นิตยสาร Newsweek ฉบับวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๙ เป็นฉบับพิเศษเรื่องวัยทีนในสหรัฐอเมริกาโดยเปรียบเทียบวัยทีนสองยุคห่างกัน ๕๐ ปีคือปี ค.ศ. 1966 และ 2015ในกลุ่มบทความชื่อ The Teenagers
ปี ค.ศ. 1966 หรือ พ.ศ. ๒๕๐๙ เป็นปีที่ผมเรียนจบแพทย์พอดีแต่วัยเลยวัยทีนมา ๕ ปีคืออายุ ๒๔ มีแฟนแล้วและมีเส้นทางชีวิตแล้วว่าจะเป็นหมอนักวิชาการ แต่ผมประเมินตัวเองว่าในตอนนั้นผมยังห่างไกลจากสภาพมีวุฒิภาวะเต็มที่ต้องใช้เวลาหาประสบการณ์บ่มเพาะ พัฒนาเครือข่ายใยสมองอีกเกือบสิบปี จึงน่าจะถือได้ว่าบรรลุวุฒิภาวะและผมคิดว่า วุฒิภาวะของผมดีขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุและประสบการณ์ผ่าน การเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง (Transformative Learning)
กลับไปที่นิตยสารนิวสวีก ในบทความ The State of American Teenagers มีสถิติที่น่าสนใจ โดยเป็นสถิติที่ได้ จากการถามความรู้สึกของคนวัยทีนสองยุคเทียบกันที่น่าตกใจคือ ความกังวลเรื่องปัญหาแบ่งแยกผิวสูงขึ้น แต่ที่เดาล่วงหน้า ได้คือ ของใช้ประจำตัวหรือประจำการดำรงชีวิตของวัยทีนสองยุคแตกต่างกันมากเพราะเทคโนโลยีก้าวหน้ามากในช่วง ๕๐ ปีดูสถิติตามลิ้งค์เอาเองนะครับ
ในช่วง ๕๐ ปี พระเจ้าเสื่อมมนตร์ขลังลงไปมากในหมู่วัยทีนแต่วัยทีนส่นใหญ่ก็ยังเชื่อในพระเจ้า
นิตยสารสมัยนี้มีวิธีจัดทำแบบใหม่ที่มีทั้งวีดิทัศน์ประกอบในเว็บไซต์ ซึ่งแตกต่างจากเมื่อ ๕๐ ปีที่แล้วโดยสิ้นเชิงดูได้ในส่วนของการสัมภาษณ์วัยรุ่นเมื่อ ๕๐ ปีที่แล้ว และเวลานี้อยู่ในวัยผู้สูงอายุ ที่นี่ ซึ่งเป็นเรื่องของวัยรุ่นที่ขึ้นปกนิตยสาร และ แม่พาไปเข้าวงการฮอลลีวู้ดแต่ชีวิตตอนวัยสูงอายุแสวงหาความสงบจากวิปัสนา
ความแตกต่างอีกอย่างหนึ่งคือ สมัยห้าสิบปีก่อน ไอดอลในชีวิตวัยทีนคือรัฐบุรุษแต่ในสมัยนี้มักเป็นดาราและสมัยนี้วัยทีนมีโอกาสเรียนเรื่องทางเพศจากหนังโป๊ทำให้ความคิดเรื่องร่างกาย โดยเฉพาะเรื่องอวัยวะเพศของตนเอง แตกต่างไปมีการทำศัลยกรรมตกแต่งอวัยวะเพศเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ ดัง ข่าวนี้ซึ่งย้อนกลับมาดูที่บ้านเรา วัยทีนและวัยรุ่นมีการทำศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าและส่วนเย้ายวนทางเพศสูงขึ้นอย่างมากมาย
เขาไปสัมภาษณ์คนดังที่เป็นวัยทีนเมื่อห้าสิบปีก่อน ให้คิดย้อนหลังว่าในตอนนั้นตนควรได้เรียนรู้อะไรอ่านคำตอบได้ ที่นี่
มีคนเข้าไปถามในเว็บไซต์ Quora ว่าในแต่ละวันวัยรุ่นสมัยนี้ทำอะไร และมีคำตอบ ที่นี่ เห็นได้ชัดว่าคนที่เข้ามาตอบ ทั้งหมดยังเรียนอยู่ ที่ต่างกันมากคือเวลาตื่นและเวลาเข้านอนมีคนนอนดึกถึงตีสอง และตื่นหกโมงเช้าโดยภาพรวมแล้ววัยรุ่น ส่วนใหญ่นอนไม่พอ วัยรุ่นที่มาเลเซียเรียนพิเศษมากคงจะคล้ายที่เมืองไทยที่บ้ากวดวิชาที่น่าสนใจคือมีคนออกกำลังกาย และมีคนฝึกเล่นเครื่องดนตรี
วิจารณ์ พานิช
๔ มิถุนายน ๒๕๕๙
ไม่มีความเห็น