ดูเด็กเล่นกัน


หลายๆ ครั้งของการมองดูเด็กเล่นกันย้อนมาสอนดิฉันให้คิด หลักของการอยู่ร่วมกัน:ต้องรู้จักผ่อนปรนตามเขาบ้างตามเราบ้างอย่าเอาตัวเองเป็นใหญ่ตามคนอื่นบ้างสลับกันไปเราควรมีวิธีหว่านล้อมให้เพื่อนทำตามสิ่งที่เราอยากให้เป็นโดยชักจูง...ให้ทำตามที่เราต้องการ

ในกลุ่มเด็กแถวบ้าน...จะมีสองแก๊งส์ที่แยกกันเล่นเด็ดขาด.กลุ่มเด็กโต ป.6 ไล่ลงมาคือ ป.5 ป.4 จะเล่นโลดโพนโลดโผนขับจักรยานเที่ยว..แอบหนีไปเล่นน้ำให้ห้วยท้ายหมู่บ้าน....อีกกลุ่มคือเด็กเล้กพ่อแม่ไม่ให้ไปไกลเล่นข้างบ้านหน้าบ้านพวกนี้จะเล็กหน่อย ป.1 อนุบาล  มีลูกสาวดิฉันโตสุดคือ ป.2 ในความโตสุดเธอมักใช้อำนาจรวบรัดให้น้องๆ เล่นตามสิ่งที่เธอคิด......ไม่เช่นนั้นเธอจะมางอแงกับดิฉันโดยขอตามพี่โตๆไปเล่นโลดโพน(เธอชอบ)หากจะไปทำเช่นนั้นหมายความว่าดิฉันต้องไปด้วย.....นานๆดิฉันก็สงสารจึงไปกับเธอสักทีคุมเด็กไปเป็นสิบ เช้านี้หลังจากที่มาขอออดอ้อนขอไปตกปลากับพี่ๆ จะไปที่บ้านทุ่งหงาย....แกบอกชื่อหมู่บ้านที่ไกลออกไปประมาณ 3 กิโลเมตร.....วันนี้แม่มีงานไปกับลูกไม่ได้.....หลังปฏิเสธกันไปรอบนึงแต่เช้า

แม่ไม่มีใครเล่นกับลูกเลยเพื่อนๆ รุมกันว่าลูก.."ว่าอะไรคะ"ว่าลูกไม่เล่นตามเค้าเอาแต่ใจตัวเอง "ลูกก็เล่นตามเค้าซิคะไม่เห็นต้องมาฟ้องแม่เลย" ใครก็อยากตามใจตัวเองทั้งนั้นแหล่ะแม่เล่นตามเค้าทุกครั้งจะสนุกได้ไง  "ถ้าลูกอยากตามใจตัวเอง...หนูก็ต้องเล่นคนเดียว"..เล่นคนเดียวไม่สนุก.."ก็นั่นซิคะหนูต้องรู้จักผ่อนปรนตามเขาบ้างตามเราบ้างเป็นการอยู่ร่วมกัน"  "ผ่อนปรนแปลว่าอะไร" เธอถาม "แปลว่าอย่าเอาตัวเองเป็นใหญ่ตามคนอีกบ้างสลับกันไปอย่ายึดแต่ตนเอง  เธอนิ่งฟัง..แม่...ถ้าลูกชวนเพื่อนมาเล่นบ้านเรา...เขาต้องเล่นตามเรามั๊ยเพราะเป็นบ้านเรา..."ก็ลองดูซิคะ".ลูกน่าจะมีวิธีหว่านล้อมให้เพื่อนเล่นตามที่ลูกอยากเล่น.."  หว่านล้อมแปลว่าอะไร...(ช่างถามซะจริงแม่คนนี้ดิฉันคิดในใจ...)หว่านล้อมแปลว่าชักจูง...ให้ทำตามที่เราต้องการค่ะ แล้วเธอก็หายไปในหมู่เพื่อนในซอยสักพักได้ยินแว่วๆเสียงคุยกัน....ให้โอกาสอีกครั้งนะ...ไม่งั๊นพวกเราจะไม่เล่นกับพี่ปลาแล้ว..คงตกลงกันไม่ได้(มีการให้โอกาสกันด้วย) ดิฉันแอบเงี่ยหูฟังว่าลูกสาวดิฉันจะทำยังไงหลังจากมาฟ้องแม่ก็แล้ว....ชวนเพื่อนมาเล่นที่บ้านก็แล้ว..ไม่สำเร็จเธออยากเล่นขายของ..ก็ได้..เราจะเล่นตามใจคนเกิดวันนี้...วันอาทิตย์.โล่งอก....ดิฉันคิดว่าแกจะไม่ยอมใครซะแล้ว......เด็กๆ เขาตัดสินใจกันน่ารักดี 
หลังจากนั้นได้ยินเสียงไล่เรียงกันใครเกิดวันไหน...วันจันทร์..
วันพุธ .วันพุธ...วันเปิด(เจ้าตัวเล็กสุด แปม แปม ตอบ)..ไม่มีแปมมั่ว...แม่..แปมเกิดวันอะไร ...วันพฤหัส...ไม่มีใครเกิดวันอาทิตย์เลย..เจ้าปลาได้ที.....ดี ดี ต้องตามใจคนเกิดวันเสาร์วันหยุดเหมือนกัน
..เรามาเล่นขายของกัน...เย้ได้เล่นขายของแล้ว" แม่.ลูกเกิดวันหยุด.."
ดิฉันนั่งฟังพลาง...นึกขำและชมในใจฉลาดสรุปเข้าข้างตัว แล้วแกก็ได้เล่นขายของดังใจอยากในวันนี้...
หลายๆ ครั้งของการมองดูเด็กเล่นกันย้อนมาสอนดิฉันให้คิด
หลักของการอยู่ร่วมกัน:ต้องรู้จักผ่อนปรนตามเขาบ้างตามเราบ้างอย่าเอาตัวเองเป็นใหญ่ตามคนอื่นบ้างสลับกันไปเราควรมีวิธีหว่านล้อมให้เพื่อนทำตามสิ่งที่เราอยากให้เป็นโดยชักจูง...ให้ทำตามที่เราต้องการ "การเจรจาต่อรองมีในทุกช่วงวัย"

หมายเลขบันทึก: 58876เขียนเมื่อ 12 พฤศจิกายน 2006 15:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:19 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)
  • แอบหนีไปเล่นน้ำให้ห้วยท้ายหมู่บ้าน
  • ยังมีห้วยอยู่อีกหรือครับ
  • ผมชอบดูเด็กๆเล่น สังเกตพฤติกรรม จะทำให้เข้ากับเด็กๆได้ง่ายครับผม
  • ดีจังพรุ่งนี้วันจันทร์แห่งชาติ หยุดหนึ่งวัน ยิ้ม ยิ้ม
มีซิคะ...บ้านพี่อยู่นอกเมือง...ฤดูนี้มีน้ำเยอะ....มีให้เล่นฤดูแล้งจะแห้งไป......วันจันทร์แห่งชาติมีด้วยเหรอคะ...พี่ขจิต...ถ้ายายแปมรู้แกคงชอบน่าดู....เพราะแกไม่ชอบไปโรงเรียน....

สวัสดีอีกครั้งคะคุณเมตตา

  • น่ารักนะคะบันทึกที่เกี่ยวกับเรื่องเด็กๆ  มองเธอทีไรเคยนึกไหมคะ  ไม่อยากให้เธอโตขึ้น  เพราะปัญหามีอีกมากมาย ไม่ใช่การเล่นขายของเสียแล้ว
  • การแก้ปัญหาในชีวิต  เด็กๆต้องฝึกการแก้ปัญหานั้นด้วยตัวเอง  เพราะต่อไปในอนาคต  เธอต้องพบ  และแก้ปัญหา  แบบไม่มีแม่หรือใครช่วยได้

อย่างไร  คุณเมตตาก็สรุปปมได้ดีมากค่ะ

ครูอ้อยกับช้างไชโย.....เป็นกำลังใจให้ค่ะ

เยี่ยมค่ะ คุณแม่เมตตาและคุณลูกปลา

เป็นธรรมดา...ว่าวสุดสายมักจะขาด...ควรปล่อยสายว่าว...ผ่อนไปตามแรงของลมบ้าง...

จากบันทึกนี้ผมได้ข้อคิดบางอย่าง

ขอบคุณครับ...

ครูอ้อยคะ ดีใจทุกครั้งที่ครูอ้อยเข้ามาค่ะ...ครูอ้อยจะถนัดเรื่องเด็ก ๆ ใช่มั๊ยคะ คุณเมตตาจะได้ประเด็นดีๆ จากครูอ้อยเสมอ ขอบคุณค่ะ ไม่อยากให้เธอโตขึ้น  เพราะปัญหามีอีกมากมาย ไม่ใช่การเล่นขายของเสียแล้ว...
คุณโอ๋คะ เยี่ยมเหรอคะ....ขอบคุณค่ะ คงไม่เยี่ยมไปกว่าแม่น้องฟุงแน่ๆ ค่ะ
อาจารย์ umi  ได้แง่คิดอะไรบอกกันบ้างซิคะ..บางทีคนเขียนอาจคิดไปไม่ถึงแง่คิดของอาจารย์ก็ได้...ขอบคุณค่ะที่แวะเวียนมาบ่อยขึ้น

สวัสดีครับ...แง่คิดที่ได้เช่น...

ศิลปะการให้คำปรึกษาแก่ลูก...

การเป็นเพื่อนของลูกในบางโอกาส...

เรื่องของเด็ก ๆบางครั้งพวกเขาแก้ปัญหาเองได้...ครับฯลฯ..

ขอบคุณครับ...

  • แวะมาทักทาย
  • บันทึกสวยจังเลย
  • ใครเห็นคุณบวรบ้างหายไปกับความหนาว

ขอบคุณค่ะ คุณumi  ที่กลับมาเติมเต็มอีกรอบ
คุณขจิต ไม่มีใครเห็นเพื่อนคุณเลยค่ะคิดถึงอยู่เหมือนกัน  หายไปก่อนหนาวอีกค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท