พิธีถวายผ้าป่าสามัคคี

เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2559 ไ ด้เข้าร่วมพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งและถวายผ้าป่าสามัคคี แด่พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระอุดมประชาทร (หลวงพ่ออลงกต) วัดพระบาทน้ำพุ ตำบลสามร้อยยอด อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ณ ห้องพิพิธภัณฑ์ ชั้น 11 สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารรัชดาภิเษก

กิจกรรมดังกล่าว สำนักงานอัยการสูงสุด ได้จัดกิจกรรมมาเป็นประจำทุกปี จัดกิจกรรมปีละ 2 ครั้งโดยครั้งที่ 1 จะจัดกิจกรรมประมาณต้นเดือนมกราคม ของทุกปี เพื่อเป็นการทำบุญเนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ ส่วนกิจกรรมครั้งที่ 2 ได้จัดกิจกรรมก่อนเทศกาลเข้าพรรษา ซึ่งได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 เป็นนานกว่า 10 ปีแล้ว โดยมีคณะข้าราชการหลายฝ่ายที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในอาคารรัชดาภิเษกมาร่วมกันจัดกิจกรรมในครั้งนี้

ผู้เขียนได้มีโอกาสเข้ามาร่วมจัดกิจกรรมดังกล่าวตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 เป็นต้นมาทุกปีตั้งแต่ได้ย้ายเข้ามารับราชการในส่วนกลาง จะมีหน้าที่เป็นพิธีกร และประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย โดยมี นายยงยุทธ วีระพงศ์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานนโยบายยุทธศาสตร์และงบประมาณ เป็นผู้บทบาทในการขับเคลื่อนกิจกรรมดังกล่าว และมีคณะข้าราชการฝ่ายบริหารทั่วไปประจำอาคารรัชดาภิเษก เป็นเจ้าหน้าที่เป็นกำลังสำคัญ

ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ หลวงพ่ออลงกต จะบรรยายธรรมเกี่ยวกับหลักธรรมข้อคิด ข้อเตือนใจ และแนวทางในการดำรงชีวิต ให้กับข้าราชการจะได้นำไปเป็นข้อคิด ข้อปฏิบัติ เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ทุกปี

สำหรับการบรรยายธรรมในปีนี้ ท่านได้พูดถึงความยุติธรรม โดยท่านได้บรรยายธรรม ผู้เขียนสรุปได้เท่าที่จำได้ ดังนี้...ความยุติธรรม คือการยุติโดยธรรม ในสมัยโบราณ เมื่อมีกรณีเกิดข้อพิพาทขึ้น คู่กรณีก็จะไปหาพระ เพื่อให้เป็นผู้พิจารณาตัดสิน ซึ่งพระจะพิจารณาถึงผลกรรมในการกระทำต่าง ๆเพื่อให้คู่กรณีได้สำนึกผิด เมื่อยอมรับผิดก็จะมีการให้อภัยซึ่งกันและกัน ไม่จองเวรกัน พระจะไม่พิจารณาว่าใครผิดใครถูก จะพูดถึงความดีความชั่ว และผลของการกะทำดังกล่าว เมือพระตัดสินอย่างไรแล้ว คู่กรณีก็จะพอใจ เป็นที่ยุติ มีการขอโทษ และให้อภัยซึ่งกันและกัน ก็จะกลับมามีความรัก ความสามัคคีกันดั่งเดิม ไม่มีการมาฟ้องร้องกันอีก...แต่ปัจจุบัน เมื่อมีกรณีพิพาทเกิดขึ้น จะต้องนำมาสู่ศาล โดยศาลจะพิจารณาว่าใครผิดใครถูกตามกฎหมายจากพยานหลักฐานต่าง ๆ ดังนั้น คดีหลายคดีจึงไม่ยุติ มีการอุทธรณ์และ ฎีกา คู่กรณีอาจไม่ได้รับความยุติธรรมดังกล่าว..

การจัดกิจกรรมครั้งนี้ นอกจากจะมีการตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแล้ว ยังมีการถวายผ้าป่าสามัคคี โดยต้นผ้าป่าสามัคคี ที่ข้าราชการได้ร่วมกันทำบุญจากอาคารต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ในส่วนกลาง ได้แก่อาคารรัชดา อาคารหลักเมือง อาคารธนบุรี อาคารกรุงเทพใต้ และอาคารแจ้งวัฒนะ ในวันนี้ได้ยอดเงินจากการถวายผ้าป่า จำนวน 168,000.-บาท (หนึ่งแสนหกหมื่นแปดพันบาทถ้วน) และยังไม่รวมที่มีผู้มาถวายกับหลวงพ่ออลงกต โดยตรงอีกส่วนหนึ่ง

สำหรับภารกิจของวัดพระบาทน้ำพุ ปัจจุบันต้องรับผิดชอบประชากรของวัดจำนวนกว่า 2,000 คน มีทั้งผู้ติดเชื้อโรคเอดส์ในระยะสุดท้าย เด็กกำพร้า คนชรา ผู้สูงอายุ สำหรับเด็กกำพร้าปัจจุบัน หลวงพ่อได้ส่งเสริมให้มีการเรียนตั้งชั้นอนุบาล จนถึงมัธยมศึกปีที่ 6 มีเรียนระดับปริญญาตรี และปริญญาโทอีกด้วย นอกจากนี้ยังต้องเลี้ยงดูวัว ควายที่ผู้นำมาถวาย ฝูงลิง หมาและแมว ที่ผู้มาปล่อยที่วัดอีกด้วย

ส่วนประเด็นที่มีการส่งข้อความไปตามไลน์ต่าง ๆ ว่า..วัดพระบาทน้ำพุจะมีการปิดโครงการ เนื่องจากไม่มีเงินในการเสียค่าใช้จ่ายตามโครงการต่าง ๆ ของวัดนั่น หลวงพ่อชี้แจงว่า...วัดมีความมั่นคงดี ขณะมีการขยายสร้างตึกโรงพยาบาลขนาด 400 เตียง มีโครงการสร้างพุทธสถานลพบุรีศรีสุวรรณภูมิ เพื่อจำลองสร้างสังเวชนียสถานจากประเทศอินเดียเพื่อเป็นสถานปฏิบัติธรรม และหลวงพ่อก็จะดำเนินโครงการต่าง ๆ ต่อไป จนกว่าจะหมดลมหายใจ...เป็นคำยืนยันจากหลวงพ่ออลงกต

มีคณะข้าราชการมาเข้าร่วมพิธีและทำบุญจำนวนมาก