​ชีวิตที่พอเพียง : 2856. เถียง The Human Capital Report 2016



รายงานทรัพยากรมนุษย์ ๒๕๕๙ ซึ่งอ่านได้ ที่นี่ ให้ข้อมูลเชิงเปรียบเทียบที่มีคุณค่ามาก สรุปว่าของไทยเป็นที่ ๓ ในอาเซียน


แต่ผมเถียง ว่าเกณฑ์ในการคิดคุณค่าของ “ทรัพยากรมนุษย์” ของเขายังมองไม่ครบถ้วน เขามองเฉพาะส่วนที่เป็นด้านบวก ไม่เอาด้านลบ หรือตัวถ่วง มาหักลบ ซึ่งด้านลบของไทยเราสะท้อนออกมาในกรณีสินบน โรลส์รอยซ์ และกรณีนักศึกษาแพทย์มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งไปรับจ้างสอบเข้าโรงเรียนนายสิบตำรวจ และอื่นๆ มากมาย คือเรื่องคุณธรรมศีลธรรมประจำใจคน


ผู้คนมักลืมไปว่าความมีคุณธรรมประจำใจ เป็นสินทรัพย์ล้ำค่ากว่าสิ่งอื่นใด


ขอเล่าเรื่องใกล้ตัวประกอบ เป็นเรื่องในหมู่พี่ๆ น้องๆ ของสาวน้อย


เขามีมรดกร่วมเป็นห้องแถวในเมืองนครศรีธรรมราชอยู่ห้องหนึ่ง ตอนนี้เจ้าของร่วมคือ ๔ พี้น้อง เรียงตามลำดับคือ หมอ ว. อยู่ที่อเมริกา, ลุง ต. อายุกว่า ๘๐ อยู่ในกรุงเทพ, ป้า อ. บ้านอยู่ติดกับบ้านผม, และสาวน้อย เจ้านายผม ผู้ร่วมเป็นเจ้าของตามกฎหมายคือลุง ต. กับป้า อ. ทุกคนยกเว้น ป้า อ. ซึ่งเป็นหมอฟัน มีลูก ห้องแถวนี้มีคนเช่า และป้า อ. เป็นคนเก็บค่าเช่า เก็บเอามาเก็บไว้อย่างดี ไม่เอาไปใช้ ทำบัญชีไว้อย่างดี ส่วนคนคอยไปดูแลเสียภาษีคือ หนุ่ม ก ลูกชายลุง ต.


ทุกคนรู้ดีว่าสักวันหนึ่งจะยุ่งยาก เพราะเจ้าของร่วมจะค่อยๆ ล้มตายไป เพราะคนที่อายุน้อยที่สุดก็ ๗๔ แล้ว สาวน้อยจึงออกความคิดว่า หนุ่ม ก ช่วยดูแลสมบัติชิ้นนี้อย่างไม่บ่น จึงเสนอให้โอนที่ดิน ยกให้หนุ่ม ก ไปเลย โปรดสังเกตว่าสาวน้อยไม่ได้เสนอขาย หรือเสนอยกให้ลูกของตนเองนะครับ กลับเสนอให้ยกให้ลูกของพี่ชาย


เท่านั้นแหละเป็นเรื่อง คนแก่ก็ถกเถียงกัน ลุงตุ๊แย้งว่าสามคนที่กรุงเทพตกลงกันโดยไม่ถามพี่ชายใหญ่ที่อเมริกาเลยหรือ น้องสาวสองคนบอกว่า พี่ชายใหญ่ที่อเมริกาเขามีสมบัติเงินทองมากมาย เขาไม่สนใจ “หนวดกุ้ง” นี้หรอก (มีทองเท่าหนวดกุ้ง นอนสะดุ้งจนเรือนไหว) หรือถ้าเขาแย้ง ก็ตีราคาหารสี่ เอาเงินให้เขาไป มีรายละเอียดของคนแก่เถียงกันมากมาย เพราะมีเวลาว่างให้เอาเรื่องจุกจิกมาหาความสนุกกับการถกเถียง แต่จะไม่เล่า


เล่าเพียงว่า ในที่สุดก็ได้ happy ending คือโอนที่ดินให้หนุ่ม ก ไป และป้า อ ก็เปิดเผยเงินค่าเช่าที่เก็บไว้นานเป็นสิบปีว่าเมื่อหารสี่ จะได้คนละประมาณ ๑.๕ แสนบาท


ทั้งหมดนั้น ผมชื่นชมในความมีคุณธรรมของสี่พี่น้องตระกูล เศวตวรรณ ตามที่เล่า และผมภูมิใจได้เข้าไปเป็นเขย ต้นตระกูลคือพ่อของเขามีอดีตเป็นพลตำรวจ รับราชการไต่เต้าจนเป็นพันตำรวจโท รองผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค ๔ ซึ่งหากเป็นเวลานี้จะมียศพลตำรวจตรี


ผมตีความว่า การมีคุณธรรมของพี่น้องสี่คนนี้ ทำให้เขามีชีวิตที่ดี เป็นคนที่ได้รับความไว้วางใจจากสังคมที่แต่ละคนเข้าไปเกี่ยวข้อง และที่สำคัญ ลูกๆ ก็เป็นคนที่มีนิสัยแบบเดียวกัน


วิจารณ์ พานิช

๒๗ ม.ค. ๖๐


หมายเลขบันทึก: 623487เขียนเมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2017 00:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2017 11:56 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

รายงานทรัพยากรมนุษย์ ไม่มีลิงค์ครับ ....

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท