สมรรถนะของฝ่ายบุคคลพึงมี 6 ประการคือ เป็นผู้ที่น่าเชื่อถือ นักสร้างนวัตกรรมและบูรณาการ นักวางกลยุทธ์ ผู้สร้างขีดความสามารถ แชมป์การบริหารการเปลี่ยนแปลง และผู้ให้การสนับสนุนเทคโนโลยี
สมรรถนะของฝ่ายบุคคล
Global HR Competencies
พันเอก มารวย ส่งทานินทร์
[email protected]
14 มกราคม 2558
บทความเรื่องสมรรถนะของฝ่ายบุคคลนี้ นำมาจากหนังสือเรื่อง
Global HR Competencies: Mastering Competitive Value from the Outside In ประพันธ์โดย Dave Ulrich, Wayne Brockbank, Jon Younger, และ Mike Ulrich
ผู้ที่สนใจเอกสารแบบ PowerPoint (PDF file) สามารถ Download ได้ที่
http://www.slideshare.net/maruay/global-hr-competencies
ตอนที่ 1 การเปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจและการตอบสนองของฝ่ายบุคคล
โลกในปัจจุบัน
- มีการเชื่อมโยงถึงกันสะดวกขึ้น มีการลงทุนข้ามชาติเพิ่มขึ้น
- ประเทศกำลังพัฒนามีการเจริญเติบโต และมีประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
- มีการออกกฎหมายควบคุมเพื่อความยั่งยืนของโลก
- มีตลาดเกิดใหม่ และการเปลี่ยนแปลงจากค่าแรงราคาถูก มาเป็นสินค้าที่มีคุณภาพและมีนวัตกรรม
- การแข่งขันทางการตลาด มีกฎควบคุมมากขึ้น
- การติดต่อสื่อสารราคาถูกลง และมีความเร็วเพิ่มขึ้น
- ชนชั้นกลางมีกำลังซื้อมากขึ้น โดยร้อยละ 80 มาจากประเทศแถบเอเชีย
ความได้เปรียบในการแข่งขัน เป็นสิ่งที่องค์กรต้องสร้างขึ้นมา จากการตั้งคำถามเหล่านี้คือ :
- องค์กรมีวัฒนธรรมที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และการเรียนรู้หรือไม่?
- องค์กรมีวัฒนธรรมที่มีความสามารถในการอ่อนตัว การปรับตัว และความคล่องตัวหรือไม่?
- องค์กรมีวัฒนธรรมด้านความคล่องแคล่ว รวดเร็ว และเป็นเชิงรุกหรือไม่?
จุดมุ่งหมายของฝ่ายบุคคล
-
ต้องมีความรับผิดชอบในประเด็นคนเก่งและประเด็นขององค์กร ประเด็นคนเก่งคือเสาะหาคนเก่ง ที่ดีที่สุดของอุตสาหกรรม ในสายตาของลูกค้าและความต้องการด้านการแข่งขัน ประเด็นขององค์กรคือ การทำให้บุคลากรทำงานร่วมกัน มีวิธีคิด มีพฤติกรรมร่วมกัน ก่อเกิดความสามารถในการแข่งขัน
-
มีส่วนในการเพิ่มรายได้ให้กับองค์กร หลักเศรษฐศาสตร์กล่าวไว้ว่า การกระทำใดในองค์กร ที่ไม่ได้นำเงินสดเข้าองค์กร เป็นการกระทำที่สูญเปล่า นั่นคือผลิตภัณฑ์ที่ผลิตออกมาแล้ว ไม่มีใครต้องการ มีค่าเท่ากับศูนย์ทางเศรษฐกิจ ดังนั้นฝ่ายบุคคลต้องเห็นตลอดเป็นแนวทาง (line of sight) ถึงลูกค้าภายนอกด้วย
-
สร้างทรัพย์สินที่จับต้องไม่ได้และความยั่งยืนขององค์กร เช่น:
- มีผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอและพยากรณ์ได้
- สร้างเสริมกลยุทธ์เพื่อธุรกิจในอนาคต สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า สร้างนวัตกรรม และการขยายตัวสู่ภูมิภาคอื่น ๆ
- ลงทุนในความสามารถหลัก (core competencies)
- สร้างความสามารถขององค์กร เช่น ความร่วมมือ ความรวดเร็ว ความรับผิดชอบ การเรียนรู้ ภาวะผู้นำ และการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
-
ฝ่ายบุคคลควรมองตนเองว่าเป็นพื้นฐานในการสร้างความสามารถในการแข่งขัน และมีแนวทางปฏิบัติให้สอดคล้องกับแนวคิดนี้
การปฏิรูปสมรรถนะของฝ่ายบุคคล
1987 Model
- สมรรถนะของฝ่ายบุคคลมี 3 ประการคือ ความรู้ทางธุรกิจ การทำหน้าที่ฝ่ายบุคคล และ บริหารการเปลี่ยนแปลง (knowledge of the business, delivery of HR practices, and management of change)
- ฝ่ายบุคคลเริ่มมีบทบาท ในการบริหารงานขององค์กร
1992 Model
-
