แอ่วเหนือ ทริปนี้คิดถึงวิชาย่อความ


สวัสดีครับ เดือนมีนาคม - เมษายน อากาศบ้านเราจะร้อนไปไหน เอาภาพตอนมกราคม อากาศเย็นสบายมาให้ชมผ่อนคลายกันบ้างดีกว่า ลุงชาติมีภารกิจต้องไปถ่ายภาพที่เชียงใหม่ เมื่อเดือนมกราคม เป็นงานพระราชทานปริญญาบัตร มีบัณฑิตจากรั้ว มช.ที่ต้องไปถ่ายภาพให้สี่คน และ มีแถมถ่ายพรอตเทรตอีกนิดหน่อย เลยถือโอกาสพาครอบครัวไปแอ่วเหนือซะด้วยเลย แอ่วเหนือฉบับย่อความ


ภารกิจหลักคืองานถ่ายภาพรับปริญญา พอมีช่วงว่างจากถ่ายภาพรับปริญญา ก็จะไปหาที่เที่ยวกัน วันแรกๆก็ยังฟิตอยู่ พอเที่ยวกับเขาไหว มาวันหลังๆ เริ่มล้าเหมือนกัน เที่ยวกับเขาไม่ค่อยไหว อิอิ ก็เราเจอกับบัณฑิตวัยรุ่นมาทั้งวัน เที่ยววันท้ายๆจึงไม่ค่อยได้ถ่ายภาพสักเท่าไร ถ่ายแค่เป็นบันทึกความทรงจำให้กับป้าๆเท่านั้น วันแรก ไปเยือนม่อนแจ่ม อยากรู้ว่าจะแจ่มสมชื่อไหมหนอ





นางแบบคนนี้ไม่ค่อยจะเชื่อฟังช่างภาพสักเท่าไร

บอกให้ถอยหลังออกไปอีกสองสามก้าว

จะได้ภาพที่สวยกว่านี้

แกไม่เชื่อ.!




เห็นเด็กชาวเขานั่งเล่นกันอยู่ สักพักมีนักท่องเที่ยวมาขอถ่ายภาพ

</strong>

เด็กชาวเขายิ้มแย้มแจ่มใสดี จะให้โพสอย่างไรทำได้หมด

และเมื่อถ่ายภาพเสร็จ เห็นว่ามีบางคน ให้เงินกับเด็กชาวเขา




ภาพนี้เห็นแสงที่ส่องทะลุหมอกควันออกมา ดูน่าสนใจดี กดถ่ายมาในมุมย้อนแสง เสี่ยงเอากับการได้แสงแฟลร์ เคยได้ยินบางคนบอกว่า อย่าถ่ายภาพย้อนแสง ภาพจะไม่สวย หน้าคนจะมืด ที่จริงแล้ว การมองแสงเต็มๆมันอันตราย ฟังไว้บ้างก็ไม่เสียหายนะครั บ แสงอาทิตย์แรงๆที่ผ่านเลนส์มีอันตรายกับตามนุษย์ และมีอันตรายกับ CCD ประมวลผลในกล้องด้วย





ต่อมาทีมเราเดินทางมาที่ไร่สตรอเบอรี่ เพื่อมาชมบรรยากาศ มาเก็บกันสดๆ มาชิม มาซื้อ และถ่ายพอร์ตเทรตสาวชาวไร่ ภาพนี้เป็นลูกของชาวไร่จริงๆ ขออนุญาตเขาถ่ายมาครับ และภาพการเก็บสตรอเบอรี่ สดจากไร่กันเลย





เนื่องจากนางแบบต้องนำภาพไปใช้ในกิจกรรมอื่นๆ

</strong>

ภาพที่ได้รับอนุญาตให้โพสจึงมีภาพเดียวเท่านั้น

นอกนั้นขอเก็บไว้เป็นบันทึกในความทรงจำของนางแบบเอง

น้องๆสาวชาวไร่สตรอเบอรี่ ลงทุนลุยโคลนลุยแฉะ

เพื่อซึมซับบรรยากาศ และบันทึกเป็นประสบการณ์ของชีวิต




ในเมืองเชียงใหม่รถติดคล้ายกรุงเทพฯ แวะที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร มีเวลาไม่มากนัก มีผู้คนมาที่วัดนี้เนืองแน่นมาก หาที่จอดรถลำบากทีเดียว





ที่นี่ อุทยานหลวงราชพฤกษ์

</strong>

เป็นสถานที่ยอดฮิตอีกหนึ่งแห่ง

ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชมกันเป็นจำนวนมาก





ที่นี่ปลูกดอกไม้สวยๆไว้เยอะเหมือนกัน แต่ภาพที่ผมถ่ายมา มีแต่ภาพที่มีสาวๆไปยืนบังดอกไม้ซะเป็นส่วนใหญ่ เหลือภาพที่เป็นดอกไม้ล้วนๆไม่กี่ภาพ





ตรงนี้ก็คิวสาวๆยาวเชียว

ดอกไม้สีสดๆหวานๆใครเห็นก็ชอบ

บางคนเอาหน้าไปแนบถ่ายภาพ

ผมละเสียวแทน กลัวเขาฉีดยาแล้วสารเคมีมันยังตกค้างอยู่นะครับ




เมื่อเสร็จสิ้นจากงานรับปริญญา

วันรุ่งขึ้นสมาชิกต้องการไปที่เชียงราย

เป้าหมายแห่งแรก พระตำหนักดอยตุง





เนื่องจากผมลุยงานรับปริญญา เจอบัณฑิตวัยรุ่นปราดเปรียว 4คน ลุยมาสามสี่วัน วันนี้เลยกำลังวังชามันลดฮวบ ไม่ค่อยได้ถ่ายภาพเท่าใดนัก สถานที่เขาสวยและมีเสน่ห์ แต่ผมหมดแรงถ่าย จึงไม่ได้พิถีพิถันกับมุมกล้องนัก บางภาพยังงงว่าถ่ายมาทำไม





ถ้าไม่มีดอกไม้สวยๆ ไม่มีธรรมชาติงามๆแบบนี้ ป่านนี้คงฟุบไปแล้ว ธรรมชาติดี อากาศดี ร่างกายเราสดชื่นขึ้นมากทีเดียว แต่ก็นะ คงฝืนกับสภาพร่างกายไม่ได้มากนัก อากาศที่นี่สดชื่นจริงๆครับ ตั้งใจไว้ว่า ลงจากดอยตุง แวะพักที่เชียงรายคืนนี้จะสลบให้ยาวถึงเช้าเลย





เดินเที่ยวที่นี่ ตรงไหนก็ดูสวย

</strong>

ป้าแกเดินไม่หยุด แกหามุมให้เราถ่าย

ยิ่งช่วงที่ดวงอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำ

แสงสีเหลืองส้มเริ่มทอมา

ป้าแกยิ่งเดินหามุมเพิ่ม





เอ้า.! เห็นป้าแกชอบ จัดให้ป้าแกหน่อย

เที่ยวชมความงามที่ดอยตุงจนถึงเวลาปิด ลงจากดอยตอนใกล้ค่ำ ถึงโรงแรมที่พักในเมืองเชียงราย ลุงชาติสลบสมดังตั้งใจ





ตื่นเช้าขึ้นมา ร่างกายสดชื่นขึ้นเยอะ

วันนี้เป็นวันที่จะเดินทางกลับกทม.แล้ว

แวะที่แม่สายอีกสักหน่อย

เจอพระพุทธ เข้าไปกราบพระ





อ๊ะ.! มาเจอพระองค์อ้วนๆนั่งยิ้ม ที่พุงมีท่อต่อออกมา ปลายท่อมีกรวย สำหรับให้ผู้มีจิตศรัทธาหยอดเหรียญ เมื่อเหรียญไหลลงไปในพุงพระ คงตกลงไปโดนสวิทช์อิเลคทรอนิคส์ เพื่อเปิดให้มีเสียงหัวเราะดังออกมาจากองค์พระ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ หรือ หะ หะ หะ ประมาณนี้ ... ผมอยากร้องไห้





มาแม่สายครั้งนี้ แม่สายเปลี่ยนแปลงไปมากมาย อารมณ์ที่อยากถ่ายภาพแบบเมื่อครั้งยังเป็นหนุ่มเลยพลอยหายไปหมดเลย ผมถ่ายภาพอีกเพียงสองสามภาพเท่านั้นแล้วหันหัวรถกลับดีกว่า





มุ่งหน้ากลับกทม. เวลาประมาณ หกโมงเย็น ผ่านวงเวียนหอนาฬิกา เป็นช่วงที่รถติดพอดี เลยยกกล้องขึ้นถ่ายจากในรถ ถ่ายผ่านกระจกหน้ารถออกมา





เส้นทางกลับบ้าน ผ่านวัดร่องขุ่น แต่เรามาถึงตอนค่ำ วัดปิดแล้ว คงเดินชมได้แค่รอบๆบริเวณภายนอก แต่ขอบอกว่า มากลางวันดีกว่านะครับ กลางคืน ยุงชุมมาก ขนาดเดินไปเรื่อยๆมันยังตามกัดเลย ถ่ายภาพแบบไม่ต้องคิดไรมาก ถ่ายเสร็จรีบขึ้นรถกลับบ้านดีกว่า คืนนี้ทั้งคืน ลุงชาติขับรถกลับกทม.โดยมี GPS จ้อไปด้วยตลอดเส้นทาง บางครั้งป้าก็จะตื่นมาช่วยดู GPS และช่วยบอกเส้นทางล่วงหน้าใน GPS ให้ด้วย ถึงกทม.ในตอนสายๆของวันรุ่งขึ้น ลุงขออนุญาตสลบสักสามวัน จึงได้เริ่มทำภาพให้บัณฑิต






ขอจบทริปแอ่วเหนือ ฉบับย่อความไว้เพียงเท่านี้ ทริปนี้ไปเที่ยวเป็นสิบแห่ง ถ่ายภาพเฉพาะภาพรับปริญญาและภาพพรอตเทรตมา พันกว่าภาพ แต่ขออนุญาตไม่นำลงมาโพส เพราะไม่ได้ขออนุญาตเจ้าของภาพ ส่วนภาพที่ไปเที่ยว ก็ถ่ายไว้เป็นร้อยๆภาพ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นภาพในความทรงจำ เป็นภาพถ่ายที่ระลึกส่วนบุคคล จึงไม่อยากนำมาโพสมากนัก เลยขอจัดเป็นทริป แอ่วเหนือ ทริปนี้คิดถึงวิชาย่อความ ซึ่งสรุปจบทริปด้วยภาพถ่ายสามสิบกว่าภาพ นำมาผสมกันทำเป็นภาพรวมยี่สิบภาพ หวังว่าวิชาย่อความนี้ น่าจะผ่านไปได้ด้วยดี

ขอขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านที่คอยให้กำลังใจกันมาตลอด

ขอบคุณ Gotoknow

ที่ให้พื้นที่ดีๆในการแบ่งปันความสุข

ขอบคุณครับ



หมายเลขบันทึก: 605379เขียนเมื่อ 25 เมษายน 2016 11:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 เมษายน 2016 11:58 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีครับคุณ แสงแห่งความดี

ขอบคุณมากนะครับสำหรับคำชม

ที่มาให้กำลังใจกัน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท