ทฤษฎี และวิธีการ
อย่างไรก็ตาม สเกลที่ใช้วัดมุมองของผู้ตอบในเรื่องเศรษฐกิจนั้นไม่เพียงพอต่อการอธิบายเรื่องการผันแปรของกลุ่ม 2 กลุ่มได้ เราจึงเสนอแกนตั้งอีกแกนหนึ่ง
แกนตั้ง: เสรีนิยม-ชุมชนนิยม
ชุมชนนิยมเริ่มต้นจากความเชื่อที่ว่า ความเป็นสุขสบายของชุมชนใดชุมชนหนึ่งต้องมาก่อนความสุขสบายของปัจเจกชน ชุมชนนิยมซ้าย จะมีลักษณะคล้ายๆแม่กับความเท่าเทียม ต้องการการกระจายรายได้จากคนรวยไปสู่คนจน และมีแนวโน้มที่จะอุปถัมภ์ผู้กระทำผิด ในทางตรงกันข้าม ชุมชนนิยมขวา มีแนวโน้มที่จะชอบการเมืองแบบพ่อเป็นใหญ่ ชอบแบบสังคมที่แบ่งชนชั้น และเกลียดอาชญากร และในด้านการป้องกันประเทศจากภายนอกนั้นนิยมกองทัพที่มีความเข็มแข็งมากกว่าการประนีประนอม
เสรีนิยมเริ่มต้นจากความเชื่อที่ว่า การให้อิสรภาพแก่ปัจเจกบุคคล มีความสำเป็นยิ่งกว่าคนยากของสังคม เสรีนิยมซ้ายมีแนวโน้มที่จะโต้เถียงว่าปัจเจกบุคคลไม่สามารถที่จะสร้างอิสรภาพส่วนบุคคลของตนเองได้ ถ้าไม่มีระดับการศึกษาและความสบายทางวัตถุ ในมุมมองนี้ การกระจายรายได้ที่จำเป็นจากคนรวยไปสู่คนจนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ในทางตรงกันข้าม เสรีนิยมขวา มีแนวโน้มที่จะเก็บภาษีปัจเจกบุคคล เพื่อที่จะให้สวัสดิการแก่สังคม พวกเขาอาจสนับสนุนการกุศล และการช่วยเหลือแก่คนยากจน แต่พวกเขาจะบริจาคโดยความสมัครใจมากกว่าการบังคับ
ในทฤษฎี ชุมชนนิยมและเสรีนิยม จริงๆแล้วควรจะอยู่ในซ้าย-ขวา แต่ในการปฏิบัติ ชุมชนนิยมซ้ายและขวา มีแนวโน้มที่จะเป็นศัตรูกันมากกว่ามิตร ในขณะที่เสรีนิยมซ้าย-ขวามีแนวโน้มที่จะมองอีกฝ่ายว่าเป็นสิ่งหลงผิด
ดังนั้นในขณะที่แกนซ้าย-ขวาเป็นสิ่งที่อาจพูดได้ว่าล้าสมัย แต่มันก็ยังคงสเกลที่สำคัญที่สุดในการเมืองแบบยุโรปและอเมริกัน
แปลและเรียบเรียงมาจาก
ไม่มีความเห็น