​"สติ" คือ "ยาดำ" ในทุกมิติของการดำเนินชีวิต


"สติ" คือ "ยาดำ" ในทุกมิติของการดำเนินชีวิต

********************************
ในสังคมพุทธทั่วไป แม้จะถือว่า "สติ" มีความสำคัญมาก แต่ชาวพุทธทั่วไป กลับไม่ค่อยให้ความสำคัญในการเจริญ "สติ" กันมากนัก

และส่วนใหญ่ที่อ้างว่า.......ไป "ปฏิบัติธรรมกัน" ั่นั้น เท่าที่เคยได้ยินมา กลับไปให้ความสำคัญกับ "การทำสมาธิ" แบบ นั่งหลับตา ทำจิตสงบนิ่งๆ อยู่เฉยๆ แบบที่ท่านพุทธทาสเรียกว่า "สมาธิหัวตอ"

ทั้งๆที่ แก่นแท้ของเจตนาของการทำสมาธินั้น ก็เพื่อนำทางให้เกิด "สติ" ในชีวิตจริงๆ เดินได้ ทำงานได้ ใช้ชีวิต "อย่างมีสติ" อยู่ในสังคมโลกได้ เป็นสำคัญ......

ทั้งนี้....เพราะการ "ขาดสติ" จะทำให้เกิดปัญหา ทั้งกับตัวเองและผู้อื่น ตามมาอย่างมากมาย ที่เห็นเป็นประจำวัน

เพราะ ความสำคัญของการมี "สติ" นั้นมากมายจริงๆ และน่าจะเป็นที่มาของคำว่า "สติปัญญา"

และ.....ถ้าบังเอิญ มี ปัญญา ที่ขาดสติ ก็น่าจะเป็นสิ่งที่มีศักยภาพ ของการเกิด อันตรายมากๆ อาจจะทำความเสียหาย ได้อย่างมากมาย กับทั้งตัวเองและผู้อื่น

ดังนั้น การ "เจริญสติ" ให้มั่นคง ชัดเจน ไว้ ....
จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ที่ต้องเกิดขึ้นตลอดเวลาของการมีชีวิต

ทั้งก่อน ระหว่าง และ หลัง การมี "ปัญญา"
เพราะ "ปัญญาที่ดี" (อโมหะ) และมีประโยชน์ ย่อมมาจาก "สัมมาสติ" ที่สูง และชัดเจนมากขึ้นๆๆๆๆๆ อย่างสอดคล้องกัน โดยลำดับ

แต่การจะมีสัมมาสติได้ ต้องอาศัยการ "ภาวนา" พิจารณา ไต่ตรอง ด้วยการลด ละ เลิก "นิวรณ์ 5" (กามฉันทะ พยาบาท หดหู่ ฟุ้งซ่าน และ ลังเล) ที่ทำให้จิตใจเศร้าหมอง ให้เหลือน้อยที่สุด หรือหมดไปได้ก็จะถือว่า ดีที่สุด

เมื่อ สามารถลด นิวรณ์ 5 ลงไปได้บ้างแล้ว ความเห็นที่ถูกต้อง (สัมมาทิฏฐิ) ก็จะยกระดับขึ้นไปได้โดยลำดับ ที่สามารถไปหนุนช่วยยกระดับของ "สติ" ให้ได้สูงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงระดับที่สามารถใช้เป็นหน้าด่าน "ฐานที่มั่นแรกสุด" ของ โพชฌงค์ 7 (อันประกอบด้วย สติ ธัมมวิจยะ วิริยะ ปิติ ปัสสธิ สมาธิ อุเบกขา)

ซึ่งมีระดับความชัดเจน และลึกซึ้งแตกต่างกันอย่างหลากหลายมากๆ ขึ้นไปเรื่อยๆ ที่เป็นระดับความสามารถของพระอริยะเจ้า

แต่....
ในระดับปุถุชนอย่างเราๆ ก็คงจะพอปฏิบัติได้ในระดับผิวเผิน หรือตื้นๆเท่านั้น

แต่แม้จะตื้นๆอย่างไร ก็ยังคงต้องมี "สติ" ไว้เสมอ

แล้วผลของความ "ตั้งใจ" ทำงานและใช้ชีวิต ก็จะเกิดผลดี อย่างต่อเนื่อง ทั้งกับตนเอง และผู้อื่น

ก็เนื่องจากมี "สติ" เป็นยาดำ ในทุกเรื่องของชีวิตนั่นเอง

ผมเรียนมา ศึกษามาอย่างนี้ และพยายามปฏิบัติอยู่ในแนวนี้ครับ

หมายเลขบันทึก: 595047เขียนเมื่อ 19 กันยายน 2015 09:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 กันยายน 2015 09:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

อาจารย์ทำให้รู้สึกว่าตัวเองมาถูกทางนะคะ ยังไม่ค่อยเข้าถึงการนั่งสมาธิ เพราะรู้สึกว่าตัวเราคงได้แค่ สมาธิหัวตอ จริงๆ แต่พยายามฝึกตัวเองให้อยู่กับปัจจุบันในทุกๆสิ่งที่ทำ เวลาทำอะไรจะตั้งสติ จอจ่อทำจริงๆอยู่กับสิ่งที่ทำเสมอ รู้สึกว่าเราจะไม่เบื่อ ไม่เหนื่อยและทำสิ่างที่ต้องทำได้สำเร็จ รู้สึกว่าคำสอนในศาสนาพุทธเป็นสิ่งที่ต้องพิสูจน์ด้วยการทำมาปฏิบัติจริงๆ ไม่ใช่แค่การสวด การท่อง การอ่านเท่านั้น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท