วลีเด็ด...มหาเศรษฐี(๔)

๑๕/๒/๒๕๕๘

**********

วลีเด็ด...มหาเศรษฐี(๔)

ได้เห็นภาพข่าวของ msn ประเทศไทย เมื่อเช้าวันที่ 11/2/2558ในหมวดการเงินและการลงทุน ให้ชื่อว่า "วลีเด็ดสู่ความสำเร็จมหาเศรษฐี" จึงคลิกเข้าไปดู และเห็นว่า "วลีเด็ด" ของแต่ละท่านนั้นน่าจะเก็บมาไว้เป็นบันทึกอย่างยิ่ง เพื่อเตือนตนเอง และเป็นแบบอย่างทางแนวคิด สติปัญญา พร้อมกับเป็นตัวอย่างของผู้ที่ประสบความสำเร็จในระดับโลกบางท่านก็ยังไม่รู้จักและคุ้นชื่อดี จึงได้พยายามหาความรู้ประวัติโดยย่อของแต่ละท่าน จากเว็บไซต์วิกิพีเดีย สารานุกรมอิสระ เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง และหนังสืออื่น ๆ เพิ่มเติมอีกบางส่วน ดังต่อไปนี้...

แจ็ค เวลช์

แจ็ค เวลซ์ หรือ จอห์น ฟรานซิส เวลซ์ จูเนียร์(John Francis Welch, Jr.) เกิดเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ค.ศ.1935(2478) ที่ พีบอดี้(Peabody) เมืองซาเลม รัฐแมสซาชูเสตส์ (Massachusetts) ประเทศสหรัฐอเมริกา บิดาของเขาชื่อ จอห์น ทำงานที่บริษัทรถไฟ Boston and Maine Corporationส่วนแม่ชื่อเกรซ ทำงานเป็นแม่บ้าน เวลซ์ มีเชื้อสายไอริช ปู่ย่าตายาย บิดามารดาของเขาเป็นชาวไอริชตัวเขาเองทำงานที่บริษัท GE มีภรรยา 3 คน คือ คนแรกโคโคลีน เวลซ์ (Carolyn Welch ปี ค.ศ.1959–1987)มีลูกด้วยกัน 4 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 2 คน อยู่กันมา 28 ปี ก็หย่าร้างคนที่สอง เจนบีสลีย์ (Jane Beasley Welch ปี ค.ศ.1989–2003) เป็นนักกฏหมายผู้เชี่ยวชาญด้านการควบรวมกิจการ สุดท้ายก็หย่าร้าง คนที่ 3 ซูซี่ เวตลอเฟอร์ (Suzy Wetlaufer Welch ปี ค.ศ. 2004–ปัจจุบัน) อดีตบรรณาธิการนิตยสาร Harvard Business Review เป็นผู้ร่วมเขียนหนังสือในชื่อ "winning" กับเวลซ์ด้วย

วัยเด็กของเวลซ์ ขณะเรียนที่โรงเรียนมัธยมระดับกลางและไฮสกูลนั้นเขาเป็นเด็กที่ส่งเสียงดังที่สุดในห้องเรียน จะทำงานในช่วงฤดูร้อนหรือรู้จักหาเงินในช่วงปิดเทอม เช่น เป็นแคดดี้สนามกอล์ฟ เป็นเด็กส่งหนังสือพิมพ์ เป็นพนักงานขายรองเท้า และเป็นเด็กจัดเรียงอักษรในโรงพิมพ์(drill press operator: ไม่แน่ใจว่าแปลถูกหรือเปล่า) เขาเข้าร่วมชมรมกับซาเลมไฮสกูลคือทีมนักกีฬาเบสบอล ฟุตบอล และกีฬาฮอกกี้รุ่นไลท์เวทด้วย จัดว่าเป็นเด็กกิจกรรมของโรงเรียนและเป็นเด็กที่รู้จักหาเงินใช้เองตั้งแต่ยังเล็กอีกคนหนึ่ง

วัยนักศึกษา เวลซ์เรียนระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยแมสซาชูเซตส์ ปลายปีสุดท้ายทางมหาวิทยาลัยได้ให้เขาทำงานทางวิศวกรรมเคมีใน Sunoco PPG และอุตสาหกรรมในช่วงฤดูร้อนคล้ายกับเป็นการฝึกงานก่อนจบ ต่อมาในปีที่สองของมหาวิทยาลัย เขาได้เข้าเป็นสมาชิกของกลุ่ม Phi Sigma Kappa ที่มีอุดมการณ์ว่า "สังคมเพื่อส่งเสริมคุณธรรมและวัฒนธรรมการเรียนรู้ทางสังคม." เป็นองค์กรเก่าแก่ของนิสิตรุ่นอาวุโสที่ก่อตั้งมาครั้งแรกโดยหกแกนนำเมื่อปี ค.ศ.1873(พ.ศ.2416)...

เวลซ์จบการศึกษาในปี ค.ศ.1957(2518) ได้รับปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิตวิศวกรรมเคมี เมื่อเรียนจบแล้ว บรรดาคณาจารย์ที่สอนเขาก็ส่งเสริมเขาด้วยการจัดหาทุนให้เขาไปเรียนต่อทางด้านวิศวกรรมเคมีในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยอิลลินอยล์ และเรียนจบในปี ค.ศ.1960 ภายในสามปีเรียนจบสองหลักสูตรถือว่าเรียนเก่งมากทีเดียว

หลังจากที่จบแล้วก็ได้เข้าทำงานกับบริษัท General Electric (GE) ในปี ค.ศ.1960 เขาเริ่มงานด้านพลาสติกในฐานวิศวกรที่เมืองพิตส์ฟีลด์ ได้รับเงินเดือนครั้งแรก 10,500 ดอลล่าร์สหรัฐ เท่ากับคนอื่นๆ เขาไม่พอใจระบบการทำงานแบบข้าราชการที่เข้มงวดและช้าอืดอาด จึงยื่นใบลาออก แต่รองประธาน() ไม่ยอมปล่อยให้เขาลาออกไปได้ ดึงเวลซ์กลับเข้ามาทำงานต่อพร้อมกับปรับเงินเดือนและตำแหน่งที่สูงขึ้นให้

ในปี ค.ศ.1968 เขาได้รับตำแหน่งผู้จัดการที่มีอายุน้อยที่สุดคือมีอายุเพียง 33 ปีเท่านั้น ได้รับเลือกให้เป็นรองประธานในปี ค.ศ.1972 จากนั้นก็ขึ้นเป็นรองประธานกรรมการบริหารในปี ค.ศ.1979 ต่อมาในปี ค.ศ.1981 เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานกรรมการบริหาร และเป็นซีอีโอของบริษัท GEในขณะที่เขามีอายุเพียง 45 ปีเท่านั้น เขาเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีการจัดตำแหน่งกันมาในปี ค.ศ. 1986 ได้ส่งผลให้บริษัทกลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่สุดของโลก ด้านการผลิตเครื่องใช้ ด้านเทคโนโลยีและด้านการบริการ มีมากถึง 1,999 รายการ ก่อให้เกิดรายได้กว่า 110 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ เวลช์ให้เครดิตกับ "การปฏิรูป" GE โดยการส่งเสริมการกระจายอำนาจในองค์กร รวมทั้งเน้นที่ความรวดเร็ว ความเรียบง่าย และความมั่นใจในตนเองของผู้บริหาร แต่เขาก็ยังเป็นที่รู้จักกันในนาม "นิวตรอนแจ็ค" "Neutron Jack" เพราะจำนวนของพนักงานที่ถูกไล่ออกหรือปลดออกในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งนั้นมีจำนวนมากถึง 112,000 คน

เวลซ์ขาแนะนำ "Work Out" และ "Six Sigma" คอนเซปท์ คือวิธีการแก้ไขปัญหาโดยมุ่งเป้าไปที่ผลลัพท์ที่ได้ หากผลิตภัณฑ์ใดไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อบริษัทหรือมีรายได้น้อยมากก็ให้ตัดออกไปหรือขายทิ้ง และใช้ชุดของเทคนิคซิก ซิกม่า เป็นชุดเครื่องมือสำหรับการปรับปรุงกระบวนเป็นโปรแกรมทางสถิติแบบเข้มข้นที่ทำให้การผลิตเสียหายน้อยที่สุด คือ 1 ล้านหน่วยเสียหายไม่เกิน 4 หน่วย โปรแกรมนี้ถูกพัฒนาโดยบริษัทโมโตโรล่าในปี ค.ศ. 1986 เวลซ์นำมาทำให้เป็นศูนย์กลางของกลยุทธ์ทางธุรกิจของเขาที่ บริษัท General Electric ในปี ค.ศ.1995และ ในปี 1999 เขาได้รับการขนานนามว่า "ผู้จัดการแห่งศตวรรษ" โดยนิตยสารฟอร์จูน เมื่อเขาเกษียณอายุการทำงานในปี 2001 บริษัทมีมูลค่าสูงที่สุดในโลกณ เวลานี้เวลซ์อายุย่าง 80 ปีแล้ว

รายละเอียดด้านการบริหารติดตามอ่านได้ในเว็บไซต์ที่อ้างอิง และหนังสือที่เกี่ยวข้อง ประโยคเด็ดของเขาเวลามีคนสัมภาษณ์เขามักจะพูดว่า "ผมไม่ได้บริหาร แต่ผมนำพาจีอีต่างหาก" ส่วนวลีเด็ดสู่ความสำเร็จมหาเศรษฐี ที่กล่าวถึงแต่เบื้องต้น คือ...

"รักภารโรงเข้าไว้"

พอมาถึงตอนนี้น่าจะรู้นะครับว่า...ภารโรง...หมายถึงใคร?

……………….

อ้างอิง

อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่…

http://en.wikipedia.org/wiki/Jack_Welch

http://www.positioningmag.com/content/jack-welch/

http://www.answers.com/topic/jack-welch

https://www.gotoknow.org/posts/276402

วิกรม กรมดิษฐ์. มองซีอีโอโลก ภาค 9 ผู้บุกเบิก.กรุงเทพฯ: โพสต์บุ๊กส์, 2554.

กิฟฟอร์ด, โจนาธาน (วัฒนา มานะวิบูลย์:แปล). 100 สุดยอดผู้นำธุรกิจ. แปลมาจาก 100 Great Business Leader.กรุงเทพฯ: เนชั่นบุ๊คส์, 2557.

ขอบคุณทุกท่านที่สนใจ...ขอบคุณโกทูโนว์

["พี่หนาน"]

ขอขอบคุณคุณครู อาจารย์ คุณหมอ กัลยาณมิตรที่เคารพรักทุกท่านที่ให้กำลังใจต่อไปนี้มากครับ...

panjarat

ยายธี

ทิมดาบ

GD

อาจารย์ ลำเจียก (อ.น้อง) กำธร

….. อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/586152