“สิ่งไหนหรืออะไรก็ตาม ที่เคยได้ทำ ได้คิด แล้วคิดได้ ทำได้
แม้เวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ เราก็ไม่มีวันลืม”
เช่นกับในวันนี้ ในชั่วโมงชุมนุมของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ที่ฉันและเพื่อนได้ตั้งขึ้น ก็ได้เวียนมาอีก 1 สัปดาห์ วันนี้จะได้ให้นักเรียนทำดอกคาเนชั่นจากกระดาษทิชชู่ ผสมผสานกับการใช้สีโปสเตอร์ โดยที่ความคิดริเริ่มที่จะทำนั้น มีที่มาจากคุณยายของฉันเอง
โดยที่วิธีการทำดอกไม้นี้ ได้มาจากคุณยายของฉันเอง คุณยายเคยสอนฉันดอกไม้ในประเพณีปอยหลวง ซึ่งเป็นประเพณีการทำบุญของคนในท้องถิ่นภาคเหนือ ในบางจังหวัดเช่น เชียงใหม่ ลำพูน และในตอนนั้นฉันเองก็ยังเป็นเด็กมัธยมปลาย ได้เรียนรู้การทำดอกไม้ประดับต้นสลากที่เอาไว้เสียบเงินทำบุญ โดยที่ในแต่ละบ้านก็จะมีของตนเอง เพื่อยกไปทำบุญที่วัด และในตอนนั้นคุณยายใช้กระดาษสาสีต่างๆ แต่ในวันนี้ฉันได้ประยุกต์ใช้กระดาษทิชชู่สีขาว เพื่อให้นักเรียนได้ลงสี ตกแต่งตามใจชอบ เป็นการผสมผสานระหว่างงานประดิษฐ์จากสิ่งของใกล้ตัวและงานศิลปะเข้าด้วยกัน เหมือนกับชื่อชุมนุม “ศิลปะสร้างสรรค์”
เด็กๆตั้งใจทำดอกไม้ของตัวเอง
เมื่อเด็กๆได้ทำผลงานเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ก็ได้ทำการถ่ายรูปร่วมกัน แล้วฉันก็ลองไปสอบถามว่า ถ้ากลับไปที่บ้านจะทำเองได้ไหม เด็กๆก็บอกว่าทำได้และจะลองทำให้คุณแม่ดู พอได้ยินคำตอบแบบนี้ ฉันเองก็ดีใจที่เด็กๆเกิดการเรียนรู้ และหากทำบ่อยๆก็จะเกิดทักษะได้ด้วยตนเอง และไม่ว่าจะผ่านไปอีกนานแค่ไหน สิ่งเหล่านี้ก็ยังคงติดตัวของพวกเขาตลอดไป
ฉันเองก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ได้เรียนรู้สิ่งนี้จากคุณยาย เหตุการณ์ในวันนี้ทำให้นึกถึงท่านมากขึ้น แม้วันนี้จะไม่มีท่านแล้ว แต่ท่านก็ได้ให้หลายๆสิ่งติดตัวฉันมาตลอด ขอบคุณยายของฉันและดอกไม้ของยายในวันนั้น ทำให้ฉันได้นำมาสอนเด็กๆรุ่นหลัง ได้ทำในสิ่งที่พวกเขาก็ไม่เคยคิดว่าจะทำหรือได้ทำในวันนี้
“ดอกไม้ของยายในวันนั้น สู่การสร้างสรรค์ของเด็กๆในวันนี้…”
ไม่มีความเห็น