​คะแนนหรือเกรดในโรงเรียนมีความหมายหรือไม่

คำตอบของผมคือ yes and no

นี่คือคำถามและคำตอบในเว็บไซต์ Quora ที่นี่ คำตอบที่คนชอบมากที่สุดคือ คำตอบของ Balaji Viswanathan ที่เปรียบเทียบการสอบเสมือนการออกกำลัง การสอบและผลสอบเป็นเพียง ตัวแทน (proxy) ของการออกกำลัง หรือการฝึกฝนทางปัญญา

ของจริงคือการเพิ่มความรู้และทักษะการคิด ที่วัดยาก จึงต้องใช้คะแนนผลการสอบเป็นตัวแทน หากเราโกงคะแนน เพื่อให้ได้คะแนนสูง ก็เท่ากับเราหลอกตัวเอง

โรงเรียนและมหาวิทยาลัยเป็นสถานที่ให้โอกาสเราฝึกฝนตัวเอง ให้ทำผิดเพื่อเรียนรู้ได้โดยไม่ก่อ ผลเสียหายต่อตัวเองและต่องาน ซึ่งไม่มีให้ในชีวิตจริงของการทำงาน

โรงเรียนและมหาวิทยาลัย ให้โอกาสเราทำสิ่งที่เราคลั่งใคล้อยากลอง เพื่อตรวจสอบว่าเราเหมาะ ต่อสิ่งนั้นหรือไม่ รวมทั้งได้ลองทำสิ่งที่เราไม่รัก เพื่อจะได้รู้จักมันจริงๆ ได้รู้ว่าเรามีอคติหรือความเข้าใจผิด ต่อสิ่งนั้น ทั้งๆ ที่มันมีคุณยิ่งต่อชีวิตในอนาคตของเรา

คนถามเป็นนักเรียน ม. ปลาย ที่เรียนเก่งระดับที่จะได้รับคัดเลือกเข้าแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ

ครู ม. ปลายคือ Carter McClung เข้าไปตอบว่า คะแนนชั้น ม. ปลาย มีความหมายต่อการเข้า มหาวิทยาลัย หลังจากนั้น สิ่งที่มีความหมายคือสิ่งที่คุณได้เรียนรู้จริงๆ และเกรดในการเรียนปริญญาตรี มีความหมายต่อการเรียนจบ เข้าเรียนต่อบัณฑิตศึกษา หรือเข้าทำงาน หลังจากนั้น ที่สำคัญคือสิ่งที่คุณรู้ คนที่คุณรู้จัก และผลงานของคุณ

การได้เข้าโอลิมปิกวิชาการ ไม่ใช่ตราประกันเสียทีเดียว หากได้เข้าโอลิมปิกวิชาการ แต่ผลงานอื่นๆ แย่ ย่อมไม่เป็นผลดี คำแนะนำคือ ต้องมีสมดุลระหว่างผลงานด้านต่างๆ

อีกคนที่ตอบเข้าท่า คือ Rohit Sathish ที่ตอบว่าคะแนนสอบเป็นได้ ๒ อย่าง คือ (๑) เป็นเสมือนกระดาษ ลิตมัส สำหรับทดสอบตัวเรา กับ (๒) เป็นตั๋วเข้าเรียนต่อหรือทำงาน สำหรับการเป็นกระดาษลิตมัส มันสะท้อนความฉลาด กับกำลังใจในการมานะพยายาม วิธีคิดของเขาดีบ้างไม่ดีบ้าง ผมจับได้ว่าคุณโรหิต แกไม่เข้าใจเรื่อง growth mindset และ fixed mindset ไม่เข้าใจว่าไอคิวฝึกได้

มีคนเข้ามาตอบอีกมากมาย อ่านสนุก เข้าไปอ่านรายละเอียดเอาเองนะครับ

คำตอบของผมคือ มีความหมาย แต่ไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต

วิจารณ์ พานิช

๓๑ พ.ค. ๕๙