๙. ทำวัตรเย็น


ห้องสรงน้ำของหลวงปู่อยู่ข้างกุฏิ ทำง่ายๆ เพียงไม้กระดาน ๔ แผ่น แต่ละแผ่นกว้างราว ๔ นิ้วฟุต ยาวราว ๑ เมตร นำมาปูเรียงเป็นผืน ข้างๆ มีโอ่งดินเผาบรรจุน้ำได้สัก ๘ ปี๊บใหญ่ ซึ่งสามเณรใช้รถลากนำน้ำมาเติมทุกๆ เช้า

ส่วนผมมีที่อาบน้ำคือบ่อใกล้ๆ กุฏิแม่ชี แต่มีป่าหญ้าคาและไม้เบญจพรรณโปร่งๆ กั้นอยู่ ผมคว้าผ้าขาวม้าวิ่งไปที่บ่อน้ำ พอไปถึงก็เห็นสนกำลังโยงน้ำขึ้นจากบ่อด้วยปี๊บเล็กๆ เขานำน้ำไปเทใส่โอ่งดินที่อยู่ห่างจากบ่อราว ๑๐ เมตร ซึ่งเป็นที่อาบน้ำของเรา

“เคยฟังเรื่องพระเตมีย์ใบ้ไหม” ผมถามสนแบบโอ้อวด

“ไม่เคย เป็นยังไง” สนตอบ

“ตักน้ำมาอีกแล้วจะเล่าให้ฟัง” ผมได้ที ถือโอกาสใช้สนซะเลย

ผมเล่าย่อๆ เท่าที่จับใจความได้ ขณะที่เราต่างตักน้ำจากโอ่งราดตัว

“สนุกดี แต่แปลกนะนิทานที่เราฟังมา มีแต่คนอยากเป็นพระราชา แต่พระเตมีย์นี่แปลกมาก” สนสงสัย

“หลวงปู่บอกว่า เรื่องจริงนะ เป็นชาติหนึ่งของพระพุทธเจ้า” ผมอ้างหลวงปู่

“เหรอ พรุ่งนี้เราขอไปฟังด้วยนะ” สนอยากฟังบ้าง ซึ่งผมก็รับปากเพราะคิดว่า หลวงปู่คงเล่าอีกและผมก็อยากให้สนไปฟังด้วย

อาบน้ำเสร็จ หรือจะพูดให้ถูกก็คือ ตักน้ำราดตัวเสร็จ ผมกลับมากุฏิหลวงปู่ เอาผ้าขาวม้าพาดที่ราวไม้ไผ่ ข้างกุฏิด้านที่ผมนอน แล้วย้อนกลับไปที่ศาลาวัด ซึ่งตอนนั้นตะวันสีแดงกำลังจะลับขอบฟ้า

ผมค่อยๆ สาวตัวขึ้นบันได รอบๆ บริเวณเงียบสงัด เหมือนกับไม่มีสิ่งที่มีชีวิต ทั้งๆ ที่บนศาลามีพระสงฆ์ ๓ รูป คือ หลวงพ่อ พระภิกษุหนุ่ม และหลวงปู่ ท่านทั้งสามนั่งสมาธิอยู่บนอาสนะสงฆ์ แต่คราวนี้ไม่อยู่บนยกพื้น มาอยู่ด้านหน้าโต๊ะหมู่บูชา ตรงที่ชาวบ้านนั่งตอนเช้าถวายภัตตาหาร จากนั้นแถวที่สอง เป็นสามเณร แถวที่สามเป็นแม่ชี สุดท้ายเป็นสน

ผมคลานอย่างระวังตัวไปนั่งสมาธิข้างๆ สน ทุกสรรพสิ่งเงียบสงัด ได้ยินเพียงเสียงนกที่ร้องแว่วๆ แต่ไกล

อึดใจใหญ่ๆ ผมได้ยินเสียงขยับตัว จึงลืมตาขึ้น เห็นหลวงพ่อนั่งคุกเข่า ทุกคนขยับตัวนั่งคุกเข่า ผมรีบคุกเข่าด้วยทันที

หลวงพ่อจุดไม้ขีดไฟ จ่อเปลวไปจุดเทียนและธูปบนโต๊ะหมู่บูชา แสงเทียนคู่นั้นส่องให้เห็นพระพักตร์ของพระพุทธรูปขนาดหน้าตัก ๙ นิ้ว สงบนิ่ง อิ่มเอิบและเปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณา

ทำวัตรเย็นต้องนั่งทับส้นเท้าเป็นเวลานาน ผมปวดตรงข้อเท้าส่วนที่ต่อกับฝ่าเท้ามาก พอทำวัตรเย็นเสร็จคิดว่าจะได้เหยียดขา แต่หลวงพ่อยังไม่ลุก ท่านกลับนั่งสมาธิต่อ ผมจึงต้องนั่งสมาธิด้วย ซึ่งต่อมาผมทราบว่า การทำวัตรเช้าและเย็นของวัดป่าหนองยาว จะเริ่มจากนั่งสมาธิก่อนราวครึ่งชั่วโมง จากนั้นจึงทำวัตรและหลังจากทำวัตรก็จะนั่งสมาธิอีกหนึ่งชั่วโมง เมื่อครบกำหนดบางวันหลวงพ่อจะอบรมหรือประชุมบอกเล่าเรื่องต่างๆ ตามแต่หลวงพ่อเห็นสมควร บางครั้งก็เลิกแล้วแต่โอกาส

หมายเลขบันทึก: 603675เขียนเมื่อ 18 มีนาคม 2016 16:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 พฤษภาคม 2017 16:02 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท