​เปรียบมุสลิมดั่งต้นไม้


เปรียบมุสลิมดั่งต้นไม้

หากเราพูดถึงต้นไม้ เราก็จะนึกภาพของต้นไม้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่ประกอบไปด้วย ราก ลำต้น กิ่งก้าน ใบ ดอก และผล ซึ่งทุกๆองค์ประกอบของต้นไม้นั้นก็มีหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไป อีกทั้งยังมีส่วนสำคัญในการทำให้ต้นไม้ต้นนั้นเจริญเติบโตอย่างงอกงามพร้อมทั้งสามารถที่จะยืนกรานได้นานนับชั่วอายุคน แม้แต่บางต้นก็ยังคงยืนกรานมาเป็นเวลานับพันๆปี ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้ต้นไม้ต้นนี้ยืนอยู่ได้นานอีกทั้งยังสามารถที่จะผลิดอกออกผลได้นั้นก็คือ ราก

รากถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่สุดของต้นไม้ เพราะถ้าต้นไม้ต้นใดต้นหนึ่งไร้ซึ่งราก แน่นอนต้นไม้ต้นนั้นก็จะตาย นอกซะจากจะเป็นส่วนสำคัญในการทำให้ต้นไม้ต้นนั้นยืนกรานได้แล้ว รากก็ยังมีส่วนสำคัญในการรับสารอาหารต่างๆไม่ว่าจะเป็นน้ำ ปุ๋ย หรือแร่ธาติอื่นๆ ซึ่งสารอาหารที่ต้นไม้ได้รับนั้นก็มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้ต้นไม้ต้นนั้นเจริญเติบโต หากรากได้รับสารอาหารที่ดี ต้นไม้ต้นนั้นก็จะเจริญเติบโตอย่างสวยสดงดงามอีกทั้งยังสามารถผลิใบ ผลิดอก และออกผล ซึ่งมันสามารถที่จะยังประโยชน์ให้แก่สิ่งมีชีวิตอื่นๆ อาทิเช่น ให้ความร่มรื่น เป็นอาหาร เป็นต้น แต่ในทางกลับกัน ถ้าหากรากได้รับสารอาหารที่ไม่ดีหรือเป็นพิษ ต้นไม้ต้นนั้นก็ไม่สามารถที่จะเจริญเติบโต มันไม่สามารถที่จะผลิใบ ผลิดอกออกผล อีกทั้งยังไม่สามารถที่จะยังประโยชน์ให้แก่สิ่งมีชีวิตอื่นอีกด้วย สุดท้ายมันก็จะเหี่ยวเฉาและตายในที่สุด

เปรียบมุสลิมดังต้นไม้ต้นหนึ่ง รากก็คือสมอง ใบ ดอกและผลนั้นคือพฤติกรรม ส่วนสารอาหารที่ได้รับนั้นก็เสมือนกับเป็นความรู้ต่างๆ สมองของมนุษย์ถือว่าเป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุด ซึ่งสมองมีหน้าที่ควบคุมและสั่งการการเคลื่อนไหว พฤติกรรม และภาวะธำรงดุล ดังนั้น สมองเราจะสั่งการไปในทิศทางใดนั้นก็ขึ้นอยู่กับความรู้ที่ได้รับ หากสมองของมุสลิมคนใดคนหนึ่งได้รับความรู้ที่ดี ความรู้ที่ถูกต้องตามหลักการอิสลาม สมองก็จะสั่งการให้มุสลิมคนนั้นปฏิบัติในสิ่งที่ดีงาม ปฏิบัติในสิ่งที่พระองค์อัลลอฮฺทรงสั่งใช้และพอพระหทัย และพฤติกรรมที่แสดงออกมาจากตัวเขาก็จะเป็นพฤติกรรมที่ดีงาม อีกทั้งความรู้ที่เขาได้รับนั้นก็จะยังประโยชน์ให้แก่คนอื่นๆอีกด้วย ในทางกลับกัน หากสมองของมุสลิมคนหนึ่งได้รับความรู้ที่ไม่ดี ความรู้ที่ไม่ถูกต้อง หรือความรู้ที่ผิดกับหลักการอิสลาม สมองก็จะสั่งการให้มุสลิมคนนั้นปฏิบัติตัวในสิ่งที่ไม่ดีงามและผิดหลักการศาสนาอิสลาม กระทำในสิ่งที่พระองค์อัลลอฮฺทรงห้ามและทรงโกรธกริ้ว ซึ่งพฤติกรรมที่แสดงออกมาจากตัวเขานั้นก็จะเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีงาม อีกทั้งความรู้ที่เขาได้รับนั้นก็จะไม่ยังประโยชน์ให้แก่คนอื่นๆอีกด้วย

ดังนั้น ในฐานะที่เราเป็นมุสลิมคนหนึ่ง การศึกษาหาความรู้ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ดังที่พระองค์อัลลอฮฺ(ซบ.)ได้ตรัสไว้ในอัลกุรอานว่า "จงอ่าน" และท่านนบี(ซล.)ก็ได้กล่าวไว้ว่า "การศึกษาหาความรู้ถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับมุสลิม" และที่สำคัญคือ ความรู้ที่เราศึกษานั้นก็ควรเป็นความรู้ที่ถูกต้อง เป็นความรู้ที่ไม่ขัดกับศาสนาอิสลาม ไม่ใช่เป็นความรู้ที่บิดเบือนไปจากความจริง หรือความรู้ที่ผิดต่อหลักการศาสนาอิสลาม เพราะความรู้จะเป็นตัวที่สามารถควบคุมพฤติกรรมของเราว่าจะไปในแนวทางหรือทิศทางใด การที่มุสลิมคนใดคนหนึ่งจะมีความประพฤติที่ดีหรือไม่ดีนั้นก็ขึ้นอยู่กับความรู้ที่เขาได้รับ เพราะความรู้จะนำหน้าคำพูดและการปฏิบัติเสมอ ดังที่ท่านอีหม่ามชาฟีอีย์ รอฮีมาฮุลลอฮฺ ได้กล่าวไว้ว่า

((العلم قبل القول والعمل))

"ความรู้นั้นจะต้องมาก่อนการพูดและการปฏิบัติ"

والله أعلم بالصواب

หมายเลขบันทึก: 586901เขียนเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2015 20:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2015 20:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท