ถ้าพูดถึง คำว่า "จิตอาสา" จิตของคนที่รู้จักความเสียสละ ความร่วมมือ ร่วมใจ ในการทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม จะช่วยลดปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม ช่วยกันพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อเป็นหลักการในการดำเนินชีวิต ช่วยแก้ปัญหาและสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์สุขแก่สังคม
แต่ถ้ากล่าวถึง "อาสามัคร"เป็นงานที่เกิดจากผู้ที่มี จิตอาสา ซึ่งมีความหมายอย่างมาก กับสังคมส่วนรวม เป็นผู้ที่เอื้อเฟื้อ เสียสละ เวลา แรงกาย แรงใจ เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น หรือ สังคมให้เกิด ประโยชน์และความสุขมากขึ้น
ในวันที่6 มกราคม พ.ศ. 2560 ข้าพเจ้าได้วางแผนชักชวนเพื่อนในกลุ่มไปสนามหลวงเพื่อทำงานจิตอาสาส่วนตัวของข้าพเจ้ากระทำทุกครั้งกับทางครอบครัวตั้งแต่มีเหตุการณ์สวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นพระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่่ 9 ครั้งนี้ข้าพเจ้าได้มาทำกับกลุ่มเพื่อนร่วมเป็นอาสาสมัครทำดีทั่วบริเวณท้องสนามหลวง เพื่ออำนวยความสะดวกต่างๆ ให้กับประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อพระองค์โดยครั้งนี้ ซึ่งข้าพเจ้าได้ไปลงทะเบียนทำจิตอาสาร่วมกับร่วมใจทำดีเพื่อพ่อ มธ.เปิดศูนย์ประสานงานอาสาสมัคร ดูแลประชาชนรอบสนามหลวง มีประชาชนมากมายต่างมาทำจิตอาสาร่วมกันโดยการทำจิตอาสาครั้งนี้ข้าพเจ้าได้ไปทำอาสาสมัครจัดการขยะ - แยกขยะ ณ บริเวณสนามหลวง การบริหารจัดการขยะ โดยในการจัดเก็บและแยกขยะ จะเน้นจิตอาสารณรงค์ประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้ประชาชน แยกขยะก่อนทิ้ง และทิ้งตามจุดต่างๆที่กำหนดเพื่อความสะดวกในการเก็บและทำลาย โดยอาสาสมัครจะถือถุงแยกเป็น 3 ประเภท คือ เศษอาหาร ขยะทั่วไป และขยะรีไซเคิล ไปรับขยะจากประชาชน ความรู้สึกที่ข้าพเจ้าได้รับ คือ “ ความสุข ” ความสุขจากการให้คนอื่นแต่สิ่งนี้เป็นการให้ทานด้วยการให้ความรู้เรื่องการทิ้งขยะให้ถูกที่ รู้จักการแยกขยะ เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงคุณค่าของขยะตามแนวพระราชดำริของพ่อหลวง รวมทั้งได้ให้ความสุขแก่ประชาชนที่มาเข้าร่วมถวายบังคมพระบรมศพให้ท่านเหล่านั้นมีความสุขจากการเห็นบรรยากาศที่สะอาดถึงแม้ว่าอากาศจะมีสภาพร้อนก็ไม่ทำให้เราเหน็ดเหนื่อยเลย มีพี่ๆน้องๆ คอยแจกน้ำแจกอาหารให้ตลอดเวลา ทำให้เห็นว่าถ้ามีแต่คนทิ้งไม่มีคนเก็บบ้านเมืองคงจะไม่สะอาดมีแต่ขยะไม่น่าอยู่เหมือนการที่มีแต่คนรับ ถ้ารอแต่คนให้ก็จะของที่ได้ก็จะน้อยลง ระหว่างการทำจิตอาสาได้มีคุณลุงท่านหนึ่งซึ่งมาช่วยเป็นอาสาสมัครติดต่อกันนานถึง 10 วัน ท่านได้มาอวยพร และขอบคุณกลุ่มข้าพเจ้าที่ได้มาช่วยเป็นอาสาสมัคร และมีอีกหลายท่านที่มาร่วมขอบคุณ และอวยพรกลุ่มข้าพเจ้า ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกประทับใจที่ได้เห็นผู้คนต่างมีน้ำใจ ช่วยเป็นจิตอาสา รู้สึกมีความสุขมากๆ และข้าพเจ้าได้เห็นว่าคนไทยไม่ทอดทิ้งกันในยามที่ลำบากแน่นอน
ข้าพเจ้าได้ปรับใช้ดังพระบรมราโชวาท ที่ว่า
“คนเราจะเอาแต่ได้ไม่ได้ คนเราจะต้องรับและจะต้องให้ หมายความว่าต่อไป และเดี๋ยวนี้ด้วยเมื่อรับสิ่งของใดมา ก็จะต้องพยายามให้ ในการให้นั้น ให้ได้โดยพยายามที่จะสร้างความสามัคคีให้หมู่คณะและในชาติ ทำให้หมู่คณะและชาติประชาชนทั้งหลายมีความไว้ใจซึ่งกันและกันได้ ช่วยที่ไหนได้ก็ช่วย ด้วยจิตใจที่เผื่อแผ่โดยแท้”
ส่วนตัวของข้าพเจ้านี่อาจเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยที่สามารถแบ่งปันช่วยเหลือกัน แต่ไม่ว่าจะทำอะไรขอเพียงทำดีด้วยความตั้งใจจริงก็เพียงพอแล้ว และข้าพเจ้าเชื่อว่าทุกคนยึดมั่น "ขอทำความดีเพื่อพ่อ" รักษาบรรยากาศของความมีน้ำใจ สมัครสมานสามัคคี
สำหรับสุดท้ายนี้ ข้าพเจ้าคิดว่าการทำดี คิดดี เริ่มได้หลายอย่าง ทำได้ทุกเมื่อ แค่คุณลองก้าวและลงมือทำ
และนี่คือภาพประมวลกระบวนการทำจิตอาสากิจกรรมบำบัดของฉัน “นักศึกษากิจกรรมบำบัด”
อันนี้เป็นพระบรมฉายาลักษณ์ ซึ่งมีปฎิทินด้านหลัง หลังจากที่ข้าพเจ้าได้มาข้าพเจ้าได้พกใส่กระเป๋าสตางค์ติดตัวตลอด
ภาพการอบรมก่อนจะทำ "จิตอาสา"
ภาพระหว่างการทำ"จิตอาสา"
การวิเคราะห์กิจกรรมของฉันคือ
"S.P.I.R.I.T"+การให้เหตุผลทางคลินิค (condition clinical reasoning)+หัวใจนักปราชญ์
จากการทำ"จิตอาสา" ครั้งนี้ ฉันให้คะแนนความสุขของฉันคือ 50%
นางสาว กชกร แก้วไสล
นักศึกษากิจกรรมบำบัด ชั้นปีที่ 2 5823001
ไม่มีความเห็น