ผู้เขียนอยู่ที่ส มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ขอเขียนต่อจากบันทึกนี้นะครับ เนื่องจากว่าตอนเช้าทุกเช้าต้องมีการสวดมนต์ พระอาจารย์มหาราชันเลยได้พาพวกเราไปชมโบสถ์กลางน้ำ ถ้าจำได้โบสถ์หลังนี้เคยเด่นมากตอนน้ำท่วมปี 2554 เนื่องจากเป็นสถานที่เดียวที่น้ำท่วมไม่ได้
ในระหว่างการเดินทางเนื่องจากนักเรียนถอดรองเท้าเดิน นักเรียนบางคนไม่คุ้นชินจะเจ็บเท้าเล็กน้อย แต่ผู้เขียนคิดว่าดี นักเรียนจะได้ฝึกตนเอง ได้ชมธรรมชาติไปด้วย
แสงแดดยามเช้าที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยสวยมาก มีหมอกลงตอนเช้าด้วย เดินเดินผ่านนาข้าว สมัยก่อนสวยกว่านี้เพราะไม่มีโรงงานมาตั้ง พื้นที่ทั้งหมดเป็นนาข้าวทั้งหมดเลย
ตอนเช้านักเรียนต้องรีบกินข้าวเช้าเพราะมีรถมารับไปชมสถานที่สำคัญในอยุธยาและไปชมโรงงานของอายิโนโมโต๊ะที่หนองแค ทำรสดีและกาแฟเบอร์ดี ทาง ททท จังหวัดอยุธยาเอารถรางมารับพวกเรา ผู้เขียนได้พบพี่จาก ททท ที่อบรมมัคคุเทศก์ของมหาวิทยาลัยมหิดลร่วมกันด้วย
ทางทีมงานของ ททท พาพวกเราไปดูวัดสำคัญหลายวัด ปกติผู้เขียนมาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้ฟังบรรยายจากเจ้าหน้าที่แบบนี้เลยได้ความรู้เรื่องสถานที่ท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
ไม่เพียงแต่คนไทยมาเที่ยว ดูเหมือนว่า คนต่างชาติก็เข้าชมจำนวนมาก ขนาดไม่ใช่วันหยุด แต่เราออกมาสาย อากาศเลยร้อนมาก แต่ก็ดีที่ได้ชมสถานที่และได้ชมบริเวณรอบๆทั้งหมด
ทีมพี่เลี้ยงยังร้อนเลย โชคดีที่น้องนาวิน ทีมพี่เลี้ยงของเรามีความรอบครอบเอาร่มไปด้วย เลยเหมือนการถ่ายรูป
Pre-wedding 555
สถานที่ที่ผู้เขียนทึ่งคือโรงงานทำรสดี ที่ผลิตได้จำนวนมาก แต่เจ้ากาแฟกระป๋องโรงงานผลิตได้ 2 ล้านกระป๋องต่วันทึ่งมาก ต่อไปคงไม่ต้องใช้คนแล้ว คนคงตกงาน...
ตอนกลางคืนผู้เขียนดูดวงจันทร์สวยมาก แต่ถ่ายภาพตอนมีจันทรปราคาไม่ทัน แต่มีโอกาสได้เห็นนิดหน่อย ตอนเช้ามีการแบ่งเป็นกลุ่ม ผู้เขียนให้นักเรียนเล่นกิจกรรมรำมวยจีน แล้วไปร่วมกิจกรรมกับพี่เลี้ยงเป็นการเรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่นผ่านคำถาม เช่นถามเรื่องสถานที่สำคัญทีมีออนเซน ชื่อผู้แต่งหนังสือเป็นต้น
ตอนสายอาจารย์ชาวญี่ปุ่นสอนเรื่องของภาษาญี่ปุ่นในแต่ละพื้นที่ที่ภาษาแตกต่างกันไป เหมือนกันภาษาถิ่นบ้านเรา แต่แปลกมากคือบางสถานที่บางจังหวัดเป้นคำทักทาย แต่จังหวัดกลายเป็นคำขยายนาม
ตอนบ่ายเป็นการแบ่งฐาน 4 ฐานคือเรียนรู้เรื่องของการพับกระดาษ Origami แถมการเขียนคำอวยพรด้วย ตอนพับไม่ยากแต่ตอนถักไหมค่อนข้างใช้เวลามาก
ฐานต่อมาเป็นฐานการชงชาน้องหนึ่ง บล็อกเกอร์ของเราสอนเอง น้องหนึ่งเป็นเจ้าของโครงการอบรมครั้งนี้มีน้องชัยเป็นผู้ช่วยนักเรียนได้เรียนรู้เรื่องการชงชา ได้เข้าใจวัฒนธรรมของการชงชาอีกด้วย
น้องยิ้ม 555
ฐานต่อมาเป็นการเต้นรำของชาวญี่ปุ่น นักเรียนได้เรียนรู้เรื่องวัฒนธรรม การเต้นรำดูเหมือนท่าทางจะเป็นการขุดมัน แล้วตักทิ้ง แถมมีการเช็ดเหงื่อด้วย
ฐานสุดท้ายเป็นของอาจารย์ชาวญี่ปุ่น เป็นการอ่านประโยคให้นักเรียนหาประโยค แข่งกัน คนที่หาได้ก็จะเป้นคนอ่านประโยคนั้นๆ ตอนสุดท้ายได้ภาพรวมของกิจกรรมแบบในภาพครับ
หลังจากนั้นผู้เขียนก็ทำกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์เพื่อให้ทีมพี่เลี้ยงไปเตรียมฐาน โดยให้เล่นเกม centipede หรือเกมตะขาบ ให้นักเรียนแข่งขันกัน
ฐานแรกข้างล่างคือฐานการดูข้อความแล้วทำท่าสัตว์ชนิดนั้น ในระหว่างที่รอก็เต้นรำไปด้วย
ฐานที่สองเป็นฐานใบ้คำให้นักเรียนใบ้คำให้ได้มากที่สุด
ฐานที่สามเป็นฐานของการให้เดินแล้วมาหยุดใกล้ผู้ที่หันหลังให้ แต่ในระหว่างที่ผู้ปิดตาหันหลังไปต้องหยุดนิ่ง
ฐานสุดท้ายเป็นการปิดตาและทำตามคำสั่งของเพื่อนที่บอกให้ได้มากที่สุด ถ้ามีการทำผิดก็ถูกพี่นาวินเขียนหน้าแบบในภาพข้างบน 5555
แต่ละฐานใช้เวลาไม่มากนักเพราะนักเรียนต้องรีบกลับบ้าน ผู้เขียนให้นักเรียนสรุปกิจกรรมว่าได้เรียนรู้อะไรบ้างสิ่งใดต้องปรับปรุง สิ่งใดชอบเป็นการสะท้อนความคิดเห็น(Reflection) และทำ After Action Review ด้วยว่านักเรียนได้เรียนรู้อะไรจะนำไปทำอะไร
สรุปท้ายก็ถ่ายรูปร่วมกัน ก่อนเลิกกิจกรรม ขอบคุณมากครับที่ติดตามอ่าน....
-สวัสดีครับครู
-ตามมาดูกิจกรรม
-ท่องเที่ยววัดวาอาราม....
-วิถีธรรม...วิถีไทย...ในอดีต...
-ชอบใจครูแอบหยอดมุขเด็ด ๆ Pre-wedding 555
ขอบคุณคุณเพชร
ใช่ครับ ชอบใจภาพ 555
ขอบใจอาจารย์ wasawat มากครับ
ไปแม่ฮ่องสอนอีกแล้วนะครับ
ตามมาอ่านต่อค่ะ ภาพวัดและพระพุทธรูปมุมกล้องสวยมากค่ะ เคยไปเที่ยวหลายครั้งแล้วชอบมากๆ..ดีใจกับเด็กๆด้วยค่
ขอบพระคุณพี่ใหญ่มากครับ
ที่แวะมาอ่าน
ไปที่นี่หลายครั้งมาก
เพิ่งมีโอกาสได้ถ่ายรูปสวยๆครับ