​10 เรื่องที่เด็กออทิสติกอยากให้คุณรู้ (ตอนที่ 1)

ทุกๆวัน เด็กที่เป็นออทิสติกแสดงให้เราเห็นว่า เขาสามารถเอาชนะอาการออทิซึม สร้างสิ่งทดแทน สิ่งที่พร่องไปหรือสามารถจัดการกับประเด็นต่างๆ ที่ท้าทายมากของโรคได้ หากเราสามารถสอนให้เด็กของเราเข้าใจปัจจัยพื้นฐานที่สุดของออทิซึมก็จะสามารถช่วยให้เขาสามารถพัฒนาเป็นผู้ใหญ่ที่มีความเป็นอิสระ และทำตัวให้เป็นประโยชน์แก่สังคมได้

ออทิซึมเป็นโรคที่ซับซ้อนอย่างมาก แต่เพื่อความเข้าใจจึงกลั่นกรองลักษณะของโรคลงมาให้เหลือสี่ด้านคือ
1.กระบวนการรับรู้ที่ไม่ปกติ
2.การพูด หรือการใช้ภาษาได้ช้า
3.การขาดทักษะการเข้าสังคม
4.ประเด็นโดยรวมเรื่องความเคารพตนเอง
แม้ปัญหาทั้งสี่ข้อนี้ ดูเหมือนจะเป็นอาการของเด็กทั่วๆไป แต่พึงรำลึกไว้เสมอว่า ออทิซึมเป็นโรคที่เป็นสเปคตรัม หรือมีหลายระดับ จนไม่มีเด็กสองคนหรือแม้แต่ยี่สิบคน ที่จะมีอาการเหมือนกันทุกอย่าง แต่ละคนก็จะอยู่ในแต่ละระดับของเสปคตรัม ทำให้พ่อแม่ ครู และผู้ดูแล ก็จะต้องมีความเข้าใจที่ต่างระดับกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือเด็กก็จะมีความต้องการที่แตกต่างกัน

1.อันดับแรกสุดและสำคัญที่สุด คือหนูเป็นเด็ก
การที่หนูเป็นออทิสติกเป็นเพียงส่วนหนึ่งของลักษณะนิสัยของหนู ไม่ใช่เป็นเรื่องที่จะกำหนดว่าหนูเป็นอย่างไร คุณเป็นคนที่มีความคิด ความรู้สึก ความสามารถมากมายหรือเปล่า หรือเป็นเพียงคนอ้วน(น้ำหนักเกิน)สายตาสั้น หรือเก้งก้าง สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งแรกที่หนูเห็นเมื่อพบคุณ แต่ก็ไม่ได้แปลว่านั่นคือคุณ ใช่ไหม?
ในฐานะผู้ใหญ่ คุณสามารถควบคุมได้ว่าคุณต้องการกำหนดให้ตัวคุณเป็นอย่างไร คุณอาจพัฒนาคุณลักษณะหนึ่งขึ้นมาและทำให้เด่นชัดจนคนอื่นรับรู้ แต่ในฐานะเด็ก หนูกำลังพัฒนาตนไปเรื่อยๆ ทั้งคุณและหนูเองก็ไม่รู้ว่าหนูสามารถทำอะไรได้บ้าง การเจาะจงกำหนดว่าหนูเป็นโน่นเป็นนี่ อาจจะก่อปัญหาเรื่องความคาดหวังที่ต่ำเกินไป และถ้าหากหนูจับได้เมื่อไรว่า คุณไม่ได้คิดหรอกว่าหนูจะทำได้ คำตอบที่เป็นธรรมชาติที่สุดของหนูก็คือ แล้วหนูจะทำไปทำไมล่ะ

2.กระบวนการรับรู้ของหนูนั้นสับสน
การบูรณาการการรับรู้ทางประสาททั้งหมดนั้นเป็นสิ่งที่เข้าใจยากที่สุดในเรื่องโรคออทิสติก แต่ก็นับว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุด หมายความว่าการมองเห็น การรับรู้เสียง รับรู้กลิ่น รส และสัมผัสของทุกๆวัน ที่คุณอาจจะแทบไม่สังเกตเห็น กลับกลายเป็นเรื่องที่ทำให้หนูต้องเจ็บปวดทางกายจริงๆ สภาพแวดล้อมที่หนูอาศัยอยู่ต้องกลายเป็นศัตรูสำหรับหนู อาจจะดูเหมือนหนูหลบหลีกหรือก้าวร้าวกับคุณ แต่จริงๆแล้วหนูกำลังพยายามป้องกันตนเองอยู่ ได้โปรดเห็นใจและเข้าใจหนูด้วย