จะห้ามหัวใจ...ไม่ให้รักพระองค์ได้อย่างไร​



..

วันที่ตื่นเต้นที่สุดในชีวิต คือวันที่ยืนอยู่หน้าพระองค์ท่านเพียงแค่เอื้อมมือไปก็ถึงตัวท่านแล้ว....
..
ทำไมพระองค์ท่านถึงงดงามเหลือเกิน...ในความรู้สึก
..
..

ทุก ๆ ย่างก้าวที่เดินเข้าใกล้พระองค์นั้น... มันเหมือนมีพลังแม่เหล็กขนาดใหญ่ที่ดึงดูดหัวใจตัวเองให้เข้าไปน้อมกราบ...หัวใจทั้งดวงที่อิ่มเอมเหลือเกินนัก .....คิดไม่ถึงเลยว่าครั้งหนึ่งในชีวิตนั้น....ตัวเองจะมีวาสนาถึงเพียงนี้

..

กระดาษแผ่นเดียวนี้....ที่ตัวเองมีวาสนาได้ถือร่วมกับพระองค์ท่าน

ชีวิตหนึ่งที่ได้เกิดมาบนโลกใบนี้.....มันก็งามเหลือเกินแล้ว

และมันจะงามยิ่งไปกว่านั้นอีก....หากชีวิตนี้ได้เดินตามรอยเท้าท่าน... แม้นเพียงเศษเสี้ยวของธุลีดินที่ล่วงหล่นจากรอยเท้าของท่านก็ตามที

..
....
..
..

ยังคง...จดจำคำพูดที่พระองค์ท่านตรัสไว้ในวันนั้นได้ดีเสมอ..
พระองค์พูดในวันนั้น..จับความได้ว่า...

..

สิ่งที่ยึดเหนี่ยวความดีงามของคนเรานั้น เกิดได้จากทุกงาน ทุกอาชีพ ผู้ที่เป็นบัณฑิตแล้ว ต้องยึดมั่นในความดีความงามนี้ ให้เกิดประโยชน์แก่ส่วนรวม ....หาไม่เช่นนั้นแล้วสิ่งที่ร่ำเรียนมาก็ไม่เกิดประโยชน์แต่อย่างใด...ความรู้ที่ได้เล่าเรียนมาก็ไม่มีค่า...

..

พระองค์ทรงบอกเป็นนัยว่า...คนเรานั้นความดีความงามอยู่ที่การกระทำต่างหาก.... องค์ความรู้เป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งของชีวิตเท่านั้น... และการที่จะเป็นคนดีได้นั้น หาใช่ขึ้นอยู่กับว่า...ใครคนไหนที่มีความรู้มากมีความรู้น้อยแต่อย่างใด... หากแต่ว่า...การที่จะเป็นคนดีนั้น...ขึ้นอยู่กับหัวใจที่ใฝ่ดีต่างหาก

..
..
และนี่คือ... ภาพสะท้อนจากความทรงจำเมื่อ 20 กว่าปีที่ผ่านมาของตัวเอง .
..
..

น้ำตาซึมทุกครั้ง...ที่เห็นภาพของพระองค์ทรงงานเพื่อพวกเรา...พระองค์ไม่เคยทอดทิ้งให้พวกเราเปลี่ยวเหงาในหัวใจเลย..แม้ซักวันเดียว!!....

..
..

แล้วจะห้ามหัวใจของเรานั้น...ไม่ให้รักพระองค์ได้อย่างไร

หมายเลขบันทึก: 616963เขียนเมื่อ 13 ตุลาคม 2016 17:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 ตุลาคม 2016 19:54 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

พระองค์ท่านเสด็จสวรรคค แล้ว วันที่ 13 ตุลาคม 2559 ขณะฟังข่าว คือ 19.09 น ขอดวงพระวิญญาณของพระองค์ท่านเสด็จสู่สรวงสวรรค์ และเป็นที่พึ่งทางใจของข้าพเจ้าทุกลมหายใจ ตลอดไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่... ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม

..

บันทึกนี้ เขียนเมื่อ วันที่ 13 ตุลาคม 2559 เวลาประมาณ 16.30 น ก่อนที่พระองค์ท่านจะเสด็จสวรรคต

เรารักของเรา..ตั้งแต่จำความได้

และเราจะรัก...ของเราอย่างนี้ตลอดไป

..

ขอพระองค์...เสด็จสู่สวรรคาลัย..

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ...ข้าพระพุทธเจ้านายพงค์เพชร์ แสงศรี และครอบครัว

Born in the reign of KING BHUMIBOL ADULYADEJ

รัชกาลที่ ๙
ครองราชย์วันที่ ๙
ปี พ.ศ. ๒๔๘๙
เมื่อพระชนมายุ ๑๙
สวรรคตพระชนมายุ ๘๙
สวรรคตปี พ.ศ. ๒๕๕๙
สวรรคตปี ค.ศ. ๒๐๑๖ {๒+๐+๑+๖} = ๙

เลข ๙ คือ เลขของพ่อของแผ่นดิน

วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร ( ร.๙ ) สวรรคต เวลา ๑๕:๕๒ น. ณ โรงบาลศิริราช พระชนมพรรษา ๘๙ ปี ทรงครองสิริราชสมบัติได้ ๗๐ พรรษา


สิ้นสุดรัชสมัย รัชกาลที่ ๙ แห่งราชวงศ์ จักรี
วันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙
ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ปีวอก
ชีววาร(ช) อาสยุชมาส อัฐศก จุลศักราช ๑๓๗๘
คริสตศักราช 2016 , มหาศักราช ๑๙๓๘
รัตนโกสินทร์ศก ๒๓๕ , สุริยคติ เป็น อธิกสุรทิน
จันทรคติ เป็น ปกติมาส อธิกวาร

....

ขอเก็บไว้ในความทรงจำของชีวิต

มาอ่านและขออนุญาตน้องแสง ขอคัดลอกข้อมูลในความคิดเห็นสุดท้ายไปเพื่อประกอบการเขียนบทความด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท