คุณต้องฟังผม...


โรงเรียนขนาดเล็ก ถ้ามีครูเพียงสองคน ก็คงไม่เป็นไร แต่ถ้ามีมากกว่าสอง แล้วผู้บริหารมีความคิดว่า"คุณต้องฟังผม" ผลที่สุดก็อาจลงท้ายเหมือนปาเกียว แล้วจะมาเที่ยวบ่นว่า ผมล้มเหลวในการบริหารโรงเรียนได้อย่างไร.... ดังนั้น..การบริหารสมัยใหม่..ต้องรับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน..จึงจะเป็นการบริหารจัดการที่ถูกต้องและเหมาะสมที่สุด..

การชกมวยชิงแชมป์โลกระหว่าง..แมนนี่ ปาเกียว กับ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ ก็ผ่านพ้น..หลังจากที่แฟนหมัดมวยรอคอยมานาน ฟลอยด์ เป็นผู้ท้าชิง..ปาเกี่ยว..เป็นแชมป์โลก..ฟลอยด์ อายุมากกว่าเล็กน้อย และไม่เคยแพ้ใคร และเป็นนักมวยทำเงินของสมาคมมวยโลก ทั้งคู่ได้ค่าเหนื่อยรวมกัน คิดเป็นเงินไทย เกือบหมื่นล้านบาท....ผลลงเอย..ผู้ท้าชิงชนะ..และได้ค่าเหนื่อยมากกว่า

สื่อมวลชนไทยและต่างชาติ ยกย่องให้เป็นคู่มวย..หยุดโลก..พอชกจริง ไม่ได้หยุดโลกหรืออะไรทั้งสิ้น อาจจะหลุดโลกด้วยซ้ำ เพราะ ไม่มีความตื่นเต้นเร้าใจ ชกกันไปเรื่อยๆ คนดูทั้งในและนอกสนามก็ดูกันไปเรื่อยๆ..ปาเกียววิ่งไล่ชกฟลอยด์ ฟลอยดิ์แย๊บหนีแล้วกอด นานๆทั้งคู่จะปล่อยหมัดเด็ดโดนหน้ากัน.... จนครบ ๑๒ ยก..ฟลอยด์ชนะคะแนน เป็นเอกฉันท์ อาจจะค้านสายตาคนดูบ้างเล็กน้อย..และค้านความรู้สึกในหัวใจปาเกียวยิ่งนัก แต่ที่แน่ๆ คือ มวยคู่นี้ดูไม่สนุกเลย

ก่อนชก..กรรมการผู้ห้ามบนเวที ซึ่งเป็นกรรมการห้ามมวยระดับโลกที่ดีที่สุด..เรียกนักมวยทั้งคู่มากลางเวที พูดอะไรไม่รู้ ประมาณ ๓๐ วินาที ผู้บรรยายบอกว่า..กรรมการบอกนักมวยทั้งคู่ว่า..."คุณต้องฟัง..ผม..." และที่ผ่านมาก่อนหน้านี้..คำพูดดังกล่าว..ก็เป็นวลีเด็ดของกรรมการท่านนี้..จนเป็นที่กล่าวขานไปทั่วโลก

ผมคิดว่า..กรรมการเข้าใจพูด และพูดได้ถูกต้อง..เพราะการชกมีกฎกติกามารยาท และอยู่บนเวที มีด้วยกัน ๓ คน เท่านั้น..เวลาพูดอะไร..บอกอะไร..ก็ควรจะต้องรับฟังกัน อย่าดื้อ อย่ารั้น อย่าเถียง...

กรรมการผู้ห้ามบนเวทีมีค่าตัว ๘ แสนบาท วันนี้..ห้ามมวยคู่หยุดโลกแบบไม่ต้องเหนื่อย คอยแยกเวลานักมวยกอดกันและเตือนฟลอยด์ไม่ให้หนีบหมัดปาเกียว..ผ่านไป ๕ ยก..ผมเริ่มนึกอะไรออก...ประมาณว่า เอาอีกแล้ว สมาคมมวยโลก...ต้มคนดูอีกแล้ว...

มวยระดับโลก..เป็นธุรกิจแบบหนึ่งไปแล้ว ลงทุนจัดนับแสนล้าน เพื่อเอาทุนคืน และดูเหมือนตั้งใจว่า จัดแล้วต้องจัดอีก..เพื่อเป็นกำไร..โดยทำให้คนดูคลางแคลงในความรู้สึก ทำให้รู้สึกค้านสายตา..และสุดท้าย..ก็ต้องให้มีการชกนัดล้างตา คือชกใหม่..ท้าชิงกันใหม่..

ไม่ยากเลยครับ..ก็แค่นายทุนผู้จัดการชกครั้งนี้..บอกฟลอยด์ว่า "..หลบหลีกหมัดปาเกียวให้ได้ อย่าแลก..เดี๋ยวพลาด และอย่าทุ่มเท..เดี๋ยวร่างกายบอบช้ำ ไม่ต้องชกสวย ไม่ต้องชกเอาใจใคร ไม่ต้องห่วงเรื่องคะแนนนะ.. กรรมการ ๓ ท่าน เราซื้อได้หมดแล้ว ถ้าปาเกียวชนะน๊อคไม่ได้..ฟลอยด์ก็ชนะได้แน่นอน..."

ถ้าไม่เชื่อ ลองนึกภาพ ตอนที่ฟลอยด์กอดปาเกียวกลางเวที ฟลอยด์กระซิบข้างหูปาเกียว..ฟลอยด์(อาจจะ)บอกปาเกียวว่า.."ชกไปเถ๊อะ..ยังไงคุณก็แพ้ผม..." จากนั้น..สังเกตใบหน้าของปาเกียวจะแดงขึ้นมาทันที เหมือนโกรธจัด จากที่เดินช้า กลายเป็นเดินเร็วขึ้น แทบจะวิ่งไล่ชกฟลอยด์....

ยิ่งชกนาน..ปาเกียว..ก็เริ่มบริหารจัดการชกได้ดีพอสมควร รัดกุมขึ้น เดินชกแบบไม่ประมาท อาจจะมีบางหมัดวืดไปบ้าง ด้วยวัย...และความเร็วของฟลอยด์ แต่ปาเกียวก็ใช้เวลาและเวทีได้คุ้มค่า เป็นที่ประทับใจคนดูทั่วโลก..

ทำให้ผมนึกถึงการบริหารจัดการในโรงเรียนขนาดเล็ก ซึ่งบางครั้งผมก็ใช้เทคนิคแปลกๆ ใช้รูปแบบพิเศษตามสถานการณ์ คำพูดของกรรมการที่ว่า.."คุณต้องฟังผม.."ผมก็เคยใช้กับครู ที่มีอยู่ ๔ - ๕ ท่านเท่านั้น โดยให้เหตุผลกับครูว่า"....ผมมีประสบการณ์มากกว่า ผมจะบริหารครูด้วยความรู้ความสามารถมากกว่าใช้ความรู้สึก ขณะเดียวกัน ครูไม่ต้องห่วง ครูทำงานหนัก ผมเข้าใจ แต่ครูก็ต้องช่วยกันทำงาน รักสามัคคีกัน ผมจะไม่บั่นทอนกำลังใจครู ไม่ทำร้ายจิตใจครู จะดูแลให้พวกเราเดินไปพร้อมกัน..จะดูแลไปถึงครอบครัว ไม่ต้องคิดว่าทำเพื่อผมนะ..แต่ให้คิดว่าทำเพื่อโรงเรียน เพื่อนักเรียน..ดังนั้น..เวลาพูดอะไรก็ขอให้ฟังกัน..."

พูดไปแล้ว ดูเหมือนจะดี..แต่ถ้าคิดไม่ดี ก็เหมือน ผอ.เผด็จการ...ได้เหมือนกัน

ครับ..พูดถึงการชกมวย บนเวทีระดับโลกอยู่ดีๆ มาลงเอยที่โรงเรียนขนาดเล็กได้อย่างไรก็ไม่รู้ แต่ที่รู้แน่ๆ ..เสร็จสิ้นการชก ฟลอยด์คาดเข็มขัดแชมป์โลก เดินยิ้มร่า..เหมือนจะบอกว่า เห็นไหม ผมบอกแล้ว..ส่วนปาเกียว หลังเสร็จสิ้นการชก มีสีหน้างุนงง ให้สัมภาษณ์นักข่าวว่า"...ผมแพ้..ได้อย่างไร..."( แต่จริงๆปาเกียวก็คงทราบดี ว่าถ้าน๊อคเขาไม่ได้ ก็ต้องแพ้แน่นอน... )

ครับ..โรงเรียนขนาดเล็ก ถ้ามีครูเพียงสองคน ก็คงไม่เป็นไร แต่ถ้ามีมากกว่าสอง แล้วผู้บริหารมีความคิดว่า"คุณต้องฟังผม" ผลที่สุดก็อาจลงท้ายเหมือนปาเกียว แล้วจะมาเที่ยวบ่นว่า ผมล้มเหลวในการบริหารโรงเรียนได้อย่างไร....? ดังนั้น..การบริหารสมัยใหม่..ต้องรับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน...ทำงานแบบมีส่วนร่วม..จึงจะเป็นการบริหารจัดการที่ถูกต้องและเหมาะสมที่สุด..

ชยันต์ เพชรศรีจันทร์

๓ พฤษภาคม ๒๕๕๘

</span></strong>

หมายเลขบันทึก: 589723เขียนเมื่อ 3 พฤษภาคม 2015 19:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 พฤษภาคม 2015 06:23 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

แย้ปซ้ายขวา..ขวา..ซ้ายๆๆๆขวาๆๆๆ..น้อคเอ้าท์..แหมไม่ฟังกันก่อน..(ล้อเล่น..ห้ามโกธร...).. สนุกจังอ่านบล้อคนี้..เจ้าค่ะ..

ฮา... ผมชอบวิธีตีความและเชื่อมโยงของท่านครับ.... ตอนนี้มีโครงการ DLTV ที่มุ่งไปยังโรงเรียนขนาดเล็กที่ผมได้ไปเรียนรู้กับ PLC กาฬสินธุ์ โรงเรียนบ้านหนองผือทำเรื่องนี้ด้วยไหมครับ... น่าจะมี "นักมวย" ดีๆ เอาวิธีหรือเทคนิคดีๆ .. มาเล่าให้ฟัง...ฮา

ไม่ได้ดู เพราะเตรียมงาน ถ่ายซ่อม DLIT พรุ่งนี้ ๔ เมษา

อ่านจากตรงนี้ ก็น่าจะดีกว่าดูเองนะ ขอบคุณ ๆ ๆ ๆ

เข้าใจเชื่อมโยงเหตการณ์ปัจจุบันกับการบริหารการศึกษา

ขอบคุณ ผอ มากครับ

คุณต้องฟังผม...

ขอเชื่อมไปด้าน การเมือง บ้างครับ

...เฮ้ย เชิญเจ้าร่วมให้..............ความเห็น
จง เปือก! เลือกเป็นประเด็น......เท่านั้น
บังอาจจักทุกข์เข็ญ................ข้าสั่ง
ตัวอย่าง "Peace" อวดรั้น.........ปิดแล้วเห็นไหม

...ไง! อิง"จิ๋ว" อ๊ะข้า..............นับถือ
ทำฉลาดอ้างหารือ................นะเจ้า
ต่างชาติบีบ แค่ลือ................กลัวไม่
งกงกประชุมเร่งเร้า................สลัดสิ้นลายเสือ

สมเป็นผู้บริหารแล้วค่ะ ดูมวยที่มีอะไรมากกว่าเท่าที่เห็นแล้วเอามาเปรียบเทียบกับการบริหารโรงเรียนได้แบบเห็นภาพจริงๆค่ะ

ขอบคุณ คุณโอ๋-อโณ ครับ...คุณshare ..ยิ่งกว่าผมอีก ๕๕๕

</span></span></strong>

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท