วัฒนธรรมยศศักดิ์ของปัญญาชน


ปัญญาชนที่เป็นพระ เมื่อเรียนหนังสือและสอบผ่าน ระดับเปรียญธรรม สามประโยคขึ้นไป เขาเรียกว่า "มหา" และได้พัดยศ ถือว่าเป็นตำแหน่งทางวิชาการ ยิ่งสอบได้เก้าประโยค ขณะเป็นสามเณร ก็จะได้ยกย่องกันมาก ท่านที่ไม่สึกหาลาเพศ ก็จะเจริญก้าวหน้าทางด้านยศศักดิ์ มีทั้งตำแหน่ง และมีเงินประจำตำแหน่งที่เรียกว่า นิตยภัตร และก้าวหน้าทางด้านยศศักดิ์ต่อไป สำหรับระบบนี้ ผู้ที่สอบได้หมายถึงผู้ที่ได้รับการยอมรับจากกรรมการผู้ตรวจ มีบางคราวที่แม้บางท่านจะมีความสามารถสูง แต่คำตอบไม่ถูกใจกรรมการผู้ตรวจ บางท่านถึงต้องสึกหาลาเพศ ไปเป็นปัญญาชนทางโลก ได้รับยศศักดิ์สูงสุดทางวิชาการก็มี

ยศศักดิ์ คือ อะไร ยศศักดิ์เป็นตำแหน่งแห่งที่สถาปนาด้วยอำนาจชนิดใดชนิดหนึ่ง ในการสถาปนาก็จะมีพิธีกรรมในการรับรอง ยุคบรรพกาล ยศศักดิ์ก็จะไม่ซับซ้อน หัวหน้าเผ่าคัดเลือกจากคนที่แข็งแรงที่สุด แล้วหัวหน้าเผ่าก็จะสถาปนาตำแหน่งในโครงสร้างอย่างเรียบง่าย หนึ่งในตำแหน่งปัญญาชนของเผ่าก็คือหมอผี หมอผีคือผู้มีคุณสมบัติที่ติดต่อทำพิธีกรรมต่อสิ่งเหนือธรรมชาติ เพื่ออ้อนวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาลให้เกิดพืชพันธ์ธัญญาหาร อุดมสมบูรณ์ ชนะศรัตรู ในสังคมทาส นั้นปัญญาชนนั้นใช้คำอธิบายว่า ทาสไม่ใช่มนุษย์ ต่อมาเมื่อเข้าสู่ยุคฟิวดัล เป็นยุคที่มีพัฒนาการทางด้านยศศักดิ์มาที่สุด ที่สามารถควบรวมยศศักดิ์ เข้ากับที่ดิน คนยศมากก็มีที่ดินมาก คนยศน้อย ก็มีที่ดินน้อย ปัญญาชนก็คือพระในศาสนาคริสต์นั่นเอง ต่อมาเมื่อเข้าสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ยุคทุนนิยม ที่ดินที่ครอบครองอยู่ในยุคก่อนได้ถูกนำมาลงทุนในเกษตรอุตสาหกรรม และอุตสาหกรรม และการติดต่อสือสารระหว่างประเทศเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการกระจายสินค้า และเกิดการสะสมโภคยทรัพย์ ประกอบกับปัญญาชนยุคก่อนที่เป็นพระ ได้ถูกท้าทายด้วยปัญญาชนที่สถาปนาวิทยาศาสตร์ อุตสาหกรรมต้องการผลิตภาพที่เกิดจากวิทยาศาสตร์ และผลกระทบแห่งยุคสมัยก็มักจะใช้พระในการอธิบายให้คนยอมรับและจำนนต่อระบบ และเกิดระบบโรงเรียนตามลำดับขั้น ระบบโรงเรียนตามลำดับขั้นนี่คือที่มาของยศศักดิ์สำคัญที่จุดเปลี่ยนของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา นั่นแหละได้เกิดพวกตำแหน่งทางวิชาการ จากสอนและการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ โดยคนที่มอบตำแหน่งนั้นให้ ไม่ใช่ใครอื่น ก็คือ ราชวิทยาลัยแห่งประเทศนั้น ๆ

ยศศักดิ์ ของกลุ่มวิทยาศาสตร์แบบทุนนิยม กับ ยศศักดิ์ของกลุ่มวิชาการแบบสังคมศาสตร์ แตกต่างกันตามวัฒนธรรมที่ถือวิทยาศาสตร์เข้าครอบครองความเป็นเจ้าแห่งยุคสมัย ถือว่าศักดิ์ของวิทย์ ซึ่งถือเป็นหัวใจของระบอบทุนนิยม เหนือกว่า และอยู่เป็นศูนย์กลางแห่งยุคสมัย กีดกันความรู้ชุดอื่น ๆ ออกไปสู่ชายขอบ รวมทั้งสังคมศาสตร์ด้วย การเข้าสู่ตำแหน่งแห่งที่ใช้การรับรองของผู้อยู่ครองตำแหน่งมาก่อน เป็นหลัก เพื่อควบคุมความคิดให้อยู่ในกระแสหลักทางวิทยาศาสตร์แบบทุนนิยมเท่านั้น โดยมีการรวมกลุ่มผลประโยชน์เพื่อรักษาอำนาจและความคิด ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ภายใต้หัวสมองของเด็กมอปลายส่วนใหญ่ให้ค่ากับสายวิทย์ อาชีพยอดนิยมที่ใฝ่ฝันคือ แพทย์ และอื่น ๆ ที่สัมพันธ์กับ วิศวกรรมศาสตร์ สาขาต่าง ๆ วิทยาศาสตร์สาขาต่าง ๆ เหล่านี้เป็นหลักเพราะสาขาเหล่านั้นสัมพันธ์กับระบบอุตสาหกรรม สายพานการผลิตแบบทุนนิยม ที่ขุดเอาทรัพยากรต่าง ๆ พื้นฐานเช่นดินหินแร่ เพื่อแปรรูปเป็นสินค้าอุตสาหกรรม ซึ่งมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและอนามัยของประชาชน โดยโรคที่ร้ายแรงต่าง ๆ กว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์มาจากผลกระทบ จากการผลิตจากอุตสาหกรรม จึงมีผู้เชี่ยวชาญคอยรักษา โดยการรักษามีระดับบริการตามลำดับแบบทุนนิยม คือใครมีเงินมาก ได้รับบริการที่ดีกว่า



คำสำคัญ (Tags): #วัฒนธรรม
หมายเลขบันทึก: 587981เขียนเมื่อ 27 มีนาคม 2015 20:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 มีนาคม 2015 20:11 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ระบบอุปถัมภ์มีอยู่ในทุกวงการ ประเด็นก็คือ เราจะทำอะไรให้ระบบอุปถัมภ์ทำความสัมพันธ์ระหว่างเรากับคนอื่นไปในทางที่ดี (เราต้องนิยามความดีก่อน)

โลกนี้ ไม่มีความเท่าเทียมที่แท้จริง ฉันฑ์ใด ก็ไม่มี อิสรภาพที่แท้จริงฉันฑ์นั้น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท