ข้อคิด
ก.ปรมัตถธรรมกับการคาดคะเน
การมองโลกไม่จริงคือการมองโลกโดยใส่ความหมายเข้าไปเหมือน 3 คนเห็นท่อนไม้ คนหนึ่งว่า ค้อน คน 2 ว่า ฟืน คน 3 ว่า เสา สิ่งนี้ ท่อนไม้คือโลกจริง ใส่ความหมายก็กลายสภาพไปดัง 3 คนนั้น
ข.อนัตตาในพุทธยุคแรกและต่อมา
อนัตตาคือบังคับบัญชาให้เป็นไปตามที่เราต้องการไม่ได้ สื่อถึงขันธ์ 5 นั้นควบคุมไม่ได้ พระสารีบุตรอธิบายอนัตตาว่า ปราศจากแก่นสาร นี่คือโลกกายภาพ...ปราศจากแก่นสารสาระ. ( น. 170 ) กายคนคือโลกกายภาพ อภิธรรมเรียกว่า รูปธรรม คนเกิดมามีขันธ์ 5 ไม่เหมือนกันคือแล้วแต่กรรมใครกรรมมัน และ...พุทธศาสนาถือว่าความจริงแท้สุดท้ายนั้นมีลักษณะเป็นสภาวะคือพูดไม่ได้ว่ามีตัวตนเป็นชิ้นเป็นก้อน. ( น. 180 )...พุทธศาสนาสนใจกายของมนุษย์มากกว่าอย่างอื่น. ( น. 181 ) และสิ่งที่เรียกว่ารูปคือภาพสิ่งนั้นกับสิ่งนั้นต่างกันเช่น ดาวส่องแสงมากระทบตาเรา แต่สิ่งนั้น ( ดาว ) ดับสลายไปแล้วเมื่อหมื่นปีแสง คือแสงพึงเดินทางมาถึงให้เราเห็นนั้นเอง.
..................................
บรรณานุกรม
สมภาร พรมทา. 2559. พุทธปรัชญาในอภิธรรมปิฎก. นนทบุรี : บริษัทปัญญฉัตร์ บุ๊คส์ บายดิ้ง จำกัด.
ไม่มีความเห็น