เมื่อคืนตอนตี 3 เดินออกมาที่ระเบียงเพื่อดูฝนดาวตกที่เหมือนเป็นเพื่อนที่แวะเวียนมาพบกันปีละครั้ง ลีโอนิดส์ แต่การดูดาวกลางเมืองนี่แสงรบกวนเยอะมาก อุปสรรคต่อมาคือ วิวหลังระเบียงถูกบดบังด้วยต้นชมพู่ม่าเหมี่ยว มะม่วง และต้นส้มโอ โห เหลือวิวมองฟ้านิดเดียว แต่ก็ทนให้ยุงกัดพักนึง จึงได้เห็นดาวตกลงมา 1 ดวง บอกตัวเองว่า โอเค อย่างน้อยก็เห็นแล้ว กลับเข้าห้องมานั่งทบทวนประสบการณ์การดูฝนดาวตกเดือนพฤศจิกายน อืมม์เยอะเหมือนกันนะนี่
2541 ข่าวดังไปทั่วโลกจะมีฝนดาวตกลีโอนิดส์ นัดเพื่อนฝูงไปดูฝนดาวตกกัน ประกอบด้วย เพื่อนร่วมห้องเรียน ป.โท 7 ชีวิต เป็นการดูดาวตกที่มีเพื่อนร่วมดูมากที่สุด เพราะคนเชียงใหม่มารวมตัวกันที่สนามกีฬา700 ปี เยอะมากถึงขั้นรถติดมีอาหารมาขายอีกต่างหาก บรรยากาศเหมือนงานวัด เจ้าหน้าที่ของสนามกีฬาอำนวยความสะดวกด้วยการปิดไฟทั้งหมดเพื่อตัดการรบกวนของแสงเพื่อให้มวลชนที่มาอาศัยนอน นั่งดูดาวตกเห็นดาวตกสวยงามชัดเจนยิ่งขึ้น อากาศเย็นสบาย น้ำค้างตก อากาศหนาวพอทนตอนตีหนึ่ง พอเริ่มมีดาวตก ก็มีเสียงดัง ฮือฮากันเป็นพักๆ ไม่เหงาเลย นั่งดู นอนดูกันจนเมื่อยคอไปเรื่อยๆ พอถึงตีสามกว่าๆ โห! หนาวเฉียบ กลับกันเถอะ ทุกคนพร้อมใจพยักหน้าอย่างไม่มีเกี่ยงงอน กลับถึงบ้านพัก ตอนตี 4 ครึ่ง แต่เข้าบ้านไม่ได้ เพราะกลุ่มผู้พักอาศัยบ้านเช่าหลังเดียวกันต่างก็หนีตามพวกพ้องไปดูดาวกันหมด คนไม่มีกุญแจเข้าบ้านเลยต้องมานอนดูดาวต่อที่ เปลยวนหน้าบ้าน จำไม่ได้ว่านับได้กี่ดวง แต่ก็นับว่าเยอะเหมือนกันแต่ไม่ถึงร้อยดวง
2543 ยังคงเป็นบรรยากาศเชียงใหม่ แต่คราวนี้ย้ายไปอยู่ที่อ่างแก้ว ใน
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เนื่องจากแอบวาดฝันว่า จะเห็นฝนดาวตกอีก
เลยตกลงกับน้องๆ ที่หอพัก สมาชิกประกอบด้วย 3 สาว กับ 1 หนุ่ม
ก็ขนเสื่อและผ้าห่มไปนอนดูดาวตกกันตอน ตี 2 เหมือนเดิม ที่ถนน
บนอ่างแก้วเห็นไม่กี่ดวงเอง ไม่สะใจเลย แต่ก็เป็นความทรงจำที่ดี
2544 ปีที่มีฝนดาวตกเยอะที่สุดในชีวิตที่เคยดูดาวตกมา นับได้กว่า100 ดวง
ตื่นตาตื่นใจเกินบรรยาย เป็นช่วงที่กลับมาทำงานที่พิษณุโลกแล้ว ไปกับ
พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ที่ทำงานขึ้นเขาไปรวมกลุ่มกับอาจารย์และนิสิต
ภาคฟิสิกส์ ที่ขึ้นไปตั้งหลักดูดาวกันก่อนแล้ว คราวนี้ไม่มีคำว่าผิดหวัง
เห็นดาวตกดวงโตๆ เยอะแยะ เนื่องจาก เป็นจุดที่ผ่านการสำรวจแล้วว่า
ไม่มีแสงรบกวนจากเมืองแน่นอน นับเป็นการดูดาวตกที่สุดยอดจริงๆ
ครั้งหนึ่งทีเดียว