๑๔/๒/๒๕๕๘
*************
วลีเด็ด...มหาเศรษฐี(๒)
ได้เห็นภาพข่าวของ msn ประเทศไทย เมื่อเช้าวันที่ 11/2/2558 ในหมวดการเงินและการลงทุน ให้ชื่อว่า "วลีเด็ดสู่ความสำเร็จมหาเศรษฐี" จึงคลิกเข้าไปดู และเห็นว่า "วลีเด็ด" ของแต่ละท่านนั้นน่าจะเก็บมาไว้เป็นบันทึกอย่างยิ่ง เพื่อเตือนตนเอง และเป็นแบบอย่างทางแนวคิด สติปัญญา พร้อมกับเป็นตัวอย่างของผู้ที่ประสบความสำเร็จในระดับโลกบางท่านก็ยังไม่รู้จักและคุ้นชื่อดี จึงได้พยายามหาความรู้ประวัติโดยย่อของแต่ละท่าน จากเว็บไซต์วิกิพีเดีย สารานุกรมอิสระ เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง และหนังสืออื่น ๆ เพิ่มเติมอีกบางส่วน ดังต่อไปนี้...
บิล เกตส์
วิลเลียม เฮนรี เกตส์ ที่สาม เกิด 28 ตุลาคม ค.ศ. 1955 (พ.ศ.2498) หรือที่มักเป็นที่รู้จักในชื่อ บิล เกตส์ หรือเรียกกันสั้น ๆ ว่า เกตส์ (GATES) เกิดมาทันยุคของคอมพิวเตอร์เมนเฟรมซึ่งน้อยคนนักที่จะได้สัมผัส เมื่อมีไมโครคอมพิวเตอร์เกิดขึ้น เขาจึงเป็นคนแรกๆ ที่มองเห็นศักยภาพของมัน เขากับ พอล แอลเลน เพื่อนรุ่นพี่ ได้พากันบุกเบิกด้านคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล( PC ) ร่วมกันเขียนต้นแบบของภาษาเบสิกขึ้นมา เพื่อให้ผู้ที่ไม่มีพื้นฐานสามารถเขียนชุดคำสั่งคอมพิวเตอร์ได้ ทั้งสองยังได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชัน อีกด้วย
วัยเด็กเกตส์ เข้าเรียนที่โรงเรียนประถมเลคไชด์ เป็นโรงเรียนชั้นดีระดับลูกหลานของคนมีอันจะกิน ได้มีประสบการณ์กับคอมพิวเตอร์เป็นครั้งแรกคือ เครื่องโทรพิมพ์รุ่นแรก ๆ ที่ทำให้เข้าถึงคอมพิวเตอร์เมนเฟรมได้ง่าย และได้เรียนรู้การเขียนโปรแกรมภาษาเบสิกตั้งแต่ช่วงนี้ พร้อมกับได้คบหากับ พอล แอน เลน ซึ่งติดคอมพิวเตอร์อย่างงอมแงม และช่วยกันค้นคว้าเรียนรู้การเขียนภาษาเบสิกอย่างจริงจัง
วัยหนุ่ม เกตส์ได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ช่วงนี้ได้ข่าวว่าบริษัท MITS ได้เปิดตัวไมโครคอมพิวเตอร์ ชื่อ Altair 8800 ซึ่งขายดีมาก เขากับเพื่อนต่างวัยจึงขอเข้าพบกับเจ้าของบริษัทคือ เอ็ด โรเบิร์ตส ยื่นข้อเสนอว่า เขาทั้งสองสามารถเขียนโปรแกรมคำสั่งภาษาเบสิกที่จะทำงานกับ Altair ได้ ทั้งที่ความจริงยังไม่มีการเขียนเลย พอเจ้าของบริษัทตอบรับข้อเสนอ ทั้งสองจึงกุลีกุจอออกแบบโปรแกรม ทำงานแข่งเวลากันแบบหามรุ่งหามค่ำ จนสามารถสร้างโปรแกรมภาษาเบสิกที่ใช้งานกับไมโครคอมพิวเตอร์ได้ และโปรแกรมนี้เองที่สามารถพัฒนามาเป็นไมโครซอฟท์เบสิกในเวลาต่อมา
เกตส์ และ อันเลน ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ และให้บริษัท MITS เดิมได้ลิขสิทธ์การใช้ซอฟท์แวร์ ต่อมาก็ได้พัฒนาโปรแกรมคำสั่งภาษาอื่นๆ เพื่อใช้กับไมโครคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่อีก เช่น ทำให้กับบริษัทแทนดี้ เป็นต้น ต่อมาก็พัฒนาซอฟแวร์ให้กับบริษัทไอบีเอ็ม พัฒนาโปรแกรมแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ เช่น สเปรดชีต เวิร์ดโปรเซสซิง ไมโครซอฟท์เอกซ์เซล และเวิร์ด เป็นต้น ในปี 1985 (2528) บริษัทได้ออกระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นแรกที่ประสานการทำงานด้วยภาพ หรือระบบปฏิบัติของวินโดว์ส(windows) นั่นเอง
ความนิยมด้านคอมพิวเตอร์ในสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นมีสูงมากขึ้น บริษัทไมโครซอฟท์ ได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน การพัฒนาโปรแกรม และระบบอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ทำให้ บิล เกตส์ กลายเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง และเป็นบุคคลที่ได้ชื่อว่ารวยที่สุดในโลกหลายปีติดต่อกัน คงมีน้อยคนนักที่ไม่รู้จักและคุ้นเคยชื่อนี้ (เกตส์ อีกนัยหนึ่ง มีความหมายว่า "ประตู" มีหลายประตูหรือมีหลายทางที่จะเลือกสรรนะครับ) โดยวลีเด็ดของเขาที่กล่าวถึงก็คือ...
"การเฉลิมฉลองความสำเร็จเป็นสิ่งที่สามารถกระทำได้ แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ เรียนรู้บทเรียนจากความล้มเหลว"
………………………………..
อ้างอิง
http://en.wikipedia.org/wiki/Bill_Gates
กิฟฟอร์ด, โจนาธาน (วัฒนา มานะวิบูลย์:แปล). 100 สุดยอดผู้นำธุรกิจ. แปลมาจาก 100 Great Business Leader.กรุงเทพฯ: เนชั่นบุ๊คส์, 2557.
ขอบคุณทุกท่านที่สนใจ...ขอบคุณโกทูโนว์
การเรียนรู้จากความล้มเหลวจะทำให้เราไม่ทำผิดพลาดซ้ำนะค่ะ ขอบคุณบทความดีๆค่ะ
ขอบคุณน้องวิราวรรณ สอนแปงด้วยเหมือนกันนะครับ ที่ให้กำลังใจและแสดงความเห็นร่วมกัน
เราไม่ค่อยล้มเหลว ทำให้ขาดบทเรียนเหมือนกันนะค
ขอบคุณกัลยาณมิตรที่ให้กำลังใจทุกท่านมากนะครับ...
มีสิ่งใดขาดตกบกพร่องไปก็ช่วยเสริมเติมเต็มกันได้นะครับ...
….. อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/586051
ขอบคุณอ.แก้ว..อุบลที่กรุณาติดตามอ่านตลอดอีกท่านหนึ่งด้วยครับ