ศูนย์ศึกษาธรรมชาติ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
จากอดีตจนถึงปัจจุบัน
เดิมนั้นพื้นที่นี้เป็นป่าโคก "โคกหนองไผ่" อันอุดมไปด้วยป่าเต็งรัง ก่อนนี้ที่นี่เป็นป่าชุมชน เป็นซุปเปอรฺ์มาร์เก็ต เป็นร้านยา เป็นที่เลี้ยงวัวควาย ที่เปิดบริการ ฟรี ตลอดปี ผู้คนในชุมชนอาศัยป่าโคกแห่งนี้หาอยู่หากิน อาทิ หาเห็ดโคน หน่อไม้ ผักติ้ว ผักกระเจียวในหน้าฝน หน้าแล้งมีอาหารโปรตีนชั้นสูงรสเลิศอย่างไข่มดแดง เนื้อกะปอม (กิ้งก่า) แย้ ให้กิน หรือในหน้าหนาวในคลองที่น้ำเกือบจะแห้งขอดก็มี กุ้ง หอย กบ ปลาที่สะสมไขมันไว้ให้กิน นอกจากอาหารป่าเหล่านี้แล้ว ยังมีสมุนไพรชั้นเลิศหลากหลายที่ชาวบ้านมาเก็บไปรักษาโรค แม้กระทั่งเครื่องมือการเกษตรอย่างเช่น ด้ามไถ คราด ก็ยังต้องอาศัยป่าโคกแห่งนี้
แต่เมื่อมหาวิทยาลัยเข้ามาตั้ง ประชาชนที่นี่ก็ไม่ได้ใช้ป่านี้ดำรงชีพเช่นดังก่อน จากป่าโคกที่เคยอุดมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ก็กลายเป็นตึกเรียน เป็นหอพัก รวมถึงเป็นอาคารพาณิชย์และหอพักเอกชน แหล่งอาหารรวมทั้งระบบนิเวศน์ที่เคยสมบูรณ์ก็ถูกทำลายลง ดังนั้นมหาวิทยาลัยจึงมีโครงการที่จะเก็บรักษาพื้นที่ส่วนหนึ่งไว้ให้คงสภาพเดิมและจัดระบบนิเวศน์ไว้ให้สมบูรร์ดังเดิม เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ศึกษาธรรมชาติ
ศูนย์ศึกษาธรรมชาติมหาวิทยาลัยมหาสารคาม หรือที่เรียกกันว่า"สวนป่า"ซึ่งเป็นสถานที่เรียนรู้ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติ เรียนรู้วัฒนธรรมอีสาน เชื่อมโยงกับพรรณ จึงเป็นแหล่งศึกษาดูงานของ นักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชนทั่วไปในจังหวัดมหาสารคาม หรือผู้สนใจทั่วไป ให้สามารถเรียนรู้และเข้าใจในกระบวนการต่างๆ มุ่งเน้นการเรียนรู้วิถีชีวิต ศิลปะและวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น การเกษตรแบบผสมผสาน ตลอดจนพัฒนาพื้นที่เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจซึ่งประกอบไปด้วย จุดสังคมไผ่และหญ้า, จุดสังคมไม้ต้นเด่น, จุดศึกษาโครงสร้างชั้นเรือนยอด, จุดริมน้ำ คลองน้ำ แหล่งน้ำ, จุดสังคมไม้ล้มลุก, จุดสัมผัสธรรมชาติต่างๆ, จุดปฏิทินธรรมชาติ, จุดชมนกชมไม้ และจุดบริเวณลานไม้หอมพรรณไม้อีสานมากมายหลากหลายชนิด
"สุดท้ายนี้ก็อยากจะขอฝากถึงนักเรียน นิสิต หรือบุคลากร ประชาชนทุกๆคนว่าโปรดช่วยกันดูแลทรัพยากรป่าไม้ที่เหลืออยู่ จงรักและดูแลเขาเปรียบเสมือนเป็นครอบครัวด้วยกัน เพราะประชาชนคือส่วนหนึ่งของสิ่งแวดล้อม"
ปรียานันท์ บุญราช
อ้างอิง:http://nuchy002.blogspot.com/2013/10/blog-post_386...
ช่วยเล่าเพิ่มเติมให้หน่อยนะครับ เช่น จัดทำสวนป่านี้เมื่อปี พ.ศ.ใด
พืช-ไม้หลักๆ คืออะไรบ้าง
และหากมีภาพประกอบอื่นๆ ก็อยากให้เอาลงเพิ่มเติม เช่น ชิงช้า บ้านไม้อีสาน ซึ่งเขียนเล่าเพิ่มเติมด้วยก็ได้ นะครับ เนื่องจากเป็นระบบนิเวศเดียวกัน