ตามที่ดิฉันได้เคยพูดถึงสถาบันบริหารงานวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยนเรศวร <QAU กับการเป็นองค์กรเคออร์ดิค : 1> ซึ่งสำหรับในบันทึกนี้ดิฉันขอเรียกสั้นว่า IRDA จะว่าไปแล้วเรา 2 หน่วยงานก็เป็นหน่วยงานบ้านใกล้เรือนเคียงจนเรียกได้ว่าเป็นหน่วยงานญาติพี่น้องกันกับ QAU เพราะที่ตั้งอยู่ชั้นเดียวกันเดินผ่านไปมาเห็นหน้าทักทายกันอยู่วันละหลายๆ ครั้ง และมีผู้บริหาร (ผู้ปกครอง) คนเดียวกัน คือ ท่านอาจารย์วิบูลย์ แต่ IRDA มีท่านอาจารย์เสมอดูแลในฐานผู้อำนวยการสถาบันอีกท่านหนึ่ง โดยเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนหลังจากกลับมาจาก UKM 8 ดิฉันได้ทราบมาว่าที่ IRDA นำทีมโดยท่านอาจารย์เสมอ ได้มีการประชุมและพูดคุยกันถึงเรื่องการเป็นองค์กรเคออร์ดิคซึ่งบุคลากรของ IRDA ได้เข้าร่วมเป็นผู้สังเกตการณ์และเข้าฟังการบรรยายของท่านอาจารย์หมอวิจารณ์ใน UKM 8 ด้วย ซึ่งท่านอาจารย์เสมอได้นำกลับมาทบทวน และเทียบเคียงกับการทำงานพร้อมๆ กับบุคลากรทุกท่านของ IRDA ในที่ประชุม
IRDA จากเดิมเป็นหน่วยงานย่อยอยู่ในกองบริการการศึกษา สำนักงานอธิการบดี มีบุคลากรเพียง 5 คน ได้แก่หัวหน้างานวิจัยซึ่งเป็นข้าราชการคนเดียวในหน่วยงาน ส่วนอีก 4 คน เป็นลูกจ้างชั่วคราวของมหาวิทยาลัย หากจะเปรียบเทียบความแตกต่างจากการปรับจากการเป็นงานวิจัย กองบริการการศึกษา มาเป็น IRDA ที่เห็นชัดๆ 3 ข้อ คือ
1. จากการทำงานเป็น Messenger มาเป็น Manager
2. จากการทำงานแบบ Ortrolic มาเป็น Chaordic
3. และจากที่ทำงานตั้งอยู่ที่ตึกมิ่งขวัญ ซึ่งค่อนข้างแออัดมาอยู่ที่ CITCOMS
เราลองมาไล่ดูกันนะคะว่า IRDA มีหน้าที่ทำอะไรบ้าง
1. นโยบายและแผนยุทธศาสตร์ RBU
2. บริหารต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ
2.1 งบประมาณแผ่นดิน (25 ล้าน) (วช.)
2.2 นอกงบประมาณแผ่นดิน
- เครือข่ายวิจัยภาคเหนือตอนล่าง (5-7 ล้าน) (สกอ.) (10%)
- คลินิกเทคโนโลยี (2 ล้าน) (วท.)
3. เงินรายได้คณะ (5%) (30-40 ล้าน)
4. เงินวิจัยจากแหล่งทุนภายนอก (>100 ล้าน)
5. เงินรายได้ส่วนกลาง
- บริหารจัดการ “งานวิจัย กองบริการการศึกษา” (2 ล้าน)
- รางวัลสำหรับนักวิจัย (1-2 ล้าน)
- ครุภัณฑ์การวิจัย (5+5 ล้าน) (CE)
6. Mobile Unit (ทุกเดือน) (2-3 ล้าน)
7. จริยธรรมในมนุษย์ (EC) (ทุกเดือน)
8. จริยธรรมในสัตว์ (AEC) (ทุก 1-2 เดือน)
9. ความปลอดภัยทางชีวภาพ (IBC) (ทุก 4-6 เดือน)
10. กรรมการวิจัย (RSC) (ทุก 1-2 เดือน)
11. นวัตกรรมนิสิต (ภูมิภาค/ประเทศ) (ทุกปี)
12. พิธีเปิดคลินิกเทคโนโลยี (2547) – Proceedings
13. นเรศวรวิจัย ครั้งที่ 1 (2548) – Proceedings
14. นเรศวรวิจัย ครั้งที่ 2 (2549) – Proceedings
15. เป็นแกนกลางประสานงานวิจัย Research Units อื่นๆ ทั้งใน มน. และในเครือข่ายวิจัยภาคเหนือตอนล่าง (16 สถาบันอุดศึกษา) รวมทั้ง สกว. วช. สวทช. สกอ. สถาบันคลังสมอง จังหวัดต่างๆ etc.
16. ข้อมูลสำหรับการประเมิน กพร., สมศ., รายงานประจำปี, Ranking (ม.วิจัย)
17. การจัดทำฐานข้อมูลด้านงานวิจัยของมหาวิทยาลัย (ด้านนักวิจัยและด้านทุนสนับสนุน)
18. ปรับปรุงระเบียบและประกาศ สำหรับบริหารงานวิจัย
19. วิจัยสถาบันเพื่อปรับปรุงการบริหารงานวิจัย
20. ด้านอื่น ๆ (แผนยุทธศาสตร์-เล่มแดง)
** ข้อมูลจาก Power Point File นำเสนอในที่ประชุมกรรมการบริหารมหาวิทยาลัย โดยท่านอาจารย์วิบูลย์ **
สำหรับ ยุทธศาสตร์ 6 ด้านของ IRDA ประกอบด้วย
ยุทธศาสตร์ที่ 1 ยกระดับและปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการบริหารจัดการงานวิจัย
ยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนาความพร้อมของปัจจัยด้านต่างๆ เพื่อสนับสนุนงานวิจัย
ยุทธศาสตร์ที่ 3 สนับสนุนให้อาจารย์ทุกคนทำวิจัย
ยุทธศาสตร์ที่ 4 กำหนดให้นิสิตทุกหลักสูตรทำการศึกษา/วิจัย โดยเป็นเงื่อนไขสำหรับการสำเร็จการศึกษา
ยุทธศาสตร์ที่ 5 ส่งเสริมให้ข้าราชการ/พนักงาน (ที่มิใช่อาจารย์) ทำการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนางาน
ยุทธศาสตร์ที่ 6 กำหนดให้มีกลไกความรับผิดชอบ (responsibility) และรับผิดชอบ (accountibility)
จากข้อมูลข้างต้นเราลองมาดู องค์ประกอบทั้ง 6 องค์ประกอบของ IRDA ในการก้าวสู่การเป็นองค์กรเคออร์ดิค กันนะคะ
องค์ประกอบที่ 1 Purpose
พัฒนาคน พัฒนาผลงาน และระบบบริหารงานวิจัย เ พื่อการเป็นมหาวิทยาลัยแห่งการวิจัยที่ยั่งยืน
องค์ประกอบที่ 2 Practice
ตอบสนอง Purpose สอดคล้องกับยุทธศาสตร์วิจัย
องค์ประกอบที่ 3 Constitution
ยุทธศาสตร์การวิจัยมหาวิทยาลัยนเรศวร 6 ด้าน
องค์ประกอบที่ 4 Organization Concepts
Complex Adaptive System (CAS)
- Self organizing
- Self govering
- Diversity and Adaptive
องค์ประกอบที่ 5 Participants
ผู้บริหาร
นักวิจัย
นิสิต
ภาคประชาชน
ภาครัฐ
ภาคเอกชน
องค์ประกอบที่ 6 Core principles
Shared vision
Creativities
Empowerment
ดิฉันเชื่อว่าบันทึกนี้อาจมีรายละเอียดไม่มากพอสำหรับท่านที่รับผิดชอบงานด้านวิจัยของแต่ละหน่วยงาน หรือกำลังสนใจศึกษาในเรื่ององค์กรเคออร์ดิคในการนำไปปรับใช้ เพราะดิฉันไม่มีรายละเอียดมาเล่ามากนัก แต่เพียงอยากสื่อสารให้ได้ทราบว่าหลังจาก UKM 8 ที่มน. ไม่ใช่ QAUเท่านั้นที่ได้ทบทวนตัวเอง แต่ยังมีหน่วยงานอื่นๆ อย่างน้อยก็ IRDA ที่ได้นำการบรรยายในวันนั้นของท่านอาจารย์หมอวิจารณ์กลับมาทบทวน และนำมาก่อให้เกิดประโยชน์สำหรับการดำเนินงานในหน่วยงานต่อไป ถ้าอย่างไรดิฉันจะได้ชวนท่านอาจารย์เสมอมาช่วยเพิ่มเติมรายละเอียดให้กับทุกท่านในโอกาสต่อไป
หากมีหน่วยงานใดที่กำลังก้าวสู่การเป็นองค์กรเคออร์ดิค ดิฉันขอเชิญช่วยมาร่วมกันถ่ายทอด และ ลปรร. ร่วมกันนะคะ เพราะองค์กรเคออร์ดิคเป็นองค์กรที่มีชีวิตสามารถยืดหยุ่น และปรับตัวได้อยู่ตลอดเวลา
ด้วยความเคารพค่ะ
อย่างนี้ไม่ต้องมาฝึกงานแล้วพี่ ให้ผ่านเลย รู้ไปหมด
คุณตูนนี่เก่งจริงครับ