บันทึกที่ ๑๐๕ ความงดงาม...ของชีวิต
คำว่า "ชีวิต" ช่างมีความหมาย
มากมายเกินกว่าที่จะพรรณาได้
หากเแต่"ชีวิต" จะมีความหมายมากที่สุด
คือ "ชีวิต" ที่พรั่งพร้อมไปด้วยคุณงามความดี
เป็นความงามที่ไม่ต้องปรุงแต่งหรือเสแสร้ง
เป็นความงาม...จากการมองโลกในแง่ดี
มีความเป็นมิตร มีเมตตา กรุณาปรานีต่อผู้อื่น
หาใช่...ความดีงามจากทรัพย์สิน มีลาภ ยศ สรรเสริญ
หาใช่ ..มีพรรคพวก เพื่อนฝูงมากหน้าล้นตา
แต่...เป็นชีวิตที่เรียบง่าย
พอเพียง สมถะ
คิดก่อนทำ..
ใช้ปัญญานำพาชีวิต..
เป็นชีวิตที่งดงาม...อย่างแท้จริง
(อร วรรณ ๓-๔-๕๘)
ชีวิตมาจาก ชีพ + ต แปลว่า มีลมปราณ เป็นไปตามกรอบเงื่อนไข ๑) กรรมผลจากสองกลุ่มคือ ตนเอง และคนอื่น (พ่อแม่) ๒) ธรรมชาติ ธาตุ ๔ อันเป็นสสารของโลก ๓) มาจากจิตวิญญาณ ที่มาจากสองฐานคือ สมอง (สสาร) และเจตวิญญาณ ๕) กฎของธรรม เช่น เกิด แก่ ชรา เป็นกฎที่เป็นกัมมันตะ
ผลของการเกิดชีพคือ ๑) มีตัวตน รูปร่างเรียกว่า มนุษย์ ๒) สร้างพลังกรรมได้เอง ๓) เป็นผู้ทำและเสวยเอง ๔) มีผลตกค้างแก่โลก แก่ตน และแก่คนอื่น ๕) มีทวิภาวะคือ มีศิลปะ และมีทุกข์ในตัว ๖) มีพลังงานด้านสติ ปัญญา วิเคราะห์สสารกาย ชีพตนเองได้
สัจภาวะที่เกิดจากการมีชีพคือ รู้แจ้งตน รู้แจ้งใจ เข้าใจหลักสากล เพื่อเข้าถึงพลังงานจิตที่เป็นต้นแบบอันบริสุทธิ์คือ จิตสากล จิตนิพพาน นั่นเอง
ขอบคุณค่ะ อาจารย์ ส.รตนภักดิ์ ที่มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และให้ข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ
ขอบคุณค่ะ คุณเพชรน้ำหนึ่ง ที่มาอ่านให้กำลังใจกันค่ะ
"ชีวิตที่สุขสงบ คือ ชีวิตที่เรียบง่าย รู้เพียงพอ และพอเพียง"
ใช่เลยค่ะ คุณมะเดื่อ
ขอบคุณค่ะ ที่เข้ามาอ่านให้กำลังใจกัน