เตรียมประชุมจัดโครงการพัฒนาจิตปัญญาและเรียนรู้วิปัสสนาเพื่อธรรมสันติภาพ ณ สถาบันสันติศึกษา
ในฐานะที่เป็นคนใหม่ในวงการที่มีเกียรติทางสังคมทั้งในภาคใต้ทั้งหมดและระดับประเทศ กลัวเหลือเกินกับการจะเป็นตัวถ่วงขององค์กรเพราะรู้ตัวว่า เราไม่ได้มีความสามารถเท่ากับภาพรวมทั้งหมดขององค์กร การเข้าปฏิบัติงาน ณ ที่ใหม่ ต้องปรับตัวหลายๆอย่าง แต่สุดท้ายก็หนีความเป็นตัวเองไม่ได้อยู่ดี ผลของการปฏิบัติงานในอดีตเตือนเสมอว่า ไม่มีอะไรยั่งยืนถาวร แต่ก็เหนื่อยแล้วกับการต้องโยกย้ายชีวิตจนหาจุดสิ้นสุดไม่ได้ ข้างหน้ามีเวลาเหลืออยู่เท่าไรไม่อาจทราบได้ แต่รู้ว่ายังมีพลังบางอย่างผลักดันเพื่อให้ทำบางอย่างให้เกิดขึ้น อย่างน้อยคือ หนังสือทางความคิดที่จะฝากไว้กับโลกสักสองสามเล่มก่อนจะสิ้นลมลงไป เดิมทีต้องการทิ้งอาชีพที่ทำมาหลายปีแล้วผันตัวไปทำเกษตรพอเพียง แต่ทุกคนรอบตัวที่รู้จักเราดีโดยเฉพาะครูบาอาจารย์ที่เฝ้ามองเราเติบโตทางสังคมมาตั้งแต่เล็ก ไม่ได้ติงหรอกว่าไม่เหมาะจะไปทำเกษตรพอเพียง แต่ท่านพยายามเสนอว่า ควรเขียนหนังสือแนวนี้ แต่งหนังสือแนวนั้น ท่านหนึ่งยื่นหนังสือให้เป็นแนวทาง ๑ เล่ม บัดนี้ก็ยังไม่ได้อ่าน ผมยังนึกถึงครูบาอาจารย์เสมอมา การมาปฏิบัติงานในที่ใหม่ ดูมีชีวิตชีวา ทุกคนมีลักษณะเป็นพี่น้อง ครอบครัว เราจึงยิ้มได้อย่างเต็มที่ ครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งกล่าวสอนว่า "จงตั้งเจตนาดีแล้วทุกอย่างจะดีเอง" โครงการพัฒนาจิตปัญญาและเรียนรู้วิปัสสนาเพื่อธรรมสันติภาพ คือโครงการหนึ่งที่ผมตั้งเจตนาไว้ดีแล้ว เพื่อจะมอบสิ่งที่ผมคิดว่าดี และเมื่อมองภาพรวมของโลก โลกที่ผมรับรู้ก็น่าจะเห็นดีเห็นงาม เพราะสายงานดังกล่าวเป็นสายงานเพื่อสันติภาพภายในบุคคล
เมื่อวาน ขณะที่ผมกำลังขะมักเขม้นปรับปรุงบทความแจกนักศึกษา อาจารย์รุ่นพี่ในที่ทำงานใหม่นี้เดินมาเตือนว่า โครงการที่ผมเสนอนั้นใกล้ถึงเวลาแล้ว ที่บอกว่าจะประชุมกลางเดือนตุลาคม นี่ก็ใกล้จะกลางเดือนแล้ว ตกลงจะประชุมวันไหน ผมจึงบอกท่านไปว่า วันพรุ่งนี้ (ก็คือวันนี้) ก็แล้่วกัน จริงๆแล้ว แม้ผมจะตั้งเจตนาไว้ดี แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้กับความกลัวภายในบุคคล คือกลัวว่าจะมีใครสมัครใจเพื่อเข้ารับการฝึกปฏิบัตินี้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสนอไว้แล้วก็ต้องดำเนินการต่อไป
ความคิดเดิม "โครงการพัฒนาจิตปัญญาและเรียนรู้วิปัสสนาเพื่อธรรมสันติภาพ" เป็นโครงการบริการวิชาการเพื่อให้บุคคลทั่วไปเข้ารับการฝึกอบรม โดยจะจัดที่ศูนย์สันติภาพ เพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมของสถาบัน เจตนาหลักอันหนึ่งที่ตั้งไว้คือ การปฏิบัติธรรมเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวง ซึ่งผมรู้สึกว่าผมไม่ได้ทำอะไรให้พระองค์ท่านเลย เมื่อผมทราบแล้วว่าท่านมีคุณต่อประเทศชาติและประชาชนมากมายเพียงใด ผมจึงหวังจะทำในสิ่งที่ผมน่าจะจัดขึ้นได้ถวายท่าน และรวมถึงการถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบิดาที่ชาว ม.อ.เคารพนับถือกันด้วย จึงตั้งใจว่า จะจัดใน ๒-๔ ธันวาคม ๒๕๕๙ พลังดังกล่าวนี้เองที่กระตุ้นว่า ควรจัดเถอะ ส่วนจะได้ผลอย่างไรนั้น ก็ถือว่าเราได้ตั้งเจตนาไว้ดีแล้ว เพราะนอกจากผู้เข้าโครงการจะได้รับบางสิ่งในตัวเองแล้ว ยังเป็นการแผ่ความสงบเย็นต่อชีวิตอื่นด้วย นอกจากนั้นเป็นการช่วยขับเคลื่อนสถาบันในอีกแนวทางหนึ่งเพื่อรับใช้สังคมต่อไป
ความเห็น (2)
จัดที่ ม.อ.หรือครับอาจารย์
ตั้งใจจะจัดที่ศูนย์สันติภาพ ม.อ.ครับท่านอาจารย์ขจิต