ส่วนที่ 2 ผู้เรียนควรรู้อะไรเกี่ยวกับคำ (What might learners need to know about a word?)
โดยทั่วไปแล้ว เนื้อหาที่ผู้เรียนจะเรียนขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่ที่นำเสนอในที่นี้ก็คือ สิ่งที่พิจารณาแล้วเห็นว่ามีความสำคัญที่สุดจริงๆ
2.1 คำนี้มีความหมายว่าอะไร (What does it mean?)
ฉันยังนึกไม่ออกเลยว่าการที่ให้ผู้เรียนทดลอง และใช้คำโดยที่ไม่รู้ความหมายจะเป็นอย่างไร ครูควรให้ความหมายของคำอย่างชัดเจน และทำให้ผู้เรียนทราบความหมาย โดยการให้ตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องนั้น (ในส่วนที่ 1 ได้ให้เทคนิคในการบอกความหมายไว้แล้ว)
2.2 ส่วนต่างๆของคำ (the form)
ในการที่จะใช้คำศัพท์อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้เรียนจำเป็นต้องรู้ว่าคำศัพท์คำนั้นมีส่วนประกอบต่างๆเป็นอะไร เช่นเป็นกริยา, คำนาม, หรือคำคุณศัพท์ ฯลฯ บางครั้งอาจมีประโยชน์ ถ้าให้ผู้เรียนได้ทบทวนส่วนต่างๆของคำในภาษาแม่ด้วย
2.3 ออกเสียงอย่างไร (How is it pronounced?)
การออกเสียงอาจเป็นปัญหากับผู้เรียน เพราะว่าคำศัพท์ในภาษาอังกฤษการสะกดไม่ตรงกับการออกเสียง กิจกรรมในชั้นเรียนที่ง่ายมากๆก็คือให้ผู้เรียนท่องคำศัพท์ซ้ำแล้วซ้ำอีก (drill) ที่ครูอาจเห็นว่ามีปัญหาในการออกเสียง
2.4 สะกดอย่างไร (How is it spelled?)
เช่นเดียวกับการออกเสียง บางครั้งการสะกดก็เป็นปัญหาในภาษาอังกฤษเช่นเดียวกัน ถ้าจะให้ดี ครูควรสอนเรื่องการออกเสียงก่อน แล้วตามด้วยการสะกด
2.5 คำศัพท์นั้นมีกระสวนทางไวยากรณ์ที่พยากรณ์ได้หรือไม่ (Does it follow any predictable grammatical pattern?)
เช่น คำว่า man-men เป็นตัวอย่างของคำพหูพจน์ที่แตกต่างจากปกติ คำว่า information เป็นคำนามที่นับไม่ได้ แต่ภาษาแม่บางครั้งอาจเป็นคำนามนับได้ก็ได้ คำว่า depend ต้องมีคำบุรพบท on ต่อท้ายเสมอ
หนังสืออ้างอิง
Adam Simpson's blog. (2014). I need to teach vocab but I don't even know how to begin! This post's for you. http://www.teachthemenglish.com/2014/02/i-need-to-teach-vocab-but-i-dont-even-know-how-to-begin-this-posts-for-you/
การสอนแต่ละอย่างก็มีหลักของตัวเองนะคะ
พี่อ่านแล้วค่อยๆ คิดเทียบเคียงกับประสบการณ์การเรียนของตัวเองก็นึกไม่ออกเสียแล้ว
ไม่รู้ว่าหลักการนี้่จะนำไปสอนภาษาไทยได้หรือไม่ พี่กำลังสนใจว่าเด็กรุ่นใหม่รู้คำ และใช้คำภาษาไทยน้อยลงเรื่อยๆ
ต้องทดลองดูนะครับ