สิทธิที่จะถูกลืม (Right to be Forgotten) สิทธิมนุษยชนใหม่ที่เกิดขึ้นในโลกออนไลน์
เมื่อปี 2009 ชายชาวสเปนนามว่า มาริโอ กอนซาเลส (Mario Costeja Gonzalez) เสิร์ชชื่อของเขาใน google กลับปรากฎ link ข่าวในหนังสือพิมพ์ La Vanguardia เผยแพร่คดีที่เขาถูกยึดบ้านและหนี้สินต่างๆ ทั้งที่เขาชำระหนี้หมดมลทินไปแล้วตั้งแต่ปี 2007
เขาจึงไปร้องเรียนต่อสำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสเปน (AEPD หรือ Agencia Espanola de Protection de Datos) ประเทศไทยน่าจะมีหน่วยงานนี้นะ เอ หรือมีแล้วหว่า
AEPD พิจารณาแล้วเห็นว่า หนังสือพิมพ์มีสิทธิ์ตามกฎหมายที่ไม่ต้องลบข้อมูลที่ตีพิมพ์ไว้แล้ว เพราะเป็นข่าวที่เผยแพร่ตามข้อเท็จจริงในช่วงเวลานั้น จึงมีสิทธิ์โดยชอบธรรม (lawfully published) แต่กลับมีคำสั่งให้กูเกิ้ลลบลิงก์เหล่านั้นออก แต่กูเกิ้ลได้อุทธรณ์ต่อศาลสูงของสเปน ซึ่งศาลสเปนได้ส่งต่อไปยังศาลยุติธรรมแห่งสหภาพยุโรป หรือ EJEU และศาลยุติธรรมแห่งสหภาพยุโรปได้มีคำพิพากษาว่า
โดยยึดบรรทัดฐานการปกป้องข้อมูลของสหภาพยุโรปในปัจจุบัน ที่ว่าผู้ให้บริการสืบค้นข้อมูลอินเทอร์เน็ต (Search engine) ต้องมีความรับผิดชอบในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว กูเกิลจะต้องทำตามกฎหมายว่าด้วยความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคล (EU Data privacy law) และต่อมาได้มีการแก้ไขกฎหมาย สิทธิที่จะถูกลืมและสิทธิที่จะลบข้อมูลไว้ในมาตรา 17 อย่างชัดเจน
การใช้สิทธิที่จะถูกลืม คาดว่าใช้ได้ทั้วโลกแล้ว โดยผู้ใช้ลองเข้าไปศึกษาใน google เสิร์ชคำว่า right to be forgotten ก็ได้ แล้วกรอกแบบฟอร์ม และรายการ URL รวมทั้งคำบรรยายสั้นๆ และ google จะตรวจสอบก่อนลบให้
ในอดีตเรามีข่าวไม่ดีหรือไปประกวดร้องเพลงแล้วมารู้สึกแย่ในวันนี้ พ้นโทษติดคุกมาแล้วก็ตาม บางคนก็ใช้วิธีเปลี่ยนชื่อแส้ แต่วันนี้ google คืนสิทธิที่จะถูกลืมให้แล้ว
ข้อมูลเพิ่มเติม http://ec.europa.eu/justice/data-protection/files/factsheets/factsheet_data_protection_en.pdf