ผมเข้ารับการอบรมในโครงการ “โรงเรียนคุณธรรม” เขตพื้นที่เลือกให้เป็นโรงเรียนแกนนำ มีครูจากหลายๆโรงเรียนเข้าอบรมพร้อมกัน..แต่ละโรงต้องส่งครูเข้าอบรมทั้งหมด...
เป็นโครงการของของ สพฐ.ศธ. ที่กำลังจัดอบรมกันอยู่ในเวลานี้..ทั่วประเทศ..ทุกเขตพื้นที่..
ตอนแรกก็สงสัย ว่าทำไม..สพฐ.คิดใหม่ทำใหม่ไปเรื่อย จากโรงเรียนสีขาว เป็นโรงเรียนวิถีพุทธ ก็น่าจะหยุดกันที่..สถานศึกษาพอเพียง..ที่ใช้ปรัชญาของพ่อ..หรือศาสตร์พระราชา ที่สมบูรณ์แบบทั้งความรู้และคุณธรรม..
แต่ต้นสังกัด กลับคิดปักป้ายใหม่ ทำแบบฟันธง เจาะจงกันไปเลย ต้องเป็นโรงเรียนคุณธรรมเท่านั้น..เป็นอื่นไม่ได้
ผมก็ยังสู้อุตส่าห์สงสัยต่อไปอีก..โรงเรียนมีหน้าที่หลักอยู่แล้วที่จะต้องอบรมบ่มนิสัย ให้เด็กและเยาวชนเป็นคนดี มีความรู้คู่คุณธรรม
ถ้าโรงเรียนอยู่ใกล้วัด..ภาระหนักของโรงเรียนก็เบาหน่อย ใช้วัดเป็นสถานที่ ขัดเกลาฝึกหัดดัดนิสัย ให้เข้าใจใน ศีล สมาธิ และปัญญา..
ถ้าเป็นโรงเรียนบ้าน.ที่ห่างไกลวัด ก็ต้องใช้ปราชญ์ชาวบ้าน หรือภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ามาช่วยถ่ายทอด แต่ครูเอง..ก็ต้องสอนแบบบูรณาการ สอดแทรกคุณธรรมอยู่ตลอดเวลา..
แล้วทำไมเล่า..จะต้องไปประกาศทับซ้อนกับชื่อโรงเรียน หรือว่า..ที่ผ่านมา..โรงเรียนไม่ได้สอนคุณธรรม และหรือ..ที่ผ่านมา..โรงเรียนล้มเหลว..ในการสอน..
ที่สุดแล้ว..วันนี้ผมก็คิดได้และยอมรับ..กับคำว่า “โรงเรียนคุณธรรม” แม้จะไม่เห็นด้วยกับวิธีการอบรมและเนื้อหาในหลักสูตรการอบรม ตลอด ๒ วัน..
ยอมรับว่า..ถึงเวลาแล้ว ที่จะให้คุณธรรมนำหน้าความรู้..ให้โดดเด่นกว่าเดิม ในยุคที่นักเรียนใช้เวลาเรียน เล่นโทรศัพท์มือถือ จนไม่มีเวลาอ่านหนังสือ หรือไม่มีหู ที่จะรับฟังสิ่งดีมีประโยชน์จากใคร
สื่อสิ่งเร้า ที่เป็นขยะ..หรืออบายมุข มากมายเกลื่อนเมือง..เด็กใกล้ชิดและเสพทุกวัน อย่างอิ่มเอมและนิยมชมชอบ..
ถ้าปล่อยปละละเลย..ให้เด็กไปตามยถากรรม อนาคตสังคมไทยล่มสลายแน่นอน โรงเรียนเท่านั้นที่จะยับยั้ง ไม่ให้นักเรียนตกเหวลึก ครูเท่านั้นที่จะฉุดดึงนักเรียนเข้ามาสู่ลู่ทางที่สร้างสรรค์..แม้ว่ายากแค่ไหน..ก็ต้องทำ..
คิดได้..รอไม่ได้..ที่จะหวังพึ่งผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมด้วยกัน เพราะ ปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน..บ่งบอกว่าผู้ปกครองก็เหนื่อยหนักหนา..ตามไม่ทันและเอาไม่อยู่แล้ว..
ภาระหนักจึงตกอยู่กับ “ครู” ที่จะช่วยเชิดชูให้เป็น “โรงเรียนคุณธรรม” จริงๆ อย่าใช้แต่กระดาษ มอบใบงานและแบบทดสอบ ตอบถูกผิด แล้วก็ให้คะแนน..
แต่ต้องให้นักเรียนสร้างชิ้นงาน ปฏิบัติงานกลุ่มร่วมกัน ด้วยความรักสามัคคี มีจิตใจบริการและแบ่งปัน..ใช้กิจกรรมเป็นเครื่องมือ ผ่านกระบวนการคิดแก้ปัญหา นำพาเด็กสู่สังคมและชุมชน เพื่อการมีส่วนร่วมพัฒนา..ตั้งแต่วัยเยาว์..
ตัวครูเอง..ก็ต้องตระหนักในปัญหา และให้ความสำคัญ หมั่นพิจารณาไตร่ตรองอย่างมีสติ ว่าครูเองได้ให้ตัวอย่างที่ดีแก่นักเรียนหรือไม่..อย่างน้อย..ก็ควรสอนเต็มเวลา ไม่มาสาย ไม่ขายตรง ปลงและลดละเลิกอบายมุข..มุ่งสู่เส้นทาง..พอเพียง..
ดังนั้น...ครูสำคัญที่สุด..ครูคุณธรรม เกิดโรงเรียนคุณธรรม...นำพาเด็กดีมีคุณธรรม..ครับ
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๔ พฤษภาคม ๒๕๖๐