โรคที่มากับ..น้ำปลา?


วันนี้คุยเรื่องสุขภาพนะคะ รื่องน้ำปลากับโรคและความเสี่ยงต่อการเกิดโรค นะคะ

องค์การอนามัยโลก...ให้รับประทานอาหารที่มีโซเดียมได้ไม่เกินวัน 1,400 มิลลิกรัม ซึ่งอาหารไทยส่วนมากจะมีรสจัด ... โซเดียม เกินกว่ามาตรฐานที่กำหนดมาก และ โซเดียม ที่ใกล้ตัวมากที่สุดและคนมักมองข้ามคือ พริกน้ำปลา ที่แทบจะเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการรับประทานอาหารของคนไทยไปแล้ว ... เพราะจะเห็นว่าคนที่จะรับประทานอาหารมักจะคลุกเคล้าข้าวกับพริกน้ำปลา และเติมพริกน้ำปลาในอาหาร นอกจากนี้แล้วก่อนที่จะกินก๋วยเตี๋ยว ... ก็มักจะเติม น้ำปลา น้ำตาล น้ำส้มสายชู ลงไปด้วยนะคะ



อย่างไรก็ตาม การรับประทานอาหาร รสเค็มมากๆและบ่อยๆ จะมี ความเสี่ยง(Risk)ต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมองแตก โรคหัวใจ และไตวาย รวมทั้งโรคกระดูกพรุน ซึ่งผู้ที่เป็นโรคดังกล่าวอยู่แล้วจะต้องระมัดระวังอาหารที่มีโซเดียมสูง เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิด....ภาวะแทรกซ้อนในโรคที่เป็นอยู่ เนื่องจากโรคดังกล่าวนี้...เหมือนกับภัยเงียบที่ไม่บ่งบอกอาหารให้ผู้ป่วยได้รู้

คนที่เป็นก็จะไม่รู้สึกว่าเป็นอะไร แต่ .... เมื่อเป็นความดันสูงอยู่เรื่อยๆ เมื่ออายุมากขึ้น ความยืดหยุ่นเส้นเลือดน้อยลง...เส้นเลือดแข็งก็จะเปราะบาง ...เมื่อมีความดันสูงเรื่อยๆ ไม่สามารถคุมได้แล้ว....เกิดเส้นเลือดแตกตามจุดสำคัญต่างๆ ก็จะทำให้เป็นอัมพาต อัมพฤกษ์ กลายเป็นคนพิการ และที่ร้ายแรงที่สุดคือ เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

ทราบหรือไม่ว่าพริกน้ำปลา นอกจากไม่ได้จัดให้อยู่ในชุดอาหารเพื่อสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุแล้ว .... ยังอาจเป็นอันตรายต่อผู้สูงอายุโดยไม่รู้ตัวค่ะ

ถึงแม้แต่....คนวัยหนุ่มสาวที่ยังแข็งแรง ก็ต้องระมัดระวังและควบคุมการรับประทานอาหารรสเค็ม ....เพื่อเป็นการป้องกันและไม่ให้เกิดการสะสมโซเดียมไว้ในร่างกายมากเกินไป .... อีกทั้งควรเลือกใช้เกลือหรือน้ำปลาโลว์โซเดียม ที่มีจำหน่ายตามร้านค้าต่างๆ ... มาปรุงรสเค็มให้อาหารแทนน้ำปลาทั่วๆ ไป ซึ่ง น้ำปลาโลว์โซเดียม... นี้จะไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ต่อไปคงต้องหันมาใส่ใจเรื่องอาหารการกินให้มากขึ้นกว่าเดิม ... เพื่อสุขภาพที่ดีของคนที่คุณรักและตัวคุณเองค่ะ...


ขอบคุณข้อมูล รูปภาพจาก http://health.kapook.com/view37179.html และwww.google.co.th/search?q และ PANTIP.COM : D8491352


สรุปได้ว่า .... เราควรอาหารที่มีโซเดียมได้ไม่เกินวัน 1,400 มิลลิกรัม ... ซึ่งอาหารไทยส่วนมากจะมีรสจัด ... ทำให้มีโซเดียมเกินกว่ามาตรฐานที่กำหนดมาก และ โซเดียม ที่ใกล้ตัวมากที่สุดคือ พริกน้ำปลา ซึ่งเป็นวัฒนธรรมการรับประทานอาหารของคนไทยไปแล้วนะคะ ... และ พริกน้ำปลา ส่งผลให้เกิด ความเสี่ยง(Risk) ต่อการเป็น โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมองแตก โรคหัวใจ และ ไตวาย รวมทั้งโรคกระดูกพรุน และผู้ที่เป็นโรคดังกล่าวอยู่แล้ว....จะต้องระมัดระวังอาหารที่มีโซเดียมสูง เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิด....ภาวะแทรกซ้อนในโรคได้มากๆ ค่ะ .... แนะนำให้คนที่ติด "น้ำปลาพริก" ให้มาใช้ "น้ำปลาโลว์โซเดียม" แทนนะคะ...สุขภาพจะดี...ต้องเริ่มต้นดูแลในทุกๆ วัยนะคะ โดยเฉพาะผู้สูงวัยนะคะ


ขอบคุณที่อ่านบทความนี้

3 มิย. 2559

หมายเลขบันทึก: 607753เขียนเมื่อ 3 มิถุนายน 2016 14:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 มิถุนายน 2016 14:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

ขอบคุณ ท่านอจ. โสภณ เปียสนิท... ลดเค็มลงนิด ... ชีวิตปลอดโรคค่ะ

สวัสดีครับ แค่รูปแรกก็น่ากินนะครับ จะถ้ากินเค็มมาก ๆ โรคภัยมาเยี่ยมแน่นอนครับ พี่เปิ้นสบายดีนะครับ

ผมก็คนหนึ่ง ถ้ามีไข่ดาว ขาดไม่ได้เลยกับพริกน้ำปลา คิดขึ้นมารู้สึกเป็นห่วงตัวเอง..ขอบคุณมากครับสำหรับบทความเตือนสติ..


ขอบคุณ มากๆ ค่ะ สบายดีค่ะ คิดถึงเสมอนะคะ


ขอบคุณ ท่าน วันปีย์ มากๆ ค่ะ

ขอบคุณที่นำความรู้มาแป่งปันนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท