง แววตามุ่งมั่นเช่นเคย จนเราต้องยอมแพ้ หยุดเอามันขึ้นกระบะหลังพาไปโรงเรียนด้วย เจ้าสองตัวดีใจมาก ออกอาการลิงโลด ขยับไปเกาะกระบะรถฝั่งโน้นทีฝั่งนี้ที กระโดดโลดเต้น หัวหางส่ายไม่หยุด แววตาเป็นประกาย เสียงร้องเปลี่ยนเป็นอิ๋งๆๆ ด้วยความพึงพอใจ

อย่างใครเขาว่าจริงๆ สัตว์เลี้ยงชอบอยู่กับคน โตขึ้น เรียนรู้ขึ้น ติดคน คนก็ติดมัน..

แค่สองเดือนกว่าๆเอง เข้าถึงหัวใจคนรักหมาขึ้นเยอะเลยครับ(ฮา)

หมายเลขบันทึก: 629652เขียนเมื่อ 12 มิถุนายน 2017 19:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2017 08:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

สวัสดีค่ะ

แวะมาอ่านบันทึกนี้ค่ะ

เป็นบันทึกที่อ่านแล้วเพลินค่ะ

ได้เห็นความแสนรู้ของเจ้าสุนัข

ขอบคุณสำหรับบันทึกนี้นะคะ

ระลึกถึงเสมอค่ะ^^

น่ารักมากค่ะ ดูท่าอารมณ์ดี

We always have dogs for companions. Many generations of dogs of various origins have taught us many of the values of life. One most common lesson that dogs seem to hold in high regard is "how to live together". Dogs can forgive!

  • เลี้ยงมันก็เพลินเช่นกันครับ
  • ขอบคุณต้นเฟิร์นครับ..
  • สบายดีนะครับอาจารย์ เปิดเทอมใหม่อีกแล้ว..
  • ขอบคุณอ.เพ็ญศรีครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท