วันที่สิบห้า วันที่ยาวนาน (6 มิถุนายน 2559)


เริ่มต้นวันเเรกของสัปดาห์...ก็หนักหน่วงเเล้ว

เริ่มต้นของวันมาโรงเรียนตั้งเเต่ 7.30 จากเมื่อคืนทำงาน สื่อ แผน หนักไปหน่อย ตี 3 กว่า ๆ วันนี้เป็นอีกครั้งที่ได้พานักเรียนไปนอกสถานที่ นั่นคือ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ในงานบูชาเสาอินทขิลใส่ขันดอกจากที่วันศุกร์ได้ไปควบคุมชั้น ป.4-ุ6 เด็กโตไปแล้ว มาในวันนี้เป็นเด็กเล็ก ยิ่งกว่าจับปูใส่กระด้งซะอีก ต้องเข้มงวดมาก ต้องคุมทุกตารางเซนติเมตรเลยก็ว่าได้ ไม่งั้นเดี๋ยวหลงและแวบไปแวบมาแน่ ๆ

ในวันนี้เป็นห้องของครูโต้งเอง ชั้น ป.2/1 เริ่มจากการแสดงตนก็ว่าเป็นนักเรียนโรงเรียนสาธิตฯ ด้วยป้ายชื่ออันเก๋ไกด์ที่ให้เด็กๆ ทุก ๆ คนติดไว้ที่อกเสื้อของตัวเอง และก็มาเเบ่งนักเรียนกันเถอะ "พลู อันนาย อิคคิว บีม ยู กันต์ พีท เซเว่น ต้นกล้า ซิกเซ้นต์ โชกุน พายุ ปุ๊บปั๊บ ฟลุ๊ค ยูฟ่า" มา ๆ อยู่รถคันเดียวกับครูโต้งนะ และที่สำคัญฟังที่ครูพูดด้วย

"ครูกลัวว่าหนูๆ จะซุกซนเกินไป...ไปไหนมาไหนแว๊บเป็นว่าเล่น กันหายไว้ดีกว่าเนอะ"


หากพร้อมเเล้วก็เริ่มเดินทาง รถแดงตรงไปยังวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร มาคราวนี้ครูโต้งจะใช้ระบบหมู่ไปไหนไปกันเป็นหมู่ให้ครบทุกคน เริ่มที่การพาไปไหว้กันก่อนในวิหาร เเละให้อยู่ในวิหารให้นักเรียนขอพรจากพระสงฆ์ พรมน้ำมนต์ ทำบุญตักบาตร 108 ปิดทองพระพุทธรูป สะเดาะห์เคราะห์ ก่อนจะเรียกรวมพลให้ครบทุกคนก่อนนะ แต่ละคนอยู่ได้นิ่งมาก

"พักลมแดด ลมร้อนก่อนนะนักเรียน ครูไม่ไหวละ"


"ต่างคน ต่างขอพร ว่าเเต่เด็ก ๆขอพรอะไรกันบ้างนะ"


"มา ๆ ปิดทองกันเถอะ"


ครูครับ ผมนับได้ 112 บาตรครับ เธอไปนับเอาไหนมาเกินอีก 4บาตรเนี้ย


เมื่อรวมพลครบครูโต้งก็ได้พานักเรียนไปใส่ขันดอกต่อ งานนี้บอกเลยร้อนมาก นักเรียนทุกคนต่างนำดอกไม้ธูปเทียนมาเองที่บ้าน บางคนก็เอามาเยอะ บางคนก็เอามาน้อย แต่ส่วนมากนักเรียนจะเอามา 9 ชุด นักเรียนบอกเลขสวยดี เอาล่ะระบบหมู่ที่เตรียมไว้เริ่มเเตกล่ะ พลูเดินไปทางซ้าย พายุเดินไปทางขวา "เธอเขาหยั่งบ่ฟังครู ครูบอกว่าจะใด ให้เดินไปใส่ขันดอกตรงไหน เดี๋ยวจะโดน" มา ๆ เข้าแถวไปใส่ขันดอก งานนี้บอกเลยนักเรียนเดินไปคนล่ะทิศละทาง ดีที่นัดรวมพลไว้ก่อน นักเรียนที่ใส่ขันดอกเสร็จแล้วให้มารอ ที่เหลือเราก็ออกตามหาละ "ครูครับผมใส่ถาดนี้ได้ก่อครับ ครูครับผมไปใส่ตางปู๊นได้ก่อครับ" มา ๆ เดี๋ยวครูจะพาไป และในที่สุดก็รวมพลครบสักที ก่อนออกเดินทางไปยังพระเจดีย์สรงน้ำพระธาตุ "มีใครอยากเข้าห้องน้ำบ้าง" พริบตาเท่านั้นนักเรียนรถคันครูโต้งยกมือกันหมดทุกคน "เเหม ทีจะอี้ละเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเชียว ระบบหมู่เเบบสุด ๆ ทีครูบอกให้ฟังหยั่งบ่ทำจะอี้บ้าง"

"ครูขา หนูยื่อบ่ตึงคะ มันสูง"


"ครูครับ ผมขอหล่อ ๆ จะเอาไปอวดแม่"

เริ่มเดินทางไปยังพระธาตุเจดีย์ เสียงเริ่มมาละ "ครูครับผมหิวข้าว มะใดจะปล่อยไปซื้อขนม" พอหันมาหาคนนี้ปั๊บ อีกคนเริ่มล่ะ "นายพลูเธอจะไปไหนมาเดินทางเดียวกับเพื่อนนิเดี๋ยวจะหลงอีกคนล่ะ" อากาศก็ร้อน นักเรียนก็ซนเหลือเกิน หลังจากให้ไปสรงน้ำพระธาตุเจดีย์ คราวนี้ถึงเวลาที่เธอเขาต้องการละ "ตอนนี้ครูจะปล่อยให้นักเรียนไปซื้อของ และกลับมาเจอกันตรงนี้ตอน 10.30 นะ" พริบตาเดียวหายหมด วิ่งไปซื้อน้ำซื้อขนม ซื้อข้าวก็มี สงสัยคงหิวกันจริง ๆ ครูก็บ่ไหวเหมือนกันคุมเธอเขาเนี้ยขอน้ำซักขวดก่อน

"ใครมีร่มกาง ใครมีหมวกใส่ งานนี้ตัวใครตัวมันเน้อ"


ถึงเวลาก็มากันครบ เเต่พอจะเดินไปที่รถเท่านั้นเเหละ แวบหายไปอีกแล้วทีละคนสองคน "ครูครับเดี๋ยวผมไปตามเขาหื้อ" เธอบ่ต้องไปเดี๋ยวจะหายไปอีกคนรอเนี้ยเดี๋ยวครูเอง และก็ออกตามหานู๊นอยู่นู๊น ซื้อน้ำเเข็งใสอยู่นู๊น มา ๆ เพื่อนเขาจะกลับกันละ ในที่สุดก็ครบสักทีมาคันสุดท้ายอีกล่ะ ไป ๆ ขึ้นรถเขากลับโรงเรียนกันหมดละ .... ในที่สุดก็เสร็จสิ้นภาระกิจสักทีช่วงบ่ายนี้ลุยงานต่อ และในวันนี้คาบเรียนวิทยาศาสตร์ ป.2/2 หายไปอีกเเล้ว นักเรียนไปวัดกลับมาไม่ทัน

มาเริ่มในภาคบ่ายกลับมาพบอีกครั้งกับการเรียนวิทยาศาสตร์ ป.2/1 มารอบนี้บัตรภาพเป็นตัวช่วยได้เป็นอย่างดีกับการนำเข้าสู่บทเรียนได้อีกวิธีหนึ่ง ตามด้วยการใช้คำถามกระตุ้นให้นักเรียนสังเกตจากภาพ และคิดวิเคราะห์ออกมา มาในวันนี้เป็นเรื่องของปัจจัยที่มีผลต่อการดำรงชีวิตของสัตว์บ้าง จะพาไปดูของจริงก็คงไม่ได้ เพราะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับน้ำ อากาศ และอาหาร สองอันเเรกไม่เท่าไหร อันหลังที่เป็นปัจจัยอาหารนี่แหละปัญหา สัตว์กินพืช สัตว์กินสัตว์อื่น สัตว์กินได้ทั้งพืชและสัตว์ จะพาไปนั่งดูสิงโต ช้าง จระเข้ ของจริงก็คงไม่ไหว จะให้ดูคลิปวิดีโออุปกรณ์ก็ไม่พร้อม พาไปห้องคอมก็ไม่ว่าง เลยได้เเค่ลดระดับลงมาให้เป็นบัตรภาพ เด็กก็ยังให้ความสนใจอยู่ไม่น้อย เราก็อุ่นใจอยู่ในระดับหนึ่ง เเต่ก็ยังมีบางคนที่ไม่สนใจ ต้องเรียกให้กลับมาในบทเรียนอยู่บ่อย ๆ วันนี้ก็เสร็จสิ้นไปอีกภารกิจ

ต่ออีกภารกิจกับกิจกรรมสร้างสรรค์ ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ในหัวข้อ "นักสืบรุ่นจิ๋ว" กับการไปสังเกตเสาะหาสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตที่มีอยู่ในโรงเรียน กิจกรรมนี้จะช่วยฝึกทักษะการสังเกตของนักเรียน ซึ่งทักษะการสังเกตนั้นถือว่าเป็นทักษะพื้นฐานที่สำคัญของทักษะวิทยาศาสตร์ เพราะนักเรียนจะได้ลงมือปฏิบัติจริง เรียนรู้จากสถานการณ์จริง ทำให้นักเรียนได้รับทั้งความสนุกสนานเเละฝึกทักษะไปโดยไม่รู้ตัว หลังจากการไปสังเกตเเล้วเเน่นอนต้องมีการบันทึก นักเรียนทุกคนต่างได้สิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตที่เเตกต่างกันตามที่ได้ไปสำรวจ ต่างยกมือบอกครูมาเเบบไม่ซ๊ำกันเลย โดยการบันทึกชื่อเเละวาดรูป(บูรณาการวิชาวิทยาศาสตร์-เนื้อหา,ภาษาไทย-การเขียน,ศิลปะ-วาดรูป) ติดปัญหาอยู่อย่างเดียวนั่นคือ นักเรียนเขียนคำศัพท์บางคำไม่ได้ เช่น มนุษย์ แอร์ ไส้เดือน เป็นต้น

"ครูขาหนูวาดผึ้งไม่เป็นคะ"


ภารกิจในวันนี้ยังไม่หมดยังเหลือตรวจความเรียบร้อยของสมุดจดการบ้านของนักเรียนก่อนส่งคืนให้นักเรียนนำไปให้ผู้ปกครองดูในทุก ๆ วัน ตรวจงานเสร็จแล้วมาต่อด้วยการตรวจงานการบ้านวิทยาศาสตร์อีก รู้สึกเหมือนโต๊ะเริ่มมีพื้นที่ไม่เพียงพอ ของต่าง ๆ เริ่มมาวางบนโต๊ะเต็มไปหมด...จนเลยเวลาเลิกเรียนก็กลับบ้าน เหมือนว่าจะได้พักเเต่ไม่เลย

กลับมาบ้านยังเหลือมีภารกิจหนึ่งคือการไปร่วมแสดงความเสียใจกับอาจารย์ชาตรี (คุณพ่อของเรานั่นเอง) ที่ท่านได้สูญเสียบิดาซึ่งเป็นบุคคลอันเป็นที่รักของท่านไป “ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ” และก็เลยถือโอกาสนี้ได้พบปะกับเพื่อน ๆ อีกครั้ง...ขอให้ทุกคนอดทนในการฝึกสอน และผ่านพ้นทุกอย่างไปให้ได้ด้วยกัน

กลับบ้านมาก็จัดการกับธุระส่วนตัวจนเที่ยงคืนกว่า ๆ ก็มาถึงภารกิจสุดท้าย คือ การทำแผนการสอนต่อ นำโน๊ตบุ๊คมาวาง หนังสือมาวาง สื่อมาวาง เตรียมวางเเผนการทำแผนการสอน ทำได้เเค่ 10 นาที เผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ ร่างกายคงไม่ไหวจริง ๆ เเบบร่างกายอ่อนล้ามาก เริ่มถึงขีดจำกัดเเล้ว วันนี้ขอพักก่อนละกันนะไม่ไหวจริง ๆ พรุ่งนี้อยู่เวรเเต่เช้าด้วย...







หมายเลขบันทึก: 608000เขียนเมื่อ 8 มิถุนายน 2016 00:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 มิถุนายน 2016 01:14 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท