สหกรณ์ไทยก้าวเดินมาไกลถึง 100 ปี และวิวัฒน์ขึ้นในโลกนี้
เกือบ 200 ปี แต่ก็ยังมีคำถามค้างคาใจว่าทำไมสหกรณ์
ไม่ค่อยมีบทบาทในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย
เท่าที่ควรจะเป็นตามกาลเวลาที่ยาวนาน ถึงแม้ จะมีสหกรณ์ต่าง ๆ
ได้รับคัดเลือกเป็นสหกรณ์ดีเด่นรวมแล้วเป็นจำนวนมากที่ผ่านมา
อาจจะเป็นเพราะบางคนทำสหกรณ์เพียงเพื่อช่วยเหลือกัน
และกันในกลุ่ม องค์กร วงศ์สัมพันธ์ของตนเอง หรือพวกพ้อง
ของตนก็มี เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนใน
ระดับปัจเจกชน เรื่องปากท้อง รวมถึงปัจจัยสี่อื่น ๆ กิเลสอย่างหยาบ
ทั้งที่การทำสหกรณ์จริง ๆ แล้วเพื่อแก้ไขปัญหาพื้นฐาน
ในระดับบุคคลและครัวเรือนได้แล้วก็จริง สหกรณ์ควรยก
ระดับการพัฒนาให้สูงขึ้นสู่ การแก้ปัญหาความไม่เป็นธรรม
ทางเศรษฐกิจโดยรวมของคนและช่วยลดความเลื่อมล้ำในสังคมด้วย
เพื่อสร้างโลกที่สันติสุขสันติภาพ
ในโลกความเป็นจริงส่วนใหญ่สหกรณ์ที่จัดตั้งขึ้น
ก็ยังคงก้มหน้าก้มตาทำสหกรณ์ ของตนแบบต่างคนต่างทำ
อย่างเป็นอิสระและมุ่งวนเวียนอยู่กับการทำสหกรณ์
ในระดับบุคคลหรือครัวเรือน กลุ่มบุคคลเพื่อนฝูงภายในองค์กร
ไม่ได้จับมือกันสร้างเศรษฐกิจและสังคมที่สันติสุขสันติภาพ
ตามอุดมการณ์สหกรณ์ที่วางไว้
ถ้าอยากให้สหกรณ์มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจและสังคม
คนรุ่นใหม่ได้มีความรู้การสหกรณ์รวมถึงการทำสหกรณ์ที่ถูกต้องเหมาะสม
ได้รับการสืบทอดรวมถึงการอนุรักษ์สิ่งที่ดีงาม
ที่สร้างคุณค่าและค่านิยมที่ได้รับการยอมรับต่อกันไปได้.....
คนสหกรณ์ทุกคนทุกฝ่ายก็ต้องตั้งใจให้ความรู้
แก่คนรุ่นใหม่ สร้างนักสหกรณ์รุ่นใหม่ขึ้นมาให้มีความสมบูรณ์
มีความรู้ความเข้าใจเรื่องการสหกรณ์ทั้งวิชาการและปฏิบัติ
โดยคนที่มีความรู้ก็ควรถ่ายทอดให้คนที่ไม่รู้....
คนที่ไม่รู้ก็ควรศึกษาค้นคว้าให้ความสนใจ สอบถามจากผู้ที่รู้
คนสหกรณ์ทุกฝ่ายควรปรับทัศนคติความรู้และค้นคว้าหา
ความจริงจากการปฏิบัติมาแบ่งปันกัน เพื่อป้อนให้สหกรณ์เป็น
เศรษฐกิจกระแสใหม่เข้าสู่สังคมไทยอย่างมั่นใจ
ทำให้คนไทยส่วนใหญ่ที่ไม่มีความรู้เรื่องสหกรณ์ได้รู้และคนที่มีความรู้ผิด ๆ
ได้เข้าใจถูกต้อง มีความเชื่อมั่น และศรัทธามากขึ้น
ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
จึงจะเป็นทางออกที่ดีในการเผยแพร่ความรู้สหกรณ์
ทุกฝ่ายต้องยอมรับความจริง ยอมรับกันและกัน ไม่ใช่ถกเถียงกัน...
วิพากษ์ เพื่อข่มกันหรือดูถูกถากถางกัน...กลั่นแกล้งคอยปัดแข้งปัดขากันเอง
ด้วยความอิจฉาหรือเกรงว่าคนอื่นจะรู้มากกว่า
เก่งกว่าตนหรือหวงวิชาไว้เพื่อประโยชน์ส่วนตน และไม่ควรใช้อารมณ์
ความรู้สึกหรือแม้แต่ค่านิยมส่วนตัวเป็นใหญ่ ยกขึ้นต่อสู้
เพื่อเอาชนะมากกว่าความมีเหตุผลและหลักฐานทางวิชาการหรือ
หลักฐานอื่นใดที่น่าเชื่อถือได้
อยากให้คนสหกรณ์ทุกคนที่มีความรู้ ใครรู้อะไร
ใครค้นพบอะไรควรจะนำมาแลกเปลี่ยนกันเรียนรู้
เปิดใจรับความรู้จากคนอื่นมาเพื่อเติมเต็มกันและกัน
เพราะองค์ความรู้ของสหกรณ์ทั้งอดีตและปัจจุบัน
ได้รับการบันทึกจดจำไว้มากพอที่จะใช้ให้เกิดประโยชน์
สหกรณ์จึงจะพัฒนาเป็นเศรษฐกิจกระแสใหม่
ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมชาวโลกได้อย่างกว้างขว้าง
รู้จักและเลือกรับไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อชาวโลก
ภาพประกอบ สถานที่ประชุมกลุ่ม สมาชิกสหกรณ์การเกษตรนาหม่อม จำกัด
ณ วัดโคกพยอม ต.พิาจิตร อ.นาหม่อม จ.สงขลา
ไม่มีความเห็น