ก่อนนี้จะเป็นคนขี้หงุดหงิดโมโห ได้ง่ายแต่ช่วงหลังมานี่ ไม่มีเรื่องรบกวนใจทำให้ไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดโมโหมานานแล้ว
อาจเป็นเพราะการใช้ชีวิตประจำวันในหลายปีที่ผ่านมามีกิจวัตรประจำวัน แบบเดิมๆ รอบๆ ตัวมีเรื่องราวเดิมๆ มีเรื่องใหม่ๆ อยู่บ้างก็แค่มีอยู่แค่ในความคิดไม่ได้ทำให้รู้สึกขัดเคืองใจ
วันก่อนเจอความหงุดหงิดของคนรอบข้าง มากระทบทำให้รำคาญใจ จากนั้นรู้สึกเคืองใจ สุดท้ายก็รู้สึกฉุนเฉียว ซึ่งก็ทำให้เรารู้สึกว่าจริงๆ แล้ว เรายังเป็นคนที่โกรธง่าย โกรธแล้วค่อนข้างจะขาดความยับยั้งชั่งใจ ในการใช้คำพูด
เมื่อทบทวนก็รู้สึกว่ารู้สึกไม่ดีนักกับคำพูดของตัวเอง แต่ว่าพอมาคิดดูดีๆ รู้สึกว่าเป็นเรื่องธรรมดา ดีแล้วที่เจอเรื่องที่ทำให้หงุดโกรธบ้าง เพราะไม่เช่นนั้นก็อาจลืมไปว่าความโกรธนี่ยังอยู่กับตัวเราตลอด
คงไม่มีใครชอบอยู่ใกล้คนที่กำลังฉุนเฉียวโมโห รวมถึงคงไม่มีหลายๆ คนไม่อยากให้ตัวเองอยู่ในภาวะอารมณ์โกรธ แต่การตัดความโกรธคงเป็นเรื่องของผู้ปฏิบัติอย่างตั้งใจ คนทั่วๆไปคงทำได้เพียงตั้งใจลดให้น้อยลง
ตอนนี้เลยมาคิดดูว่าถ้ามีสถานการณ์ทำให้เราขัดเคืองใจมากระทบบ้างก็คงดีนะ จะได้มีโอกาสพิจารณาจิตใจเราในเรื่องของความโกรธบ้าง
โกรธเป็นเรื่องธรรมดา
แต่วิธีการหาการดับความโกรธน่าสนใจครับ
ขอบคุณมากครับ
สุขสันต์ชุ่มเย็นวันสงกรานต์นะครับ...