-ภาคเช้าของวันศุกร์ที่ 10/03/60 กับภารกิจการจัดอบรมเกษตรกรตามโครงการฯ ณ ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร หรือ(ศพก.)ตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งมีแนวทางการดำเนินงานตามคู่มือนี้ครับ คู่มือการดำเนินงานศูนย์เรียนรู้ฯ ศพก. โดย กรมส่งเสริมการเกษตร และเมื่อการดำเนินงานถูกขับเคลืี่อนโดยศูนย์แห่งนี้ วันนี้ผมจึงขอเก็บภาพและเรื่องราวต่างๆ มาฝากกันสักหน่อยก็แล้วกันนะคร้าบ....เอาเป็นว่าพร้อมแล้วตามผมไป"แล 2 งาน...แก๋งสะแล ล้ำ ลำ"ไปพร้อมๆ กันได้แล้วคร้าบ......
1.เวลาดี 09.00 น. ตามกำหนดการฝึกอบรมเกษตรกรเป้าหมายของอำเภอพรานกระต่ายจำนวน 50 ราย ก็เริ่มขึ้น ณ ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร หรือ(ศพก.)อำเภอพรานกระต่าย ที่ตั้งอยู่ที่ บ้านขอนทองคำ หมู่ที่ 4 ตำบลถ้ำกระต่ายทอง ครับ...ภายใต้การบริหารจัดการของคณะกรรมการบริหารศูนย์ฯแห่งนี้ วันนี้จึงเกิดกระบวนการอบรมให้ความรู้กับเกษตรกรในเขตของอำเภอพรานกระต่าย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดความรู้และส่งต่อแนวทางการประกอบอาชีพการเกษตรให้ประสบผลสำเร็จครับ งานนี้มีหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้องมาร่วมกิจกรรมด้วย จึงทำให้พี่น้องเกษตรกรที่มาร่วมกิจกรรมได้รับความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านอาชีพกันได้อย่างเต็มที่เลยล่ะครับ...ว่าแต่ในระหว่างที่วิทยากรกำลังบรรยายอยู่นั้น ผมขอพอทุกท่านไปเยี่ยมชมกิจกรรมการเกษตรที่อยู่บริเวณศูนย์เรียนรู้แห่งนี้กันสักหน่อยก็แล้วกันนะครับ...
2.พื้นที่ 2 งานเศษ เป็นพื้นที่ของ"พี่สำเริง"เกษตรกรที่สามารถบริหารจัดการพื้นที่ ที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุดครับ โดยกิจกรรมการเกษตรที่ทำก็คือ"การปลูกพืชผักสวนครัว/การเลี้ยงไก่พันธุ์ไข่/การเพาะเห็ดนางฟ้า"ครับ...กิจกรรมการเกษตรบนพื้นที่ไม่มากนักแบบนี้แต่ผลตอบแทนที่ได้รับกลับเป็นรายได้หลักของ"พี่สำเริง"เลยล่ะครับ แม้ว่าจะได้ผลตอบแทนต่อวันไม่มากนักคือ ประมาณ 300-500 บาท/วัน แต่เมื่อลองคำนวณดูคร่าว ๆแล้วก็ถือว่าเป็นรายได้ที่น่าพอใจใช่ไหมล่ะครับ.....อ้อ...พืชผักหลักๆ ที่"พี่สำเริง"ได้ปลูกเอาไว้ก็คือ"ผักบุ้ง/กวางตุ้ง/คะน้า"ที่สามารถปลูกได้ทั้งปี และมีตลาดรองรับทุกวันเลยล่ะครับ..สำหรับเรื่องราคาของผักก็ขยับขึ้นลงตามระบบการตลาดในช่วงเวลานั้น ๆ แต่ก็เป็นราคาที่น่าพอใจสำหรับ"ผู้ผลิต"และ"ผู้บริโภค"ครับ..."พี่สำเริง"เล่าให้ฟังว่าวันนี้จะต้องนำผักไปส่งให้แม่ค้าในช่วงบ่าย ๆ และวันนี้เก็บผักและไข่ไก่ไปส่งให้ลูกค้ารวม ๆ แล้วรายได้ก็ประมาณ 500 บาท ครับ..ได้เห็นแบบนี้แล้วทำให้ตัวผู้เขียนรู้สึกมีพลังใจที่จะต้องก้าวต่อในการพัฒนาพื้นที่การเกษตรของตนเองให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไปครับ....555
และนี่ก็คือภารกิจที่ปฏิบัติในช่วงเช้าของวันนี้ครับ...และเรื่องราวต่อไปที่"ภูมิใจนำเสนอ"นั่นก็คือ"ผักพื้นบ้าน"นามว่า"สะแล"นั่นเองครับ....ว่าแต่"สะแล"จะมีหน้าตาเป็นอย่างไรนั้น พร้อมแล้วตามผมไปชมพร้อมๆ กันได้แล้วคร้าบ!!!!
3.ผมได้"สะแล"มาจากบ้านเกิดเมืองนอน เถิน/ลำปาง/เหนือ มาเมื่อวันหยุดที่ผ่านมา ซึ่งผมได้บันทึกเรื่องราวเอาไว้ในบันทึกนี้ครับ ฮักนะ...หาบต๋องตึง ไป ส้าบะแต๋งซ้าง และก่อนกลับบ้านนอกจากผมจะได้"บะแต๋งซ้าง"กลับมาทำอาหารซึ่งผมได้บันทึกเอาไว้แล้วนั้น ผมยังได้"สะแล"ผักพื้นบ้านที่มีมากในช่วงนี้กลับมาด้วยครับ สำหรับข้อมูลเรื่อง"สะแล"สามารถติดตามได้จากที่นี่ครับ สะแล ผักพื้นบ้านล้านนา หากผู้อ่านท่านใดเป็นคนทางภาคเหนือก็คงจะรู้จักผักชนิดนี้เป็นอย่างดี แต่ถ้าเป็นคนภาคอื่นผมว่าคงต้องกลับไปคลิ๊กดูฐานข้อมูลของ"สะแล"ที่ผมได้แนบไฟล์เอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วนะครับ...และเมื่อทำความรู้จักกับ"สะแล"แล้ว ต่อไปก็ตามผมไปชมวิธีการทำเมนูอร่อยๆ จาก"สะแล"ไปพร้อมๆ กันต่อได้เลยครับ..
4.เมนูนี้มีชื่อเรียกตามชนิดของผักพื้นบ้านนั่นก็คือชื่อว่า"แก๋งสะแล"นั่นเองครับ สำหรับเครื่องปรุงต่างๆ ก็จะมีน้ำพริกแกง ซึ่งส่วนผสมของน้ำพริกก็จะเหมือนกันน้ำพริกแกงเหนือทั่วๆ ไป ประกอบด้วย พริกแห้ง/กระเทียม/หอมแดง/เกลือ/กะปิ/ปลาร้า และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ"มะเขือเทศสุก"ครับ โขลกให้เข้ากันเพียงเท่านี้ก็ได้น้ำพริกแกงใช้สำหรับแกงผักชนิดต่าง ๆได้แล้วครับ และเมนูนี้เราทำแกง"สะแลใส่ปลาย่าง"ดังนั้นเราจึงต้องต้มปลาย่างให้นิ่มและแกะเอาแต่เนื้อปลา ทั้งนี้ก็เพื่อจะได้สะดวกในการกินนั่นเองครับ ที่สำคัญเรายังได้"น้ำซุปอร่อยๆ "จากการต้มปลาย่างมาน้ำแกงอร่อยๆ ด้วยล่ะครับ วิธีทำต่างๆก็ทำตามรูปภาพได้เลยนะครับ...ตามสไตล์การทำอาหารของผู้เขียนเอง ที่มักจะบอกอยู่เสมอๆ ว่า "อาหารพื้นบ้าน ทำง่ายๆ ใคร ๆ ก็ทำได้"นั่นเองครับ....และเมนูนี้ก็เป็นอีกเมนูหนึ่งที่ทำง่ายและอร่อย ซึ่งภาษาทางภาคเหนือจะมีภาษาบอกถึงความอร่อยมากๆ ว่า "ล้ำ...ลำ..."นั่นเองคร้าบ!!!55555
และนี่ก็คือเมนู"แก๋งสะแล..ล้ำ..ลำ"หรือ"ลำขนาด"นั่นเองคร้าบ...
สำหรับวันนี้....
สวัสดีครับ
10/03/2560
เพชรน้ำหนึ่ง
ปล.ขอขอบคุณข้อมูลผักพื้นบ้านจาก สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
แก๋งสะแลใส่ปลาแห้ง ของกิ๋นลำแต้ๆเจ้า
สะแล ถ้ายังไม่ปรุงเป็นแกง มีรสชาดแบบไหนคะ
พี่สำเริงขยันมาก ชีวีมีสุข สบาย ๆ แบบพอเพียงเลยนะคะ
แก๋งสะแล น่ากินมาก เพื่อสุขภาพด้วย ... น่าไปชิม ๆ เอิ้ก กลืนน้ำลายรอ อิ อิ
เพิ่งเห็นสะแล
น่าสนใจมาก
เป็นผักพื้นบ้านหรือครับ
-สวัสดีครับคุณ pattamada
-ของกิ๋นคนเมืองกิ๋นต๋อนไหนกะลำครับ
-ขอบคุณที่มาเยี่ยมชมและให้กำลังใจบันทึกนี้ด้วยนะครับ
-สวัสดีครับคุณใบบุญ
-รสชาติจะจืดๆ ครับ แต่สดๆ จะมียางสีขาวๆ หากไม่ระวังจะเกิดอาการแพ้ได้ครับ
-ดังนั้นจึงนิยมกินแบบสดๆ ครับ
-ขอบคุณที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจบันทึกนี้ครับ
-สวัสดีครับพี่หมอธิ
-อาหารอร่อยๆ แบบนี้มีให้ได้ลิ้มลองที่บ้านไร่ของผมครับ 55
-สำราญ สำเริง กันไป..
-ขอบคุณครับ
-สวัสดีครับอาจารย์ขจิต
-สะแล เป็นผักพื้นบ้านของคนภาคเหนือครับ
-แกงอร่อยดีครับ
-มีให้ได้ลิ้่มลองปีละครั้ง
-อาหารแบบนี้...ปลอดภัย 100 % คร้าบ
-ขอบคุณที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจนะครับ
ไม่รู้จักผักสะแลเลยจ้ะ