เช้าวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๙ ผมเข้าประชุม สามพรานฟอรั่ม ระหว่างนั่งฟังการนำเสนอ และการอภิปราย เรื่องโครงการ คศน. ก็ได้มีโอกาสไตร่ตรองสะท้อนคิด (reflect) เขียนบันทึกนี้ เป็นช่วง ๒ ชั่วโมงที่ผมได้เรียนรู้ฝึกฝนตนเองเป็นพิเศษ
นิยามของ “ผู้นำ” มีได้หลากหลาย โดยนิยามของผมคือ เป็น “ผู้นำการเปลี่ยนแปลง” (change agent) ไม่ได้หมายถึงเป็นหัวหน้าหรือมีตำแหน่งใหญ่โต แต่เป็นคนในระดับใดก็ได้ ที่มีความมั่นใจในตนเอง มีความเห็นแก่ส่วนรวม ต้องการทำให้ส่วนรวมดีขึ้น มีความฝันว่าอยากเห็นส่วนรวมเปลี่ยนแปลงตรงไหน และมีความกล้าที่จะลุกขึ้นมารวมตัวกันกับคนที่คิดคล้ายๆ กัน ช่วยกันหาทางและดำเนินการสู่ฝัน
จากนิยามข้างบน อาจมีคนมองว่า ผู้นำต้องเป็น “นักสู้” ซึ่งผมคิดว่าน่าจะถูกต้อง แต่การต่อสู้น่าจะมีหลายแนวทาง และแนวทางของผู้นำที่แท้น่าจะปูพื้นด้วยการคิดเชิงบวก หรืออยู่ในบรรยากาศเชิงบวก (positive thinking) ประกอบกับการมีทักษะเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง ให้เกิด “การเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง” (Transformative Learning) เปลี่ยนกระบวนทัศน์ของตนเองได้เป็นระยะๆ จากประสบการณ์ตรง
ตามหลักสูตรการเรียนรู้ของ คศน. หัวใจของเครื่องมือที่ได้เรียนคือ การคิดกระบวนระบบ (Systems Thinking) การไปเผชิญสภาพความเป็นจริงในสังคม ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่เราไม่คาดคิด เต็มไปด้วยความขัดแย้ง และความทุกข์ยากของผู้คน เพื่อบรรจุความรู้สึกอึดอัดเข้าในใจของตน
ดร. วรชาติ เล่าประสบการณ์ตรงของตน ในการสังเกตเพื่อนๆ สมาชิก คศน. ว่าการเข้าหลักสูตรช่วยให้กล้าทำงานพัฒนาเรื่องใหญ่และยากขึ้น มีสุนทรียะมากขึ้น
ศ. พญ. วณิชา ชื่นกองแก้ว บอกว่า ได้เครือข่าย (ทั้ง horizontal และ vertical) ได้เรียนรู้ความหลากหลาย ทำให้ความคิดกว้างขึ้น ออกมาจากชีวิตแคบๆ ในวิชาชีพ บอกว่าตนได้ 4D (Diversity, Development, Deployment, Dream)
ไม่ว่าการเรียนรู้ของผู้นำ หรือของใครๆ ก็ตาม ต้องเน้นเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง ในสถานการณ์จริง
วิจารณ์ พานิช
๙ ธ.ค. ๕๙
ไม่มีความเห็น