บทความเรื่อง Extra-Sensory Perception : How a world filled with sensors will change the way we see, hear, think and liveบอกเราว่ามนุษย์ยุคต่อไปจะรับรู้ได้ไกลกว่าที่ประสาทรับรู้ของเรารับรู้ได้เอง เพราะจะมี sensor หลากหลายชนิด ติดตั้งอยู่ในที่ต่างๆ ส่งสัญญาณมายัง คอมพิวเตอร์สวมใส่ได้ ที่อยู่ติดตัวเรา แล้วคอมพิวเตอร์จะส่งสัญญาณเข้าสู่สมอง ของเราอีกทีหนึ่ง
สมัยก่อนเราต้องหัดขี่จักรยาน หัดขับรถยนต์ สมัยหน้าเราจะต้องหัดอยู่กับคอมพิวเตอร์ที่ส่งสัญญาณจาก sensor เข้าสู่การรับรู้ของเรา ในโลกยุค ubiquitous computing
นั่นหมายความว่า เราต้องปรับตัวของเรา ให้เข้ากับสภาพแวดล้อมรอบตัวเรา ที่เป็น "สิ่งแวดล้อมขยาย" คืออยู่ไกล หรืออยู่นอกระบบประสาทรับรู้ของเรา
แต่ sensors เก่งกว่านั้น เขาสามารถรับรู้ความต้องการของเรา เช่นระดับเสียงเพลงที่เราชอบ ระดับอุณหภูมิ ที่พอดีสำหรับเรา และปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะแก่ตัวเรา
ผู้เขียนบทความเรียกโลกยุคใหม่ว่า sensor-driven world ซึ่งจะช่วยปลดปล่อยมนุษย์จากการจ้องจอสมาร์ทโฟน มาอยู่กับสภาพแวดล้อมรอบตัวมากขึ้น
กลับไปเหมือนสมัยไม่มีสมาร์ทโฟน แต่รับรู้ "ที่นี่" และ "เดี๋ยวนี้" ได้ไกล และซับซ้อนกว่าเดิมอย่างมากมาย
วิจารณ์ พานิช
๒๓ ก.พ. ๕๘
ที่นี่..เดี๋ยวนี้..รู้ได้ด้วยตัวตน..(ไม่ต้องมีตำรา..ขอแต่มีคำว่า"อยากที่จะเรียนรู้")...ไม่ต้องรอ..เครื่องที่ว่า..มั้ง...สิ่งที่มนุษย์ขาดหายไปเพราะไม่ได้ถูกฝึก...ให้ใช้.."สัญชาติญาณ"ที่มีโดยธรรมชาติ"..กลับกันโดยฝึกให้ถูกเป็น..ทาส"วิทยาการ"...ที่กำลังล้าหลังลงทุกวัน....กับ..คำว่า"ธรรมชาติ"..(.แอบคิด..ตามประสา..คนล้า..วิทยาการ)...
ยิ่งเรียนยิ่งห่าง ทางสายเอก...