การทำความดี ต้องถูกกาลเทศะและบุคคลจึงจะส่งผลเร็วไว

การทำความดี ต้องถูกกาลเทศะและบุคคลจึงจะส่งผลเร็วไว

</a>

การทำความดี ต้องถูกกาลเทศะและคคลจึงจะส่งผลเร็วไว

ถวิล อรัญเวศ
รอง ผอ.สพป.นครราชสีมา เขต 4

เคยได้ฟังข้อคิดจากผู้ใหญ่หลาย ๆ ท่านเกี่ยวกับการทำความดีที่จะส่งผลให้ประสบความสำเร็จเร็วไว นอกจากจะตั้งใจทำดีจนสุดความสามารถแล้ว ยังต้องถูกกาลเวลา สถานที่และบุคคลด้วย นอกจากนี้แล้วก็ยังมีปัจจัยอีกหลาย ๆ ด้านที่จะต้องนำมาพิจารณา เพราะมนุษย์เรายังเป็นปุถุชน มีอะไรหลาย ๆ อย่างที่จะปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งเหล่านี้ ยังมีอำนาจแฝงอยู่ แม้จะไม่ทุกคน แต่ก็น่าจะเป็นส่วนใหญ่ เช่น

1. สายโลหิต ความเป็นญาติสายโลหิต อาจจะมีส่วนที่จะดึงฉุดให้เจริญก้าวหน้าได้ มาจากสกุลไหน พ่อแม่พี่น้องเป็นใคร เป็นญาติโก โหติกาใคร

2. มิตรข้างเคียง มิตรบริวารก็มีส่วนที่จะช่วยผลักดันให้ประสบผลสำเร็จได้ ดังคำว่า
“ผู้ใหญ่ดึง ผู้น้อยดัน คนแสมอกัน คอยประคับประครอง”

3. ส่งเสบียงหลังบ้าน มีของฝากติดไม้ติดมือไปบ้าง ก็เป็นแรงในการผูกจิตผูกใจให้โอนอวยไปได้เช่นกัน

4. เชิญเปิดงานเป็นประธานบ่อย ๆ คล้าย ๆ กับเป็นการแสดงความภักดี หรือให้เกียรตินายเชิญไปเยี่ยมเยียน พบปะทานข้าว กินกาแฟตามโอกาสอันควร

5. คอยประจบสอพลอ ได้ครับท่าน ดีครับนาย สนองนโยบายไม่ให้ขาด

6. ล่อไข่แดง ยอมเอาตัวเข้าแลก ทั้งแรงกาย แรงใจ แม้จะเหนื่อยแสนเหนื่อย

7. แรงวิชา มีเส้นสายดี ผู้หลักผู้ใหญ่คอยสนับสนุน เชิญเป็นคณะทำงานจะได้เป็นที่รู้จักกันมากขึ้น

8. อาสาทุกเรื่อง การมีจิตอาสานายนี้แหละ น่าจะเป็นการกระทำเชิงบวก และจะทำให้หน้าที่การงานเจริญก้าวหน้าเร็วไว ไม่ต้องรอสั่งการ ต้องเสนอแนวคิดดี ๆ ให้นายเห็นวิสัยทัศน์ของเรา
ครับที่กล่าวมาเป็นทั่งแง่คิดเชิงบวกและเชิงลบ ต้องพิจารณาคัดเลือกเอาว่าอันไหนจะเหมาะกับเรา ถ้าอันไหนไม่ถูกจริต ก็ไม่ต้องเอา ทำเท่าที่เราชอบ และตรงจริตของเรา ก็คงจะประสบความเจริญก้าวหน้าได้เช่นกัน

ข้อคิดสำหรับผู้เป็นใหญ่ ผู้บังคับบัญชาคน มีดังนี้

เป็นผู้ใหญ่ ที่ดี ต้องมีหลัก มิใช่รัก หลงใหล คนใกล้ชิด

ต้องผูกมิตรคนในปกครองทุกคนต้องเมตตา มิใช่ว่า ใครนินทา สิ้นใยดี