งานเกษตรในโรงเรียน เปลี่ยนความคิด เพิ่มพูนทักษะชีวิตกันดีไหม...


แปลงผักปลอดสารพิษที่โรงเรียน..จะมีประเภทของพืชผักที่หลากหลาย ไปตามฤดูกาลและช่วงเวลาของปีการศึกษา จะต้องมีความสมเหตุสมผล สอดคล้องกับช่วงเวลา ซึ่งก่อนปลูกจะต้องพูดคุยอภิปรายกันก่อน นั่นหมายถึงว่า นักเรียนจะต้องมีส่วนร่วมตั้งแต่ขั้นตอนแรก และวางแผนเกี่ยวกับปุ๋ยบำรุงดินด้วย

ความคิดเดิมๆของครูและผู้บริหารบางท่าน..ยังมีอยู่ เกี่ยวกับการเรียนการสอน วิชาการงานพื้นฐานอาชีพ..ที่ว่าด้วยงานเกษตร ที่ปรากฏเนื้อหาและกิจกรรม..ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ และจะเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เมื่อก้าวเข้าสู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ – ๖

คือ..คิดว่า..ครูคนไหนก็สอนงานเกษตรได้ ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชาย สูงวัย..ยิ่งดี เพราะงานเกษตรสอนง่าย สบาย ก็แค่..ถากหญ้า ขุดดิน ปลูกผักและรดน้ำต้นไม้ ..งานมีแค่นี้เท่านั้น ไม่ต้องอะไรมากมาย

หลายท่านก็คงได้ยินมาเหมือนกัน ซึ่งจะคิดอย่างไรนั้น ก็แล้วแต่มุมมองและประสบการณ์ว่า..มองงานเกษตรในโรงเรียน ในแง่มุมใด..ถ้ามองไปถึงหลักสูตร ก็จะไม่เห็นด้วย ที่ว่ามีแค่ถากหญ้า ขุดดิน หรือจะมองในมุมของกิจกรรมตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ยิ่งพบความหลากหลาย ที่นักเรียนแต่ละช่วงวัย จะต้องแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสัมผัสกิจกรรมอย่างมีกระบวนการและมีผลงานเชิงประจักษ์ ไม่ใช่สอนกันแบบมักง่ายไปวันๆ

ด้วยเหตุนี้นี่เอง ผู้เขียนซึ่งเป็นผู้หญิง และมีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน จึงขออาสาเข้าไปสอน เข้าไปมีส่วนร่วมรับผิดชอบการเรียนการสอนงานเกษตร ในทุกระดับชั้น..ด้วยไม่อยากเห็นการปลูกฝังทักษะพื้นฐานงานเกษตรให้เด็กไปในลักษณะที่ผิดๆ และก็มีความจำเป็นอยู่มิใช่น้อยของโรงเรียนขนาดเล็ก ที่บุคลากรมีไม่เพียงพอ ..ผู้บริหารจึงต้องลงไปร่วมด้วยช่วยกัน

งานเกษตร..ที่โรงเรียน..ก่อนอื่นต้องเป็นระบบ ตั้งแต่ระบบแปลงเกษตร ระบบน้ำและระบบการจัดเก็บวัสดุอุปกรณ์ ตลอดจนระบบบริหารจัดการ..ที่จะต้องเตรียมหลักสูตร แผนการเรียนรู้ วิเคราะห์กิจกรรมและประเมินผล

ระบบบริหารจัดการ นับว่าสำคัญมาก ครอบคลุมภาระงานทั้งหมด และช่วยให้การจัดกิจกรรมดำเนินไปได้อย่างราบรื่น มีขั้นตอนที่ชัดเจน เป็นบ่อเกิดของผลผลิตที่ต่อเนื่องและยั่งยืน อีกทั้งการบริหารจัดการ จะช่วยให้..ระแบบแปลงเกษตรมีประสิทธิภาพ ระบบน้ำพอเพียง ..วัสดุอุปกรณ์เพียงพอและจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

ผู้เขียน..จัดเตรียมแปลงให้นักเรียนทุกชั้นอย่างเพียบพร้อม ขนาดกว้างยาวได้มาตรฐาน ส่วนดินในแปลงนักเรียนจะต้องเตรียมเอง แต่กว่าจะจัดเตรียมได้ ผู้เขียนจะให้นักเรียนสังเกตและศึกษาสภาพของดินว่าเป็นกรดเป็นด่างอย่างไร เป็นดินเปรี้ยวหรือไม่ ซึ่งมีวิธีสังเกต ต่อเมื่อทราบแล้วว่าสภาพดินเป็นอย่างไร ก็ต้องมาดูความเหมาะสมกับพืชผักที่จะปลูกมากน้อยแค่ไหน ถ้าไม่เหมาะสมก็ต้องปรับสภาพดินก่อน

ส่วนใหญ่นักเรียนจะเตรียมดินก่อนทุกครั้ง เพราะก่อนหน้านั้น ได้มีการเพาะปลูกมาแล้ว สภาพดินย่อมเสื่อมโทรมลงไป วิธีง่ายๆ ที่ผู้เขียนแนะนำก็คือ ขุดดิน พรวนดิน คลุกเคล้าด้วยมูลวัว บางครั้งก็ต้องโรยปูนขาว และตากดินไว้อย่างน้อย ๒ สัปดาห์ ก่อนลงมือปลูก

ในส่วนนี้..นักเรียนจะมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสภาพดิน มีทักษะในการสังเกตและเตรียมดิน มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพืชผักแต่ละอย่าง ว่ามีความสอดคล้องเหมาะสมกับสภาพดินของโรงเรียนอย่างไร

เมื่อนักเรียนได้ลงมือปลูกผักแล้ว..นักเรียนแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นงานเดี่ยวหรืองานกลุ่ม ผู้เขียนจะฝึกให้สังเกตและบันทึกการงอกของเมล็ดพันธุ์ เพื่อให้นักเรียนคุ้นชินกับสภาพการงอกของเมล็ด สามารถวางแผนการดูแลใส่ปุ๋ย และทราบสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นจากการปลูกหรือเพาะเมล็ด ตลอดจนทราบความสมบูรณ์และความแตกต่างของเมล็ดพันธุ์ได้

แปลงผักปลอดสารพิษที่โรงเรียน..จะมีประเภทของพืชผักที่หลากหลาย ไปตามฤดูกาลและช่วงเวลาของปีการศึกษา จะต้องมีความสมเหตุสมผล สอดคล้องกับช่วงเวลา ซึ่งก่อนปลูกจะต้องพูดคุยอภิปรายกันก่อน นั่นหมายถึงว่า นักเรียนจะต้องมีส่วนร่วมตั้งแต่ขั้นตอนแรก และวางแผนเกี่ยวกับปุ๋ยบำรุงดินด้วย

ส่วนใหญ่..จะใช้มูลวัว ซึ่งนักเรียนจะช่วยกันจัดหา ขณะเดียวกัน ก็ต้องใช้น้ำหมักชีวภาพ โดยนักเรียนจะเป็นผู้ดำเนินการจัดทำเอง แบบง่ายๆในลักษณะของการขยายหัวเชื้อ เพื่อให้มีน้ำหมักชีวภาพใช้ได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจัดทำฮอร์โมนนมสำหรับเร่งดอกและบำรุงใบพืชผัก กระบวนการจัดทำปุ๋ยชีวภาพเหล่านี้ นักเรียนต้องเรียนรู้และลงมือปฏิบัติจริงด้วยตนเอง

งานเกษตรในโรงเรียน ถ้าจะพูดเพียงแค่ปลูกผักปลอดสารพิษอย่างเดียว ก็สามารถจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้ครอบคลุมมาตรฐานและตัวชี้วัดได้ทั้งหมด นักเรียนเรียนรู้ด้วยการปฏิบัติจริง ด้วยความสนใจ และจะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด พืชผักบางอย่างต้องมีการคลุมดินเพื่อสร้างความชุ่มชื้น บางชนิดต้องใช้น้ำมากเป็นพิเศษ บางอย่างต้องใช้สมุนไพรฆ่าแมลง และบางชนิดจะต้องทำนั่งร้านไว้สำหรับเลื้อยพันขึ้นไป

เมื่อผลผลิตในแปลงผักได้เวลาเก็บเกี่ยว..นักเรียนก็จะต้องช่วยกันวางแผน จะเก็บอย่างไร เวลาใดและจะจำหน่ายที่ไหน กำหนดตลาดและราคา บรรจุภัณฑ์ต้องพร้อม และต้องบันทึกบัญชีรายรับ รายจ่าย ต้นทุน ผลผลิต เพื่อเป็นข้อมูลกำไรขาดทุน ซึ่งถือว่าเป็นการบูรณาการการเรียนรู้เป็นอย่างดี

นี่คือ..ทักษะการเรียนรู้แบบสะสม เป็นพื้นฐานสำคัญ ที่ส่งผลไปถึงทักษะชีวิตขั้นพื้นฐาน สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน คิดเป็น ทำเป็น พึ่งตนเองได้..ไม่ก่อปัญหาให้ชีวิตตนเอง ครอบครัวและสังคม อันเกิดจากการทำงานในแปลงเกษตรร่วมกัน ฝึกความเสียสละ จิตอาสาและความรับผิดชอบ ปลูกฝังความรักสามัคคีและเป็นบันไดไปสู่ทักษะอาชีพได้อนาคตอย่างงดงาม

สิ่งที่ผู้เขียนภูมิใจที่สุดในงานเกษตรของโรงเรียน..ก็คือการบ่มเพาะผู้เรียน ให้เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนากิจกรรมเกษตร ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เรียนรู้และปฏิบัติอย่างลึกซึ้งถึงความพอประมาณ ปฏิบัติงานด้วยเหตุและผล ทำทำไม และทำอย่างไร ที่สุดแล้วก็สามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้ตนเอง มีทักษะชีวิตและอาชีพติดตัว..มีความอดทนอดกลั้น รู้จักรอคอย และสามารถเรียนรู้สู้สิ่งยากๆได้..และนี่คือ..งานเกษตรในโรงเรียน..ที่ครูบางคนอาจต้องปรับเปลี่ยนความคิด..เพื่อเพิ่มพูนทักษะชีวิตของตัวครูเองและนักเรียน..ที่รอคอยการปรับวิธีเรียน เปลี่ยนวิธีสอนของครู









หมายเลขบันทึก: 593637เขียนเมื่อ 18 สิงหาคม 2015 18:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 สิงหาคม 2015 18:51 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

มาให้กำลังใจครับ...เดี๋ยวจะติดตามอ่านทีหลังนะครับ..วันนี้ได้เวลาปิดร้านแล้วววว


อยากให้ครูทุกโรงเรียน ที่รับผิดชอบสอนงานเกษตรได้อ่านอย่างไตร่ตรอง แล้วนำไปประยุกต์ใช้จังเลยค่ะ ...อ่านทุกประโยคด้วยความชื่นชมในหลักคิดและวิธีปฏิบัติของท่าน ผอ. ซึ่งกล่าวทิ้งท้ายได้อย่างดีเยี่ยมเลยค่ะ


มีดอกไม้และแมลงมาฝาก ผอ.หญิงเหล็ก..เจ้าค่ะ..สบายดี นะเจ้าคะ...

"อย่าลืม..สอนเด็กๆว่า..การกอบโกยหาผลประโยชน์..กับ ธาตุสี่..ดินน้ำลมไฟ" แต่อย่างเดียว..สุดท้ายคือ โทษมหันต์ดังที่เป็นอยู่ทุกวันนี้...นะเจ้าคะ...ที่สุดคือภัยมาถึงตัว..แบบคิดไม่ถึง เจ้าค่ะ..(เด็กสมัยนี้..คงหัวเราะกลิ้ง..อิอิ..หากได้ยินสิ่งนี้..จากปาก คนแก่ ที่เกิด ยุคต้นๆสมัยใหม่..5555...คิดถึงเจ้าค่ะ ยายธี)...

ขอบคุณ และคุณ phattaranan มากๆ นะคะและถูกใจมากๆ สำหรับ กรอบรูป และข้อความของคุณไอดิน เยี่ยมสุดๆ ค่ะ


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท