(บันทึก)..คนไทย..ในต่างแดน..(ประสพการณ์..ของยายธี..๓..)..ในแกลลอลี่ชีวิตวันนี้..


ข่าวที่ปรากฏบนหน้าหนังสือพิมพ์ Hammburger Abendวันที่13 Juni 2015 .เพื่อนเยอรมันเก็บมาให้อ่าน..

Alsterhaus เป็นศูนย์การค้าเก่าแก่มีชื่อย่านหรูของเมืองฮัมบอรก.(..คนไทยซื้อ...ศูนย์การค้านี้....)

ท้าวความว่า...สังคม เศรษฐกิจ..การเมือง..วัฒนธรรม ความเป็นอยู่..มีความสัมพันธ์กันอย่างแนบแน่นและไม่เลือกชาติศาสนา ชนชั้น..หากเปรียบเทียบ.จะได้ภาพชัดเจนเช่นการทำงานของมดปลวกผึ้ง..

"ยายธี"..เกิดในครอบครัวที่มีแม่แข็งแรงเป็นสาวสมัยใหม่ในสายตาของยายธีมากๆคงมีน้อยมากในสมัยนั้นที่เป็นอย่างแม่..แม่ทำงานเลี้ยงตัวและลูกๆ..แต่ยายธี ได้รับเงินค่าเรียนค่ากินจากพ่อคนเดียว..อีกสามคนแม่เลี้ยง....กล่าวถึงแม่เล็กน้อย..แม่หยุดงานในร้านดัดผมวันพุทธและใช้เวลาเป็นส่วนตัว..เช่นไปทำงานกับกาชาด..จนได้เข็มพระราชทานจากสมเด็จพระราชินี..เป็นต้น..ไปเรียนทำอาหารแปลกๆจำได้ว่าได้กินแยมโรลเป็นต้นจากฝีมือแม่..ยายธีคงได้รับถ่ายทอดมาไม่มากก็น้อย...

"ยายธี"จบปริญญาตรีแผนกมัณฑณะศิลป รุ่นแรกที่เริ่มมีการก่อตั้งสภามหาวิทยาลัยสมัยนั้น..ทำงานอยู่สามปี..กับแฟนที่เป็นสถาปนิค.(.เราได้รับการเกื้อกูลสนับสนุนให้งานที่ทำกันหามรู่งหามค่ำนอกเวลาที่ทำงานอยู่กับบริษัทจาก ท่านผู้หญิง อุไร ลืออำรุงซึ่งสมัยนั้นดำรงตำแหน่งช่างเสื้อของสมเด็จท่าน..ซึ่งแน่นอนคงจะต้องผ่านบุคคลสำคัญอีกผู้หนึ่งที่จะต้องกล่าวไว้ในที่นี้ "ป้าวิ"..เธอเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเรียนมัณฑนะศิลปมาด้วยกัน..เธอเป็นคู่อุปถัมถ์ค้ำจุนชีวิต..(ยายธี)...คนหนึ่งที่จนบัดนี้..ยังหาคำตอบไม่ได้ว่าอะไรที่ทำให้เรา มีความสำพันธ์กันมาได้จนขนาดนี้...)เราสามารถเก็บเงินก้นกระเป๋าเพื่อเดินทางผจญภัย ออก นอกกะลาที่ครอบอยู่สมัยนั้น..ด้วย..ความอยากรู้อยากเห็น..เรียนรู้ ด้วยตัวเอง...

อยากจะทิ้งท้ายว่า..เงินที่เราเก็บสามปี..นั้น..ประมาณแสนบาท..อัตราแลกเปลี่ยน..ขึ้นลงอยู่ที่5-7บาทต่อdm

เงินจำนวนนี้.ใช้ได้ ประมาณสามเดือนเวลานั้น..เราสองคนเข้าเรียนภาษาที่สถาบันภาษาเกอเต้เมือง บริโลน...สอบภาษาเสร็จ นั้นหมายความว่า...เราจะทำอบ่างไร ต่อไป.(.เงินหมด...)..

หมายเลขบันทึก: 591599เขียนเมื่อ 24 มิถุนายน 2015 16:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน 2015 16:54 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

เยี่ยมจริง ยายธีเล่าเก่งมากๆ ชอบมากๆ ... มีลูกหยอด(ไม่นับฝอยทอง ลูกชุบและทองหยิบ555) ทำให้เห็นภาพ และยังมีหลักฐาน รูปถ่าย....หนังสือพิมพ์.....เยี่ยมจริงๆ ค่ะ อ่านแล้ว มองเห็น คุณยาย(คุณแม่ยายธี) เป็นผู้หญิงเก่งนะคะ ยายธีก็ได้เห็น "บุคคลตัวอย่าง" จากคุณยายนี้เองค่ะ ชื่นชมหญิงไทย .... ทั้งยายธี & ยายวิ มีความกล้าหาญ + ชาญชัย ค่ะ

รออ่าน ตอนต่อไป เขียนเร็วๆๆ นะคะ

ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะ..ดร.เปิ้ล..สบายดีนะเจ้าคะ..ขอบพระคุณที่มาหยอด ทองหยอดหวานๆเหมือนน้ำตาลเมืองเพชรไว้ให้กำลังใจกันเจ้าค่ะ..จะพยายามเจ้าค่ะ..เพราะเป็นการสร้างสมาธิได้ระดับหนึ่ง..(การเขียน..การเรียบเรียงความคิด..นะเจ้าคะ..

สวัสดี ยายธี

ตอนนี้ ลุง วอ ถือศิลอด งดกิจกรรม ปฏิบัติศาสนกิจอย่างเคร่งครัด

ตกกลางคืนก็มาตามรอยยายธี.ในต่างแดน

…..

It definitely takes a lot of guts to go to foreign land to learn new language and way of life. In Aus today, there are many young Thais are doing just that without proper visa. Many are also exploited by employment sharks who put them to work like slaves but pay them little (much less than the 'standard rate' of about AUD17/hr or ~500 Baht/hr).

I wonder if the situation in Germany would be better for Thais and Africana and ... who found their way in. Perhaps the world is much more cruel today.

สวัสดีค่ะ คุณ sr.ตามกฏหมายในเยอรมัน..คนไทยไม่มีสิทธิในการ..ทำงาน..(เพราะไม่มีสัญญาระหว่าง ประเทศ)นอกจากจะอนุญาติในกรณีพิเศษ..หรือฐานะผู้เชี่ยวชาญหรือกรณีอื่นๆที่กฏหมายวางไว้..เป็นต้นว่า..ในสถาบันการศึกษา..ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน..ในมหาวิทยาลัย..นักศึกษา..สามารถทำงานได้เสียภาษีถูกต้องตามกฏหมาย...เพราะมหาวิทยาลัยที่นี่มีสมาคมจัดหางานให้นักศึกษาในเวลาปิดเทอม..เป็นต้น...

ในกรณีของคนไทย..ก็เหมือนต่างด้าวทั่วๆไป..เขาเรียกคนเหล่านี้ว่า โรบินฮู้ด..หรือกระเหรี่ยงเป็นต้น..มีช่วงเวลาสมัยหนึ่งคนไทย..สามารถเข้าประเทศเยอรมัน..ได้สามเดือนโดยไม่ต้องทำวีซ่า..คนไทยบางประเภท เข้ามาขุดทองตามท้องถนนจนลือชื่อ...เพราะมีสมบัติติดตัวมาขาย ไม่ต้องลงทุน...

ต่อมาวีซ่านี้ถูกยกเลิกไป..

ข้อดีของประเทศนี้..คือ..เป็นประเทศมีกฏหมาย..และประชาชนและรัฐเคารพกฏร่วมกัน...ในลักษณะนี้เปรียบเทียบกับประเทศบ้านเราคง(ยากส์....)...

อนึ่งข้อเขียนที่เขียนๆขอหมายเหตุไว้ณ ที่นี้..ว่า..ไม่ได้เขียนในลักษณะอ้างอิง..นี้เป็นเพียงประสพการณ์ส่วนตัวที่มีมาในลักษณะเป็นการผจญภัย พบเห็นสัมผัสเป็น ส่วนตัวเท่านั้น...

ด้วยคาระวะ..จากยายธี

สวัสดีค่ะคุณยาย ดิฉันนับถือและชื่นชมผู้หญิงเก่งและแกร่ง อ่านบันทึกนี้ที่ยายธีเล่าถึงคุณแม่แล้วดิฉันรู้สึกนับถือคุณแม่ยายธีมากเป็นพิเศษ

จำได้ว่าคุณยายพูดถึงป้าวิในบันทึกอื่นๆ ทำให้อยากรู้จักป้าวิอีกท่าน เพื่อนที่มิตรภาพยาวนานนี่หาไม่ได้ง่ายนะคะ

ภาพในหนังสือพิมพ์เป็นร้านอาหารไทยหรือคะ

เป็นบันทึกที่ทรงคุณค่ามาก

ทำให้ได้เรียนรู้ไปด้วยเลยครับ

ขอบคุณคุณยายมากๆครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท