​กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของประชาชนชาวไทย น่าที่จะบูรณาการกับสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ ในการแนะนำการรับประทานอาหาร


กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของประชาชนชาวไทย น่าที่จะบูรณาการกับสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ ในการแนะนำการรับประทานอาหาร


รายงานล่าสุดของสำนักงานวิจัยมะเร็ง องค์การอนามัยโลก ระบุว่ามีหลักฐานชี้ชัดว่าเนื้อสัตว์แปรรูปอย่างไส้กรอก แฮม เบคอน มีสารก่อมะเร็งพอๆ กับบุหรี่ แอลกอฮอล์ แร่ใยหิน และสารหนู เพราะจากการวิจัยพบว่า อาหารเหล่านี้มีความเชื่อมโยงกับโรคมะเร็งลำไส้ ถ้ากินไส้กรอก เบคอน แฮมทุกวัน แม้วันละแค่ 50 กรัม จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้ถึง 18% ส่วนเนื้อแดงไม่ว่าจะเป็นเนื้อวัว เนื้อแกะหรือเนื้อหมู ก็ถูกจัดอันดับว่ามีสารก่อมะเร็ง ทำให้เป็นมะเร็งตับอ่อน และมะเร็งต่อมลูกหมากได้

ที่มา:http://www.tnamcot.com/content/316534

กระทรวงอาหารและเกษตรกรรมของเยอรมนีเมื่อวันอังคาร(27ต.ค.) แนะประชาชนไม่ควรกลัวที่จะรับประทานอาหารอย่างเช่นไส้กรอก แฮม และเบคอน แม้มีคำเตือนจากองค์การอนามัยโลกว่าเนื้อแปรรูปเหล่านี้มีผลต่อการเป็นมะเร็ง

ที่มา: http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000120169


กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของประชาชนชาวไทย น่าที่จะบูรณาการกับสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อออกคำแนะนำในการบริโภคอาหารทุกชนิด

ตามหัวข้อธรรมนี้
ธรรมเป็นส่วนสุดรอบคือ โภชเนมัตตัญญุตา เป็นไฉน? ภิกษุในธรรมวินัยนี้ พิจารณา

โดยอุบายอันแยบคายแล้ว ฉันอาหาร ไม่ฉันเพื่อเล่น ไม่ฉันเพื่อมัวเมา ไม่ฉันเพื่อประดับ

ไม่ฉันเพื่อตกแต่ง ฉันเพื่อความตั้งอยู่แห่งกายนี้

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๙ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๑ ขุททกนิกาย มหานิทเทส
ที่มา:http://www.84000.org/tipitaka/read/?29/929-933

และแนะนำให้บริโภคโดยการเคี้ยวละเอียด

การรับประทาน แบบพอเพียง

วิธีรับประทานให้ได้ประโยชน์ ไม่อ้วน และยังสามารถแบ่งปัน คือ การเคี้ยวอย่างละเอียด แบบพระกัมมัฏฐาน ฉันกำหนด เคี้ยวหนอ ๆ ให้ละเอียดก่อนจึงค่อยกลืน กลืนหนอ ๆ เป็นการรับประทานอย่างมีสติ

การเคี้ยวละเอียดจะทำให้พื้นที่หน้าตัดของอาหารมีมาก การย่อยโดยน้ำย่อยทำได้ดีขึ้น ปริมาณอาหารเพียงน้อยนิดก็ได้สารอาหารมากกว่า การรับประทาน ด้วยความรีบร้อน กากอาหารก็น้อย นอนหลับสบาย ร่างกายแข็งแรง หน้าตาผุดผ่อง ผิวพรรณแจ่มใส

เป็นเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ การฉันอาหารของพระผู้เจริญสติ (เจริญกัมมัฏฐาน) เมื่อขบฉันอย่างมีสติ ก็จะรู้ว่าอิ่มเมื่อใดทำให้เป็นผู้รู้จักประมาณในการบริโภคอาหาร, รู้จักประมาณในการกิน คือ กินเพื่อหล่อเลี้ยงร่างกายให้ชีวิตเป็นอยู่ได้ผาสุก มิใช่เพื่อสนุกสนานมัวเมา (โภชเน มัตตัญญุตา) รู้พอเพียง

หากประชาชน คนในโลกนี้ รับประทานอย่างมีสติ เคี้ยวละเอียด คาดว่าการบริโภคอาหารในโลกนี้จะลดลง ไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของปริมาณที่บริโภคอยู่เดิม ทำให้มนุษย์ชาติ มีความมั่นคงทางอาหาร

ในทางสาธารณสุข ก็จะลดปัญหาโรคอ้วน ลดปัญหาสิวผ้า ไม่ต้องใช้เครื่องสำอางเยอะ นอนหลับสบาย สุขภาพกายดี สุขภาพจิตก็ดีไปด้วย

ในการปฏิบัติ กัมมัฏฐาน (เจริญสติ) ก็จะลด ถีนมิทธะ (ความขี้เกียจ ท้อแท้ อ่อนแอ หมดอาลัย ไร้กำลังทั้งกายใจ ไม่ฮึกเหิม) ความง่วงนอนเนื่องจากการบริโภคเกินพอเพียง ได้เป็นอย่างดี

..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/590471

พีระพงศ์ วาระเสน (Bobbie)
ผู้รวบรวม
29 ตุลาคม 2558




หมายเลขบันทึก: 596821เขียนเมื่อ 29 ตุลาคม 2015 09:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 ตุลาคม 2015 09:35 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

-สวัสดีครับ

-ตามมาอ่านบันทึกการปรับทัศนคติในการการรับประทานอาหารด้วยการมีสติ

-ขอบคุณครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท