ประวัติ บ้านหนองแสน


บ้านหนองแสน
สภาพทั่วไปของหมู่บ้าน

คำขวัญบ้านหนองแสน
มวยดีสตรีงาม เลื่องลือนามบั้งไฟแสน ดินแดนหลวงปู่ชม ถิ่นอุดมนกเป็ดน้ำ

ประวัติของหมู่บ้าน
บ้านหนองแสน เริ่มก่อตั้งในปี พ.ศ.2433 หรือประมาณ 122 ปีมาแล้ว และที่มาของชื่อหมู่บ้านตั้งจากชื่อผู้นำกลุ่มที่อพยพมาตั้งหมู่บ้านครั้งแรก คือ พ่อขุนแสนนาวงษ์ และคนกลุ่มแรกที่มาเริ่มก่อตั้งหมู่บ้าน คือ พ่อขุนแสนนาวงษ์ พ่อขุนทิพย์เสนาเวียงคำ และขุนพยัคฆาคำรณ โดยคนกลุ่มแรกที่มาตั้งหมู่บ้านนี้อพยพ มาจากบ้านกุดเก่า อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ดและจากบ้านนาโพธิ์ ร้อยเอ็ดบ้านจันทร์เพลิง และบ้านโท่โล่ ร้อยเอ็ด และมี การแต่งตั้งให้ขุนแสนนาวงศ์ เป็นหัวหน้าหมู่บ้าน เหตุที่แต่ละกลุ่มนี้อพยพมาจากบ้านเดิมเพราะต้องแสวงหา จึงได้มาพบหนองน้ำแห่งนี้สภาพเป็นป่าใหญ่ที่อุดมสมบูรณ์มากซึ่งมีหนองน้ำอยู่ตรงกลางและมีหนองขนาดเล็กๆเป็นบริวารอยู่รอบป่า จึงได้ปักหลักปักฐานอยู่ที่แห่งนี้เป็นที่ทำกินและแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ อาชีพครั้งแรกของราษฎร์ที่อพยพมาอยู่หมู่บ้าน คือ ทำนา ไร่ฝ้าย ไร่งา มีอาชีพเสริมคือจักสาน ก็จะเป็นการสานหวด สานมวย และล่าสัตว์ เนื่องจากขณะนั้นยังมีสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์มากและมีสัตว์ป่ามาก แต่ต่อมาอาชีพบางอาชีพก็ต้องเลิกทำไป เพราะเหตุผลหลายอย่าง
อาชีพไร่ฝ้าย เลิกไปเพราะ ราคาต่ำ ไม่มีความนิยม
อาชีพปลูกงา เลิกไปเพราะ ราคาต่ำ ไม่มีความนิยม
อาชีพปลูกปอ เลิกไปเพราะ พื้นที่ไม้เอื้ออำนวย ผลผลิตไม่ดี

สภาพทางภูมิศาสตร์
สภาพทางภูมิศาสตร์ของหมู่บ้านนี้ ก่อนที่จะตั้งหมู่บ้านนั้น แต่ก่อนเป็นป่ารกทึบ มีที่ราบลุ่ม แอ่งน้ำ สลับดอน เป็นแนวเนินต่ำจะไม่เป็นที่ราบเรียบขนาดใหญ่ จะมีแอ่งกระจายไปทั่ว แต่ปัจจุบันป่าหรือหนองน้ำ หรือห้วยแอ่งที่เคยมีในอดีตก็ถูกชาวบ้านได้แย่งถางเป็นพื้นที่เกษตรกรรม ส่วนหนองน้ำบางส่วนก็ได้ขุดลอกเป็นหนองน้ำขนาดกลางและขนาดใหญ่ และมีบางส่วนหายไปกลายเป็นที่ของชาวบ้าน ปัจจุบันบ้านหนองแสนมีบ่อน้ำบาดาล 2 บ่อ สระน้ำ 1 สระ หนองน้ำ 2 แห่ง
ที่ตั้ง
บ้านหนองแสนอยู่ห่างจังหวัดมหาสารคาม 37 กิโลเมตร การเดินทางไปยังหมู่บ้านใช้ถนนทางหลวงสายมหาสารคาม - แกดำ บ้านหนองแสนมีอาณาเขตติดต่อกับตำบลต่างๆ ดังนี้
ทิศเหนือ ติดกับ ตำบลโนนภิบาล อ.แกดำ
ทิศใต้ ติดกับ ต.เสือโก้ก
ทิศตะวันออก ติดกับ อ.ศรีสมเด็จ
ทิศตะวันตก ติดกับ อ.แกดำ
การเปลี่ยนแปลงด้านสาธารณูปโภค
1. ถนนเมื่อเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านมีสภาพเป็นถนนแบบดินทราย และเป็นถนนลูกรังเมื่อ พ.ศ.2530
2. มีไฟฟ้าเข้าสู่หมู่บ้าน เมื่อ พ.ศ.2523
3. ประปาของหมู่บ้านสร้างเมื่อ เดือนธันวาคม พ.ศ.2539

การเมืองการปกครอง
บ้านหนองแสนมีการปกครองโดยยึดถือหลักประชาธิปไตยและมีครัวเรือนทั้งหมด 110 ครอบครัว มีบ้าน 110 หลังคาเรือนและแบ่งออกเป็นหมู่บ้าน ได้ 4 หมู่บ้าน คือ หมู่ 1 หมู่ 2 หมู่ 3 และ หมู่ 9 มีประชากรทั้งหมด 680 คน แบ่งออกเป็น ชาย 340 คน และ หญิง 340 คน (ข้อมูลนี้ปี พ.ศ 2547 ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติม)
จำนวนประชากร
ประชากรในหมู่บ้านจำนวนประชากร
ประชากรวัย 1 วัน – 3 ปีเต็ม44 คน
ประชากรวัย 6 ปี 1 วัน – 12 ปีเต็ม40 คน
ประชากรวัย 12 ปี 1 วัน – 14 ปีเต็ม63 คน
ประชากรวัย 15 ปี 1 วัน – 18 ปีเต็ม46 คน
ประชากรวัย 18 ปี 1 วัน – 50 ปีเต็ม366 คน
ประชากรวัย 50 ปี 1 วัน – 60 ปีเต็ม76 คน
ประชากรวัย 60 ปี 1 วันขึ้นไป43 คน
ทำเนียบนามผู้ดำรงตำแหน่งกำนันและผู้ใหญ่บ้าน บ้านหนองแสน
1. หลวงสุทธิ ประภาการ
2. ขุนพยัคฆา คำรณ
3. หมื่นจันทร์ ธรรมรักษ์
4. หลวงทิพเสนา นาคะรัตน์
5. ขุนเวียงคำ มะยุระยอด
6. นายอิน ประภาศรี
7. หลวงสิทธิ์ สมสะถีสิทธิ์
8. นายดา โทรัฐ
9. นายปืด นาคะรัต
10 นายบาล(นน) ประโพเทติ
11. นายเสาร์ เจิมแสน
12. นายประจักษ์ ประกอบนันท์
13. นายสมศักดิ์ ประดับการ
14. นายประวัติ นาคะรัตน์
15. นายสังคม ประวันตัง
16. นายสมพงษ์ นนทศรี (กำนัน คนปัจจุบัน)

สภาพเศรษฐกิจ
1. ด้านการประกอบอาชีพ
ชาวบ้านในบ้านหนองแสนจะประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นส่วนใหญ่ และนอกจากนี้ยังมีอาชีพ หัตถกรรม เลี้ยงสัตว์ ผลิตและทอผ้าไหมเป็นอาชีพเสริม
1. มีพื้นที่ทำการเกษตร 2,680 ไร่ แยกเป็น ที่นา 2,468 ไร่ เป็นที่สวน 212 ไร่
2. มีผลผลิตจากการทำนา ทั้งหมู่บ้านปีละ 717.15 เกวียน และขายไปจำนวน 478 กิโลกรัม/
เกวียน และเก็บไว้รับประทาน จำนวน 239.05 กิโลกรัม/เกวียน
3. มีผลผลิตจากอาชีพอื่นๆ อีก เช่น ทำสวน ทำไร่ เลี้ยงสัตว์ ดังนี้
อาชีพจำนวน รายได้เข้าหมู่บ้าน
เลี้ยงวัว50 ครอบครัว1,200,000 บาทต่อปี
เลี้ยงควาย20 ครอบครัว520,000 บาทต่อปี
เลี้ยงไก่95 ครอบครัว36,000 บาทต่อปี
ผลิตและทอผ้าไหม14 ครอบครัว115,000 บาทต่อปี
ผลิตหวด10 ครอบครัว50,000 บาทต่อปี


สภาพสังคมการศึกษา
1. การศึกษา
บ้านหนองแสนมีโรงเรียนระดับประถมและมัธยมในหมู่บ้าน ชื่อโรงเรียนบ้านหนองแสน ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2534 มีครูในโรงเรียนทั้งหมด 16 คน
2.การรวมกลุ่มในหมู่บ้าน
2.1กลุ่มสหกรณ์ร้านค้า ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2547 มีสมาชิกในกลุ่มทั้งหมด 102 คน ปัจจุบัน
มีเงินกลุ่ม 16,374 บาท
2.2 กลุ่มธนาคารหมู่บ้าน ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2545 มีสมาชิกในกลุ่มทั้งหมด 142 คน ปัจจุบัน มีเงินกลุ่ม 1,077,998 บาท
2.3 กลุ่มเลี้ยงโค ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2525 มีสมาชิกในกลุ่มทั้งหมด 110 คน ปัจจุบันมีเงินกลุ่ม 700,000 บาท
2.4 กลุ่มเพาะเห็ด ตั้งขึ้นเมื่อเมื่อปี พ.ศ.2544 มีสมาชิกในกลุ่มทั้งหมด 30 คน ปัจจุบันมีเงินกลุ่ม 16,110 บาท


กลองยาวคณะจอกขวางคำ บ้านจอกขวาง ตำบล หนองแสง อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม

อ้างอิงจาก https://sites.google.com/site/bannongsan/prawati-s...

หมายเลขบันทึก: 610580เขียนเมื่อ 15 กรกฎาคม 2016 11:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 กรกฎาคม 2016 11:23 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

อยากให้นิสิตเล่าจากประสบการณ์ตรงของตนเองบ้างก็น่าจะดีนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท