เท่าที่จำความได้ 5 : ลอกปอ


ท่านผู้อ่านคงจะสงสัยว่าผู้เขียนไปรื้อฟื้นความทรงจำเก่าๆมาเขียนเพื่ออะไร ทำไมไม่อยู่กับปัจจุบัน เรื่องมันผ่านไปก็ควรให้ผ่านเลยไปอย่าเก็บเอามาคิดให้เกิดความทุกข์ อย่างที่พระท่านสอนเอาไว้ แต่ที่ผู้เขียนนำมาบันทึกไว้ก็เพื่อย้อนรอยอดีตเท่าที่จำความได้ตามแต่จะนึกย้อนไปได้นานแค่ไหน ตั้งแต่เด็กจนจวบถึงปัจจุบัน

มันก็เป็นเพียงบันทึกในเสี้ยวๆหนึ่งของชัวิตเท่านั้นเอง ตามบริบทที่แตกต่างกันไป ...เท่าที่จำความได้...ตามชื่อบันทึกนั่นล่ะครับ และมันไม่ได้ก่อให้เกิดความทุกข์แต่อย่างใด

บันทึกนี้จึงเป็นอีกหนึ่งความทรงจำที่พอจะนึกได้ในอาชีพรับจ้างแรกๆที่ผู้เขียนหาเงินได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง นั่นคือ อาชีพ...ลอกปอ...นั่นเอง

....ภาพคนนั่งลอกปอ....ขอบคุณภาพประกอบจากGoogle

ปอแก้วปอกระเจา เมื่อสมัยกว่า40-50 ปีที่แล้วครอบครัวของผู้เขียนและชาวบ้านต่างปลูกกันเป็นล่พเป็นสัน เข้าใจว่าเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดหนึ่งในสมัยนั้น ซึ่งปัจจุบันไม่แน่ใจว่ามีพื้นที่ไหนของประเทศไทยที่ยังปลูกปออยู่

รับจ้างลอกปอ จึงเป็นอาชีพที่ผู้เขียนพูดได้เต็มปากว่า หาเงินด้วยลำแข้งที่เหยียบเชือกปอที่ลอกออกจากลำปอ และด้วยสองมือที่ใช้เล็บจิกเปลือกปอที่แช่น้ำมาหลายวันจนยุ่ยแล้วดึงลอกออกอย่างง่ายบ้างยากบ้างตามแต่ละต้นของปอ ท่ามกลางกลิ่นอันเหม็นเน่าของปอที่แช่น้ำมาหลายวัน จนเปลือกยุ่ย จนใบเน่า และมีตัวหนอนแมลงเกาะอยู่ยั่วเยี้ยะทั้งตายไปแล้วทั้งยังไต่อยู่ก็มี

รับจ้างลอกปอเมื่อก่อนถ้าจำไม่ผิดจะได้ราคามัดละ 50 สตางค์ หรือ 1 บาทแล้วแต่ขนาดมัดเล็กใหญ่ วันหนึ่งก็ได้หลายมัดอยู่ คนจ้างก็ญาติๆกันนั้นล่ะ บางครั้งจ่ายทีเดียวหลังลอกปอทั้งหมด หลายวันรวมๆกันก็ได้หลายสิบบาทเลยทีเดียว

กรรมวิธีต่อจากการลอกปอต่อไปจะเป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่เสียส่วนมาก เช่นนำเส้นปอที่ลอกไปมัดรวมแช่น้ำอีกที พอได้เวลาก็นำมาตีกับน้ำให้เปลือกหลุดจนขาวสะอาด แล้วนำไปตากแห้งจนได้ที่ก็นำมารวมเป็นมัดก้อนโตๆ(ถ้าจำไม่ผิดทางอีสานเรียกโค่นปอ) ซึ่งเด็กๆอย่างผู้เขียนจะสนุกสนานมากในการกระโดโลดเต้นหยอกล้อ ซ่อนหากันกับเพื่อนจนมืดจนค่ำจนแม่เรียกไปกินข้าวเย็นโน่นล่ะถึงเลิกเล่น

ฤดูกาลแห่งอาชีพนี้ส่วนมากจะเป็นหน้าหนาว ดังนั้นคนที่เดินลงน้ำไปตีปอฟาดปอให้ขาวสะอาดนั้นต้องอดทนจริงๆ ผู้เขียนเองเห็นพ่อเห็นญาติๆทำกันแล้วอดหนาวแทนไม่ไหว ต้องคอยก่อไฟรอท่าหลังพวกเขาทนความเย็นของน้ำไม่ไหวก็จะขึ้นมานั่งผิงไฟบนบก บางครั้งก็ได้กบได้เขียดมาปิ้งย่างให้กินอีกต่างหาก

ภาพปอที่มัดเป็นก้อนพร้อมนำไปขาย...ภาพประกอบจากGoogle

เท่าที่จำความได้...หากย้อนไปนึกคิดถึง มันก็หลั่งไหลมาให้เก็บภาพความหลังวันวานได้ไม่ขาดสายเลยจริงๆ

พบกันใหม่บันทึกหน้าครับ

......................

24 กันยายน 2558

พ.แจ่มจำรัส


หมายเลขบันทึก: 595274เขียนเมื่อ 24 กันยายน 2015 19:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 ธันวาคม 2017 09:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

เท่าที่จำได้ น้ำลอกปอ เหม็นมาก ๆ นะครับ แถวบ้านปลูกกันเยอะ ๆ สมัยเด็ก ๆ ตอนนี้แทบไม่เห็นเลยครับ....ประสบการณ์น่าสนใจมากครับ เป็นประวัติศาสตร์ของเมืองไทย ก่อนยุคอ้อยจะครองแผ่นดินครับ

ทิมดาบ

ขอบคุณครับ อืม....นะ ยุคอ้อยครองเมืองครองแผ่นดินน่าจะจริง

...มีเวลาได้คิดถึงอะไร?บ้างอย่าง...มีความสุขนะคะ

Pojana Yeamnaiyana Ed.D.

ขอบคุณครับ อ.พจนา

เป็นความพยายามจะบันทึกเรื่องราวของชีวิต...เท่าที่จำความได้.....

ผลิตภัณฑ์จากปอนี่มีอะไรบ้างคะคุณพิชัย

เสียดายนะคะ..(ต้นปอ..อาชีพ).หายไปกับวันเวลา..

เป็นความรู้ที่ดี น่าสนใจมาก ๆ

ปัจจุบันคงหาดูได้ยากแล้วนะจ๊ะ

ขอบคุณมาก ๆ ที่นำมาแบ่งปันกันจ้าา

ตอบคุณหมอ

nui

ผลิตภัฑ์จากปอเท่าที่รู้ที่เห็นก็มี กระสอบข้าว ที่ใช้ในโรงสีครับ แต่เข้าใจว่าน่าจะประยุกต์ใช้แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อย่างอื่นได้หลายอย่างครับ



ทึ่งมาก

ตอนนี้เข้าใจว่าไม่ค่อยมีคนทำแล้วนะครับ

ขอบคุณมากครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท