วันนี้ (5 กุมภาพันธ์ 2559) ตอนเย็นท้องฟ้าไม่สดใส มีฝนตกแต่ไม่แรง กลับบ้านพักเมื่อตอนเกือบ 17.30 น. มองหานกทั้งแถวหน้าบ้าน ข้างบ้าน และหลังบ้าน ที่ต้นประดู่หลังบ้านต้นหนึ่ง เจอนกแขกเต้าประมาณ 10 กว่าตัว ถ่ายภาพทีละส่วน
ฝูงนกแขกเต้าที่ต้นประดู่ ทางด้านซ้าย
แสงยามเย็นวันนี้น้อยไปหน่อย ภาพเลยไม่ชัดมาก ภาพนี้ตัวบนเป็นนกตัวผู้ ตัวล่างเป็นตัวเมีย
สะดุดตานกตัวหนึ่งเพราะสีเขียวของเขาดูสดสว่างกว่าตัวอื่น มองดีๆ ก็เห็นว่าหัวของเขาดำ ต่างจากนกแขกเต้าตัวเมีย หางยาวและสีออกเหลือง พยายามถ่ายภาพหลายๆ มุม แต่ไม่นานฝนก็ตกแรงขึ้น ฝูงนกจึงบินจากไป
ฝูงนกที่ต้นประดู่ด้านขวา ตัวที่สองด้านบนจากขวาจะเห็นสีสดและอ่อนกว่าตัวอื่น
ซูมมากขึ้น จะเห็นสีต่างกัน
คราวนี้จะเห็นว่าหัวของเขามีสีเทาเข้ม คอมีสีดำ ปลายหางสีเหลืองๆ
เอารูปภาพมาค้นดูจากหนังสือ Thailand Bird Guide ของรุ่งโรจน์ จุกมงคล ซึ่ง ผศ.ดร.ปิยะพงค์ โชติพันธุ์ นักดูนก เอามาฝาก จึงรู้ว่าเขาคือนกกะลิง (Grey-headed Parakeet) ตัวนี้น่าจะเป็นตัวเมียเพราะตำราบอกว่าตัวผู้จะมีแถบสีแดงที่หัวไหล่
ได้รู้จักนกชนิดใหม่เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งชนิด
วัลลา ตันตโยทัย
บันทึกเมื่อวันที่ กุมภาพันธ์
ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมมาจาก ผศ.ดร.ปิยะพงค์ โชติพันธุ์ ว่าปกติไม่พบนกกะลิงในภาคใต้ สงสัยว่าเขาอาจจะเป็นนกหลุด (หลุดจากที่มีคนเลี้ยง) แต่คนใต้ก็ไม่นิยมเลี้ยงนกประเภทนี้
แค่คิดว่าเขาเป็นนกหลุดก็น่าสงสารมากแล้ว หวังว่าเขาจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับฝูงนกแขกเต้าได้
They look like 'an African parrot'.
They are definite a national asset to Thailand. We'd wish them good and prosperous life.
สวยมากเลยครับ ผมคิดว่า ม.วลัยลักษณ์นี่นานๆ ไปอาจจะกลายเป็นแหล่งอนุรักษ์ธรรมชาติเพราะพื้นที่รอบข้างกลายเป็นพื้นที่เกษตรไปหมดแล้วครับ
กำลังวางแผนรักษาธรรมชาติให้นกต่างๆ อยู่รอดปลอดภัยค่ะอาจารย์ธวัชชัย