ทุกเช้า..ผมออกจากประตูรั้วของทุ่งดินดำรีสอร์ท เพื่อไปทำงานที่โรงเรียน ผ่านที่ทำการ อบต. รถต้องวิ่งผ่านป้ายสูงใหญ่ ตั้งเด่นเป็นสง่ามานานนับ ๑๐ ปี ผมขับรถไปอย่างช้าๆ แหงนหน้ามองพระองค์ท่าน พร้อมอ่านข้อความ..ทรงพระเจริญ..ผมยกมือไหว้พ่อทุกวัน ขอกำลังใจจากพ่อ ให้ลูกทำงานก้าวข้ามผ่านปัญหาและอุปสรรคทั้งหลายทั้งปวงด้วยเถิด
พอถึงโรงเรียน..ช่วยนักเรียนเก็บกวาด
ทำความสะอาดสิ่งแวดล้อม แล้วนำนักเรียนฝึกซ้อมดนตรี เครื่องดนตรีที่ใช้ในวงดุริยางค์และกลองยาวจะอยู่ในห้องพอเพียง..นักเรียนทุกคนเข้าใจดีว่าเมื่อเข้ามาในห้องนี้แล้ว
จะต้องสำรวม เพราะถือว่าเป็นห้องนิทรรศการ รวบรวมพระราชกรณียกิจ พระบรมราโชวาท
หลักการและทฤษฎีปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในทุกมิติ
นับเป็นศูนย์การเรียนรู้ที่ทรงคุณค่าแห่งหนึ่งของโรงเรียน...
เมื่อนักเรียนหยิบเครื่องดนตรีของตนไปซ้อมแล้ว
ผมถือโอกาสออกจากห้องเป็นคนสุดท้าย เพื่อสำรวจดูห้องว่าเรียบร้อยเป็นปัจจุบันหรือไม่ และไม่ลืมที่จะอ่านข้อความที่ประตูห้องด้วยทุกครั้ง
เพื่อสร้างพลังใจในการทำงาน เป็นข้อความจากพระบรมราโชวาท ที่ผมนำมาใช้เป็นปรัชญาของโรงเรียน...
”เมื่อจะทำงาน
อย่าหยิบยกเอาความขาดแคลนเป็นข้ออ้าง..จงทำงานท่ามกลางความขาดแคลน..จงทำด้วยความตั้งใจและซื่อสัตย์...”
ที่โรงเรียนจัดการเรียนการสอน โดยใช้การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมจากวังไกลกังวล (DLTV) และใช้คู่มือพระราชทาน ผมจะบอกนักเรียนเสมอว่า ให้ตั้งใจเรียน เพราะสื่อและเครื่องมือในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้อยู่นี้ ที่นักเรียนเรียกว่าครูตู้นั้น เป็นของขวัญจากพ่อ ที่พระราชทาน ให้ทุกโรงเรียนที่ด้อยโอกาสและขาดแคลนครู เป็นหนึ่งในโครงการพระราชดำริ ที่ก่อคุณประโยชน์ให้แก่วงการศึกษาไทยอย่างอเนกอนันต์
ผมไม่ลืมที่จะบอกครูและนักเรียนเสมอว่า..พระองค์ท่านให้ครูรักเด็กและเด็กรักครู...ให้ครูสอนเด็กให้มีน้ำใจต่อเพื่อน ไม่ให้แข่งขันกัน แต่ให้แข่งขันกับตัวเอง ให้เด็กที่เรียนเก่งกว่า สอนเพื่อนที่เรียนช้า...ให้ครูจัดกิจกรรมให้นักเรียนทำร่วมกัน เพื่อให้เห็นคุณค่าความสามัคคี...
ทุกวัน..ที่ทำงานในโรงเรียนขนาดเล็ก ที่ผมรู้สึกได้ว่ายิ่งใหญ่ และภูมิใจที่สุดที่ได้ทำงานเป็นข้าราชการครู ภายใต้เบื้องพระยุคลบาท..เพื่อนรุ่นเดียวกัน ก้าวหน้าอยู่ในโรงเรียนขนาดใหญ่ ได้เลื่อนซีเลื่อนระดับ แม้ใครต่อใครจะก้าวไปไกลแค่ไหน แต่ผมกลับมีความสุขในโรงเรียนเล็กหลังนี้ สร้างเด็กให้เป็นคนดี ถึงผมจะก้าวไปไม่ไกลกว่านี้ผมก็ยอม..
เพราะผมยึดมั่นในคำสอนของพ่อ..เหนื่อยนักก็พัก และอ่านข้อความที่เป็นพระบรมราโชวาทที่ผมติดไว้หน้าอาคาร สร้างแรงบันดาลใจจากคำที่พ่อสอน..พ่อบอกพวกเราเสมอว่า...”ผู้ที่มีระเบียบวินัยนั้น เป็นผู้ที่เข้มแข็ง...และการที่จะทำงานให้ดี ก็ต้องมีความร่าเริง....”
เหนืออื่นใด..ที่ผมยึดถือไว้และปฏิบัติมาอย่างยาวนาน นับแต่วันแรกที่เข้ารับราชการครู พระบรมราโชวาทของพ่อ ที่ให้ปลูกฝังให้เกิดขึ้นในเด็กๆทุกคน และผมได้ถือปฏิบัติไว้เป็นแบบอย่างแก่ครูและนักเรียนเสมอ...
“...ความซื่อสัตย์สุจริต เป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง...”
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
ไม่มีความเห็น