แตงเมล่อน ยอดหงิก เถาแตก เป็นไอ้โต้งไอ้แจ้ เพราะขาดซิลิก้า พีเอชไม่เหมาะสม


แตงเมล่อน ยอดหงิก เถาแตก เป็นไอ้โต้งไอ้แจ้ เพราะขาดซิลิก้า พีเอชไม่เหมาะสม

เมื่อวานนี้ได้มีโอกาสไปบรรยายที่จังหวัดราชบุรี กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูหลุม ซึ่งก็ไม่ได้มีแต่หมูเท่านั้นนะครับ พี่น้องเกษตรกรที่นี่ก็ยังประกอบอาชีพเกษตรอื่นๆ อีกเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเพาะเห็ด ปลูกถั่ว ปลูกมะเขือ ปลูกข้าว และโดยขณะนี้ก็มีเรื่องของการปลูกแตงญี่ปุ่น หรือเมล่อน ที่กำลังฮอทฮิตติดดาวอยู่ในขณะนี้ เนื่องด้วยใช้ระยะเวลาในการปลูกสั้น ใช้น้ำน้อยเพราะใช้ระยะเวลาเพียง

แต่ปัญหาที่ลุงป้าน้าอาทั้งหลายกำลังเดือดร้อนและให้ผู้เขียนเขาไปให้ข้อมูลก็คือเรื่องของการที่แตงเมล่อนนั้น มีอาการยอดหงิก ต้นเตี้ยแคระแกร็น เถาแตก แถมมีร่องรอยของหนอนชอนใบเข้ามารบกวนบางแปลงก็ถูกทำลายเสียหายเกินเยี่ยวยา บางแปลงก็ถูกทำลายไปเกือบครึ่ง โดยที่ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไรเพราะว่าอาศัยคำแนะนำของเซลล์ขายยาในท้องถิ่น ก่อนที่ผู้เขียนจะไปถึงแปลงลุงท่านหนึ่งก็ได้บอกว่าเพิ่งจะฉีดพ่นยาฆ่าหนอนไม่นาน ก่อนหน้านี้ก็ฉีดมาสองสามรอบแต่ก็ไม่ได้ผลไม่รู้ว่าเป็นอะไร

หลังจากที่เขาไปสำรวจแปลงกับกลุ่มเกษตรกร ทำให้พบว่าในแต่ละแปลงนั้นทำการปลูกโดยใช้ถุงพลาสติกคลุมแปลง และเจาะรูตรงกลางให้ต้นเมล่อนรอดขึ้นมาเกาะเถาหรือค้างที่ปักไว้ ไม่ได้ปลูกแบบโรงเรือนดังที่เราๆท่านๆ คุ้นตา ปลูกแบบโล่งแจ้ง ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีนะครับ เพราะต้นทุนต่ำ แต่ปัญหาก็คือ ไม่ว่าจะถามพี่ๆ ลุง ป้า น้า อาท่านใด ว่าได้ทำการตรวจวัดกรดด่างของดินหรือไม่ ปรากฏว่าไม่มีใครตรวจดินเลยสักคน จึงทำให้คาดว่า ค่าความเป็นกรดและด่างของดินนั้นอาจจะเป็นปัญหาต่อการเจริญเติบโตของแตงเมล่อนด้วยเช่นกันเพราะดินที่ผ่านการใช้ปุ๋ยเคมีมาเป็นระยะเวลานานนั้น มีโอกาสที่สสารของเคมีในรูปกรด โดยเฉพาะกลุ่มของซัลเฟตอาจจะสมตกค้างอยู่ทำให้บล็อกดิน บล็อกปุ๋ย ไม่สามารถใช้ทรัพยากรในพื้นที่ดินเดิมได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย

อีกเรื่องหนึ่งก็คือ เทคนิคการสร้างวัคซีนและภูมิคุ้มกันให้กับต้นเมล่อนพบว่ายังไม่มีการนำเอากลุ่มของหินแร่ภูเขาไฟ (พูมิช, พูมิชซัลเฟอร์) เข้ามาใช้ในการเตรียมแปลงและระหว่างปลูกทำให้ต้นเมล่อนนั้นหลังจากได้รับปุ๋ยแล้ว ก็พบอาการอ่อนแอ ผนังเซลล์ถูกหนอนชอนใบทั้งในระยะวัยหนึ่ง วัยสองเข้าทำลาย และกลุ่มของแมลงปากดูด ที่เข้ามาดูดกินน้ำเลี้ยงและนำมาพาเอาเชื้อวิสา หรือไวรัสเข้ามาในแปลงและเกิดการระบาดรุกรามไปทั่วลักษณะอาการแบบนี้ ถ้ารีบนำเอา พูมิช

ถึงแม้ว่าโรคที่เกิดจากไวรัสจะไม่มียารักษา แต่ถ้าทำให้พืชหรือแตงเมล่อนมีความแข็งแรง มีภูมิคุ้มกันเหมือนไก่ชน ก็สามารถทำให้ไวรัสไม่สามารถแสดงอาการออกมาได้เหมือนไก่ชนที่สามารถทนต่อเชื้อไข้หวัดนก ไม่เจ็บป่วย ไม่ล้มตาย ไม่ถูกรัฐบาลในขณะนั้นนำไปฆ่าเป็นแสนเป็นล้านตัว

มนตรีบุญจรัส

ชมรมเกษตรปลอดสารพิษwww.thaigreenagro.com

หมายเลขบันทึก: 606479เขียนเมื่อ 15 พฤษภาคม 2016 15:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 พฤษภาคม 2016 15:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท