เที่ยวอีสานใต้ : วันที่ห้า


เช้าวันที่ 15 กรกฎาคม 2559 เช้านี้ที่ อะไนท์ รีสอร์ท จังหวัดบุรีรัมย์ ตื่นเมื่อ 05.00 น. ทำภารกิจส่วนตัวเก็บสัมภาระไปทานอาหารเช้า อิ่มแล้วมีเวลาไปถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก วันนี้เป็นวันเดินทางกลับชุมพร


เมื่อทุกคนพร้อม รถพร้อม 07.30 น. ออกเดินทางเป้าหมายแวะด่านเกวียนเพื่อซื้อของ ที่นี่ตื่นตาตื่นใจของใช้ ของประดับประเภทเครื่องปั้นดินเผา เราเลือกได้เต่าเรซิน 3 ตัว 500 บาท


หมู่บ้านทำเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน

หมู่บ้านทำเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน เป็น หมู่บ้านหนึ่งของ ตำบลด่านเกวียน อำเภอโชคชัย หากเอ่ยถึงสินค้า"โอทอป" (OTOP) หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ประเภทตุ๊กตาดินเผาหรือเครื่องปั้นดินเผาที่มีชื่อเสียง ชื่อแน่ว่าต้องมีชื่อของ "เครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน" ติดอยู่ในอันดับต้นๆ กับเขาด้วย เหตุเพราะว่าเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียนนั้น มีชื่อเสียงมาช้านาน แล้ว ในความโดดเด่นทั้งด้วยตัวสินค้าที่มีความแข็งแกร่ง ทนทาน และมีความสวยความด้านเอกลักษณ์และรูปแบบงานปั้นที่มี ความหลากหลาย และกำลังเป็นสินค้าที่นิยมของตลาด

ในปัจจุบันนี้หมู่บ้านซึ่งมีร้านค้าเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน เรียงรายอยู่สองฟากฝั่งและมีลำน้ำมูลทอดขนานอยู่ทาง ฝั่งทิศตะวันออก หมู่บ้าน ลักษณะเฉพาะ ของเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียนนั้นอยู่ที่ดินที่นำมาใช้ กล่าวคือดินด่านเกวียนเป็นดินเหนียว เนื้อละเอียด ที่ขุดขึ้นมาจากริมฝั่งแม่ น้ำมูล ในพื้นที่ที่ชาวบ้านเรียกว่า กุด หรือแม่น้ำด้วน(ลักษณะลำน้ำที่คดเคี้ยว กัดเซาะตะลิ่งจนขาดและ เกิดลำน้ำด้วนขึ้น ส่วนที่เป็นแนวกัดเซาะจะกลายเป็นแหล่งทับทมดิน ดิน ดังกล่าวนี้เป็นดินซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษ ง่ายต่อการ ขึ้นรูปทนทาน ต่อการเผา ไม่บิดเบี้ยวหรือแตกหักง่าย และที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือดินนี้เมื่อถูกเผาจะให้สีโดยธรรมชาติเป็นสีแดง ซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากธาตุเหล็ก (Iron Oxide)

สำหรับเอกลักษณ์ของงานเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียนนั้น เห็นจะอยู่ตรงที่ความแปลกใหม่ของการออกแบบรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ และสิ่งสำคัญก็คือ ผลิตภัณฑ์นั้นมีความแข็งแกร่ง ทานทน และพื้นผิววัตถุมีความมันวาวสวยงาม ที่ไม่มีเครื่องปั้นดินเผาที่ไหน เหมือน เพราะดินที่ชาวด่านเกวียนนำมาใช้ในการปั้น เป็นดินเหนียวเนื้อละเอียดคุณภาพดีมีสีแดงหรือสีน้ำตาลดำ ที่ขุดขึ้นมา จากริมฝั่งแม่น้ำมูล ซึ่งเนื้อดินเหนียวนั้นมีแร่เหล็กผสมอยู่มาก มีคุณสมบัติพิเศษตรงที่ เนื้อดินปั้นง่ายต่อการขึ้นรูป ทนทาน ต่อการเผา ไม่บิดเบี้ยวเสียทรงหรือแตกหักง่าย และเมื่อเผาด้วยความร้อนสูง แร่เหล็กและแร่ธาตุอื่นๆ ที่เป็นส่วนผสมจะ หลอมละลายเคลือบผิวภาชนะไปในตัว ทำให้ได้ชิ้นงานที่มีสีเป็นธรรมชาติออกสีดำมันหรือสีน้ำตาลแดง หรือสีเลือดปลาไหล ซึ่งเป็นสีที่ได้รับความนิยมว่าสวยที่สุด


10.30 น. ออกจากด่านเกวียน ไปวัดหลวงพ่อโต ชื่อที่ทุกคนรู้จักในนาม “วัดหลวงพ่อโต” หรือ “วัดสรพงษ์” ที่จริงแล้วเป็นมูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เมตตาบารี ที่คุณสรพงษ์ ชาตรี สร้างขึ้นด้วยพลังแห่งศรัทธา และวัดหลวงพ่อโตนี้จัดว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่บน ถนนมิตรภาพ อำเภอสีคิ้ว โคราชเรานี้เอง มาถึงวัดเวลา 11.30 น. คณะฯแวะที่โรงทานก่อนอื่น ที่นี่มีราดหน้าบริการ รสชาติอร่อย ไม่ขายแต่เมื่อทานแล้วบริจาคเงินทำบุญ มีตู้ให้ใส่เงินบริจาควางอยู่


จากโรงอาหารเดินต่อมาก็จะเจอ ร้านกาแฟหลวงปู่ ซึ่งข้างในร้านจะตกแต่งด้วยโปสเตอร์ภาพยนต์ที่คุณสรพงษ์เคยแสดง และมีสระมีหงส์ ห่านและปลาตะเพียน คนมาทำบุญมักจะแวะมาให้อาหาร


ไปหว้พระ ทำบุญ แล้วกลับขึ้นรถ 12.30 น. ออกจากวัดหลวงพ่อโต เป้าหมาย ปาลิโอ เขาใหญ่ มาทำความรู้จักกับ ปาลิโอ กันสักหน่อย ชื่อของ Palio มาจากชื่อเทศกาลแข่งม้าที่โด่งดังแห่งเมือง เซียน่า ประเทศอิตาลี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ในเขาใหญ่ ใน Palio มีร้านค้าเล็กๆ ประมาณ 120 ร้านค้าแบบถนนคนเดินสไตล์อิตาเลียน แน่นอนว่านักท่องเที่ยวชอบมากๆ ที่จะไปถ่ายรูปกันในวันหยุด พวกเราถ่ายรูป ซื้อของฝาก


ตลอดทางที่เดินมางกลับชุมพร ที่สุดท้ายที่แวะซื้อของฝาก ที่นี่คือ มวกเหล็ก สระบุรี คณะฯ เราตั้งใจเต็มที่ที่จะซื้อของฝากที่นี่ เช่น ผลไม้ต่าง ๆ กะหร่ปั๊บ ปลาส้ม ฯลฯ


ได้ของฝากคนที่บ้านแต่ละคนหอบกันพะรุงพะรัง กลับขึ้นรถเพื่อเดินทางไปให้ถึงร้านอาหารนนิวรสทิพย์ จังหวัดสมุทรสาคร ให้ทันเวลา 18.00 น. รถบัสก็ทำเวลาได้ ถึงร้านอาหาร ทุกคนหิว รู้สึกว่าอาหารมื้อนี้อร่อยที่สุด คงเพราะใกล้บ้านเราแล้ว รสชาติจึงถูกปาก


ประมาณ 19.00 น. คณะฯเดินทางกลับชุมพร ขึ้นรถก็หลับเพราะทั้งเหนื่อยและอิ่ม แต่ดูข้างของบริเวณบันไดชั้นล่างของรถ ไม่นับด้านบน และในที่เก็บของบริเวณที่เก็บกระเป๋า เยอะมาก


03.00 น. ถึงชุมพรโดนสวัสดิภาพ ขอบคุณศูนย์ดูแลครูฯ จังหวัดชุมพร และสมาครูบำนาญจังหวัดชุมพร ที่จัดทำโครงการดี ๆ แก่สมาชิกข้าราชการครูบำนาญ การไปเที่ยวในวัยเกษียณเป็นสิ่งสำคัญ

  • จะได้พบปะกับเพื่อน
  • ท่องเที่ยวในสถานที่ที่ไม่เคยไป(ตอนที่ทำงานไม่มีเวลาไป)
  • ทำบุญไหว้พระ
  • ได้แต่งตัวสวย ๆ (อยู่บ้านไม่มีโอกาสแต่ง)

ถ้้าทุกคนมีโอกาสก็ควรไป เพราะเรายังมีเรี่ยวแรงที่จะไปเที่ยว ไปพักผ่อน พบปะเพื่อน ๆ ก่อนที่เราจะหมดแรงเที่ยวไปได้แค่อยู่บนรถ แล้วลงไปห้องน้ำเท่านั้น ขอบคุณท่านผอ.ทองพุฒิ เปี่ยมยา ท่านอาจารย์ดวงเดือน กำลังใบ ที่ได้ให้การดูแลพวกเราอย่างดี โอกาสหน้าขอให้มีโครงการนี้อีกนะคะ ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ




หมายเลขบันทึก: 611348เขียนเมื่อ 27 กรกฎาคม 2016 21:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 กรกฎาคม 2016 22:05 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท