๒๐. เพิ่มเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้..สู่ผลการสอบโอเน็ต..ยอดเยี่ยม


ขนาดเพิ่มเวลาให้นักเรียน และพัฒนาผู้เรียน ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ ครูทุกคนยังต้องเพิ่มการทำงานหนักกันมาทุกปี ผลที่ได้เสมอตัวบ้าง..ประสบความสำเร็จบ้าง ก็ว่ากันไป..หรือว่า..เท่าที่ผ่านมา..ยังทำไม่ถูก ยังเกาไม่ถูกที่คัน เมื่อลดเวลาเรียนลง พุ่งตรงไปสู่จุดหมายที่แท้จริง ด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย ..จะเข้าสู่หลักชัยแห่งคุณภาพได้เหมือนกัน คือ..ผลโอเน็ต..เป็นที่น่าพอใจ

ยอดเยี่ยมในที่นี้..เป็นความยอดเยี่ยมของโรงเรียน..ที่ไม่มีใครบอก แต่เราบอกได้ด้วยตัวของเราเอง ตรงตามความต้องการ ความคาดหวังและบริบทของโรงเรียน..อย่างแท้จริง..แต่กว่าจะได้มาซึ่งคะแนน..ที่ตีค่าเป็น..คุณภาพการเรียนการสอน..ต้องลงทุนลงแรง..และบริหารจัดการอย่างมากมาย

ปีการศึกษา ๒๕๕๘ กับนักเรียนชั้น ป.๖ ที่จบไป เป็นนักเรียนรุ่นที่..ค่อนข้างมีปัญหา อันเนื่องมาจาก..พื้นฐานทางการเรียน..ไม่เข้มแข็งเท่าที่ควร ที่เกิดจากการขาดครูผู้เชี่ยวชาญ เฉพาะด้านเฉพาะทาง..นักเรียนขาดทักษะ..ที่จำเป็น โดยเฉพาะกระบวนการคิด วิเคราะห์..ที่ขาดการฝึก ความคิดเชื่อมโยง และการประยุกต์ใช้..นักเรียนไม่สามารถบ่มเพาะในจุดนี้ได้เลย....

ต้นปีการศึกษา..ความรู้สึกอยากถอดใจ อยากปล่อยให้เป็นธรรมชาติ ให้นักเรียนได้เรียนรู้กันไปตามปกติ โดยที่ไม่ต้องซ่อมเสริมเติมแต่ง..ไม่ต้องให้อะไรเป็นพิเศษ เพื่อจะได้ไม่ต้องกดดันทั้งนักเรียน ครู และผู้บริหาร....

แต่แล้ว...ก็ต้องอดสูใจ ถ้าจะต้องอยู่เฉย งานนี้จะวางเฉยไม่ได้ ลูกค้าคนสำคัญ คือ ผู้ปกครอง ต้องการให้ลูกหลานไปต่อ..และนับวันจะยิ่งศรัทธาโรงเรียนมากขึ้น..อีกทั้ง ต้นสังกัด.ก็.เร่งรัด นิเทศกำกับ ติดตาม..หวังจะเห็นโรงเรียนขนาดเล็ก มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน(โอเน็ต) สูงขึ้นมากกว่า ร้อยละ ๓ และ ถามหาคุณภาพในทุกๆด้าน ทุกชั้น ทั้งการอ่าน การเขียน และต้องการเห็น..ห้องเรียนคุณภาพ เกิดขึ้นในทุกโรงเรียน ฯลฯ

ผมหันหลังกลับมา..มองนักเรียน ป.๖ ยังไม่สายเกินไปที่จะดูแลพวกเขา..เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่สนามสอบ ระดับชาติ ..เริ่มจากวิเคราะห์นักเรียนเป็นรายบุคคล ตระเตรียมเครื่องมือ แบบทดสอบ บริหารจัดการเวลา ว่าช่วงไหน เวลาใด จะต้องเรียนรู้และทำกิจกรรมอะไรบ้าง ตลอดจนปรึกษาหารือครูชั้นอื่น มีครูคนไหน ถนัดวิชาอะไร..เรามาช่วยกันพัฒนานักเรียน ป.๖ ให้ก้าวไปให้ได้ตลอดรอดฝั่ง..

โชคดี...ของโรงเรียนและนักเรียน..ได้ครูบรรจุใหม่(ครูผู้ช่วย) มาถูกที่ถูกเวลา มารับผิดชอบช่วยผมอีกแรง ภาคเรียนที่ ๒..จึงเป็นช่วงเวลาที่จัดการเรียนการสอนกันอย่างหนัก เรียนเสริมเติมเต็ม ทบทวนเนื้อหา และใช้เวลาช่วงเลิกเรียน และเสริมให้ในวันเสาร์ ทั้งครูและนักเรียน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่ง

โชคดี...ของโรงเรียนและนักเรียน ที่เขตพื้นที่ฯ ไม่ได้คัดเลือกให้เป็นโรงเรียนนำร่อง..ในเรื่อง..”ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้..” โรงเรียน จึงกล้าตัดสินใจ เพิ่มเวลาเรียน เพิ่มเวลาสอนกันอย่างมากมาย อย่างที่ไม่กลัวว่า จะผิดนโยบายของรัฐมนตรี...

แต่ปีการศึกษา ๒๕๕๙ ที่กำลังจะมาถึง โรงเรียนได้รับคัดเลือกให้เข้าสู่โครงการ..ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้...เป็น ๑ ใน ๔๒ โรงเรียน ที่ต้องมีกิจกรรม(พิเศษ) หลังเวลา ๑๔.๓๐ น. เป็นต้นไป..

จะว่าไปแล้ว..นักเรียนในแต่ละรุ่น โดยเฉพาะ ป.๖ ไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก..หมายความว่า..มาตรฐานทางการเรียนรู้ ยังไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร การสอนในเวลาปกติ เท่าที่ผ่านมาหลายปี ไม่เคยมีคำว่า..เพียงพอ..เพราะ..ครูไม่ครบชั้น ภาระงานของครูมากมาย จะยกนักเรียนไว้กับ DLTV อย่างเดียว..คงเป็นไปไม่ได้..เพราะนโยบายทางการศึกษา กับในบริบทที่แท้จริง ของโรงเรียนขนาดเล็ก.นั้น .เป็นคนละเรื่อง..การปฏิรูปการศึกษา ในส่วนของการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ ตามความแตกต่าง ความถนัด และความสนใจ ยังไม่เอื้อให้นักเรียน เรียนรู้ทักษะชีวิตได้อย่างมีความสุข..ครู..และผู้บริหาร ยังต้องกังวลกับคุณภาพ ที่ถูกวัดโดยส่วนกลาง ยังใช้เครื่องมือประเมินผล..เพื่อวัดคุณภาพและจัดอันดับจากส่วนกลางทุกปี ที่ไม่ตรงกับปัญหาของโรงเรียน..ผมจึงไม่แน่ใจว่า..ปีการศึกษาหน้า..ลดเวลาเรียนลงแล้ว..จะเกิดอะไรขึ้น..นักเรียนจะเข้าสู่สนามสอบ..อย่างมั่นใจมากน้อยแค่ไหน...

ขนาดเพิ่มเวลาให้นักเรียน และพัฒนาผู้เรียน ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ ครูทุกคนยังต้องเพิ่มการทำงานหนักกันมาทุกปี ผลที่ได้เสมอตัวบ้าง..ประสบความสำเร็จบ้าง ก็ว่ากันไป..หรือว่า..เท่าที่ผ่านมา..ยังทำไม่ถูก ยังเกาไม่ถูกที่คัน เมื่อลดเวลาเรียนลง พุ่งตรงไปสู่จุดหมายที่แท้จริง ด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย ..จะเข้าสู่หลักชัยแห่งคุณภาพได้เหมือนกัน คือ..ผลโอเน็ต..เป็นที่น่าพอใจ

แต่คิดคราใด..ก็รู้สึกหนาวใจ เพราะเท่าที่ผ่านมา..ข้อสอบ..กับการเรียนรู้ในชีวิตประจำวัน นั้นคนละเรื่อง..สิ่งที่เหมือนเดิม คือ ปัญหา ..ที่เกิดจากข้อจำกัดบางประการ ที่ทำให้โรงเรียนขนาดเล็ก..ไม่สามารถลดความเข้มข้น..ในการทำงานได้มากมายนัก....

ครับ..เชื่อว่า..เดี๋ยวมันก็ผ่านไป แต่ที่ผ่านมา..ทำดีที่สุดแล้ว ในรอบ ๑๐ ปี ทุกปี..ผลโอเน็ตสูงกว่าระดับชาติไม่มาก..และต่ำกว่าระดับชาติ..ในวิชาภาษาอังกฤษ ปีนี้..สูงกว่าค่าเฉลี่ยของระดับชาติทุกวิชา..วิชาภาษาไทย คณิตศาสตร์ และสังคมศึกษา สูงมาก..จนทำให้เกิดความคิดว่า..การบริหารจัดการ..เดินมาถูกทางแล้ว...และหน่วยงานต้นสังกัด ไว้วางใจเราหน่อยได้ไหม..ให้เราได้คิดเอง ทำเอง..จะวัดและประเมินผลเราก็ไม่ว่า..เป้าหมาย.ปลายทาง..เราเข้าใจ..แต่ขอให้เราได้เดินบนเส้นทางหรือใช้วิธีการของเราเอง..ได้ไหม

ชยันต์ เพชรศรีจันทร์

๓๐ มีนาคม ๒๕๕๙

www.bannongphue.com

หมายเลขบันทึก: 604360เขียนเมื่อ 30 มีนาคม 2016 22:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 มีนาคม 2016 17:06 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

สรุปว่าลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ทำให้ผลโอเน็ดดีขึ้นใช่ไหมครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท