วันนี้ฝนก็ตกทั้งวันเช่นเดิมเหมือนกับเมื่อวาน
ข้อสอบกลางภาคของเด็กที่จะสอบสิ้นเดือนก็ยังไม่ได้แก้ ยังกางรอท่าให้ฉันจับมันขึ้นมาแก้ไขรอบที่สี่ได้ละมั้ง
นั่งมองเข็มนาฬิกา และฟังเสียงเข็มที่กำลังเดิน ดัง ติ๊ก ติ๊ก ติ๊ก
หรือว่าเราจะเป็นโรคที่ใคร ๆ ก็ชอบเรียกว่า Homesick โรค คิดถึงบ้าน
ความจริงก็คิดถึงอยู่ไม่น้อยเลย คิดถึงเห็ดเผาะที่แม่บอกว่าไปหาเก็บมาแล้วใส่ตู้เย็นไว้รอท่า
คิดถึงบ้านหลังใหม่ที่แม่บอกว่าบ้านเราจะเสร็จแล้วนะลูก
คิดถึงรถจักรยานที่พ่อปั่นไปให้ข้าวหมูที่สวนทุกวัน
คิดถึงหนังสือภาพวาดที่เราวาดทิ้งไว้ที่บ้าน
คิดถึงคนเเก่ 2 คน ที่โทรมาหาทุกวัน
นึกถึงท่าทีของแม่ก็ตลก ถ้าอยู่บ้าน แม่จะต้องวิ่งตาตื่นมาคุยเรื่องที่ครูสาวโดนข่มขืน
ขนาดโทรศัพท์มาหา เรายังเห็นภาพ เหมือนแม่ยืนอยู่ข้างหน้า
การเรียนการสอนวันนี้เด็กกระตือรือร้นดี กับการแบ่งกลุ่มแสดงบทบาทสมมุติ ซึ่งเราให้โอกาสเด็กดัดแปลงเรื่องราวได้ สามารถเพิ่มหรือลดตัวละครได้ แต่เเนวความคิดหลักจะต้องคงเดิม อีกวิชา เด็ก ๆ ก็วุ่นวายเหมือนเดิม แต่ความรู้สึกตต่าง ๆ เหล่านี้ไม่ค่อยมีผลต่อความรู้สึกเลย เพราะมันมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลมากกว่า
คิดถึงบ้านหลังสุดท้ายในซอยตันที่ติดทะเลทุ่งนาจริง ๆ
ไม่มีความเห็น