ความรับผิดชอบส่วนบุคคล (personal credibility) เป็นบทบาทที่เสริมเข้ามาในฝ่ายบุคคล นั่นคือการทำงานร่วมกับผู้นำระดับสูง มีการติดต่อสื่อสารที่ดี สร้างผลลัพธ์อย่างมีคุณธรรม
- การบริหารการเปลี่ยนแปลงมีบทบาทมากขึ้น ฝ่ายบุคคลเริ่มสนใจด้านกลยุทธ์ขององค์กร เพิ่มจากการดูด้านการปฏิบัติการ
1997 Model
-
การบริหารวัฒนธรรม (cultural management) เป็นบทบาทเพิ่มเติมของฝ่ายบุคคล
- ฝ่ายบุคคลเป็นผู้ระบุและส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กร ที่ช่วยให้องค์กรบรรลุกลยุทธ์ที่วางไว้ โดยการรวบรวมความรู้ รูปแบบของความคิด และการบูรณาการของการปฏิบัติการ
- ในองค์กรที่เป็นเลิศ ฝ่ายบุคคลจะมีความรู้เกี่ยวกับลูกค้า คู่แข่ง แนวโน้มของตลาด ในระดับโลก มากกว่าองค์กรทั่วไป นั่นคือ มีแนวทางการมองถึงนอกองค์กรด้วย (an external line of sight)
2002 Model
-
บทบาทในการร่วมกำหนดกลยุทธ์ขององค์กร (strategic contributor)
- เป็นการบูรณาการของการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ และความต้องการของตลาด
- ความต้องการของตลาด เป็นความรู้ใหม่ของฝ่ายบุคคล ที่ต้องรู้สิ่งแวดล้อมภายนอก สิ่งแวดล้อมภายในทั้งองค์กร เครื่องมือทางการตลาด และข่าวสารที่สำคัญทางการตลาด
- การทำหน้าที่ดังกล่าว ทำให้ฝ่ายบุคคลมีส่วนช่วยองค์กร ในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของลูกค้า การแข่งขัน และความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
2007 Model
-
การสร้างขีดความสามารถขององค์กร (organization capabilities) เป็นหน้าที่สำคัญต่อของฝ่ายบุคคล มี 3 ประการคือ ประการแรก การสร้างกลยุทธ์การมุ่งเน้นลูกค้า ประการที่สอง การบริหารการเปลี่ยนแปลง ประการที่สาม การบริหารคนเก่งให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ขององค์กร
- การทำงานอย่างบูรณาการของฝ่ายบุคคล ทำให้ทุกฝ่ายมีความคาดหวังกับฝ่ายบุคคลมากขึ้น
- มีแนวโน้มเรื่องการบริหารคนเก่ง (talent management) กับการออกแบบขององค์กร (organization design) อย่างมีความสำคัญ ที่ส่งผลต่อธุรกิจ
2012 Model
- ฝ่ายบุคคล มี 6 องค์ประกอบของสมรรถนะที่สำคัญ คือ
1. เป็นผู้ที่น่าเชื่อถือ (Credible activist) คือทำในสิ่งที่พูด ทำให้เกิดความไว้วางใจ มีทักษะในการสร้างปฏิสัมพันธ์กับบุคคล มีความอ่อนตัวกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย มีอิทธิพลที่มีผลต่อการสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจ มีการตัดสินใจที่ใช้ข้อมูล และใช้ความคิดอย่างรอบคอบ
2. เป็นนักกำหนดกลยุทธ์ (Strategic positioner) มีความเข้าใจบริบทของธุรกิจระดับโลก ทั้งด้านสังคม การเมือง เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี ภูมิประเทศ และสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการวางแผนกลยุทธ์
- มีความเข้าใจโครงสร้างในอุตสาหกรรมของตนเอง พลวัตของการแข่งขันของตลาด รวมทั้งแนวโน้มของลูกค้า คู่แข่งขัน และผู้ส่งมอบ สามารถนำความรู้มาพัฒนาเป็นวิสัยทัศน์ขององค์กร
- มีส่วนร่วมในการพัฒนากลยุทธ์ด้านการมุ่งเน้นลูกค้า กำหนดเป้าประสงค์ และแปลงกลยุทธ์เป็นแผนปฏิบัติการ
3. เป็นนักสร้างขีดความสามารถ (Capability builder) ฝ่ายบุคคลเป็นผู้กำหนด ตรวจสอบ และควบคุม ขีดความสามารถ ซึ่งเป็นสิ่งที่องค์กรถนัดหรือทำได้ดีที่สุด เช่น การสร้างนวัตกรรม ความรวดเร็ว การมุ่งเน้นลูกค้า เป็นต้น
- ฝ่ายบุคคลสามารถช่วยผู้จัดการสายงานต่าง ๆ ในการกำหนดขีดความสามารถของบุคลากร เพื่อใช้สร้างคุณค่าให้กับองค์กร
4. เป็นแชมป์การบริหารการเปลี่ยนแปลง (Change champion) ฝ่ายบุคคลเป็นผู้สร้างความสามารถในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงให้กับองค์กร เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้อย่างยั่งยืน
- การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นต้องอาศัยความจริงทางธุรกิจ และเอาชนะแรงต่อต้านการเปลี่ยนแปลง โดยสร้างความผูกพันกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญ และมีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติอย่างจริงจัง
- การเปลี่ยนแปลงเกิดความยั่งยืน ทำได้โดยจัดสรรทรัพยากรคือ เวลา คน เงิน และสารสนเทศ อีกทั้งมีการเรียนรู้ทั้งจากความสำเร็จและความล้มเหลว
5. เป็นนักนวัตกรรมและนักบูรณาการ (HR innovator and integrator) ฝ่ายบุคคลมีความสามารถในการบูรณาการ การปฏิบัติทางบุคลากร และประเด็นสำคัญทางธุรกิจ
- มีการลำดับความสำคัญของผลลัพธ์ ที่เกี่ยวข้องกับขีดความสามารถไปสู่การปฏิบัติ อย่างมีวินัยและมีความสม่ำเสมอ ทำให้ผลลัพธ์ขององค์กรออกมาได้ดี
- มีการสร้างนวัตกรรม ของฝ่ายบุคคล กระบวนการ และโครงสร้าง ที่ส่งผลต่อผลลัพธ์ทางธุรกิจ
6. เป็นผู้สนับสนุนเทคโนโลยี (Technology proponent) ระบบสารสนเทศของฝ่ายบุคคล ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของสวัสดิการ การจ่ายเงินเดือน ทุนด้านสุขภาพ การบันทึกประวัติ ฯลฯ
- ในองค์กรที่เป็นเลิศ ฝ่ายบุคคลมีการใช้เทคโนโลยีเพิ่มอีก 2 ประการ ประการแรกคือ โลกสังคมออนไลน์ ที่ช่วยให้บุคลากรมีการติดต่อกันภายใน รวมถึงการติดต่อของบุคลากรกับลูกค้าภายนอกด้วย ประการที่สองคือ ฝ่ายบุคคลมีบทบาทมากขึ้นทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ในการคัดกรองสารสนเทศที่นำมาเป็นความรู้ขององค์กร และมีการแบ่งปันความรู้ในองค์กรด้วย
- บทบาทใหม่ของฝ่ายบุคคลทางด้านเทคโนโลยีจึงเป็นการเพิ่มคุณค่าให้กับองค์กร
สรุปตอนที่ 1
- ฝ่ายบุคคลต้องมุ่งเน้นการมองจากภายนอกเข้ามาในองค์กร
- สร้างความสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้งภายนอกและภายในองค์กร
- เป็นผู้นำและผู้บริหารการเปลี่ยนแปลง
- สร้างขีดความสามารถให้องค์กร โดยการปฏิบัติของฝ่ายบุคคลที่เป็นการสร้างนวัตกรรมและการบูรณาการ
- มีการใช้เทคโนโลยีอย่างมีกลยุทธ์ เพื่อความมีประสิทธิภาพ และการเชื่อมโยงขององค์กร
ตอนที่ 2 ความท้าทายทางธุรกิจ สมรรถนะของฝ่ายบุคคล และความสามารถในการแข่งขัน ของ 9 ภูมิศาสตร์ที่สำคัญ
- เป็นผลจากการทำวิจัย ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั่วโลก 6 ครั้ง (1987, 1992, 1997, 2002, 2007, 2012) โดยใช้ 6 สมรรถนะของฝ่ายบุคคลพึงมี (2012 Competency Model) เป็นหลักในการประเมินผล
อาฟริกา เป็นทวีปใหญ่ลำดับที่สองของโลก มีประชากรรวมกันประมาณพันล้านคน
- หลังสงครามโลกครั้งที่สอง มีประเทศเกิดใหม่ประกาศอิสรภาพมาก ปัจจุบันมีเม็ดเงินลงทุนจากเอเชียเพิ่มขึ้น
- มีจุดแข็งคือ ฝ่ายบุคคลมีความรับผิดชอบ มีการบริหารการเปลี่ยนแปลง และมีกลยุทธ์
- โอกาสพัฒนาคือ ด้านเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน และความน่าเชื่อถือ
- สรุป ฝ่ายบุคคลในอาฟริกามีพื้นฐานที่ดี น่าจะมีอนาคตที่ดี จากสถิติ พบว่า 14% (0.144 R2) ของสมรรถนะฝ่ายบุคคลทั้ง 6 ประการ มีผลกระทบต่อด้านธุรกิจ
ออสเตรเลีย เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดและเป็นทวีปที่เล็กที่สุดในโลกมีประชากร 22.5 ล้านคน คิดเป็น 0.3% ของพลเมืองโลก ฝ่ายบุคคลมีการศึกษาสูง ส่วนมากเป็นเพศหญิง
นิวซีแลนด์ บุคลากรที่ทำงาน 33% เป็นต่างชาติ และ 71% อยู่ภาคบริการ ฝ่ายบุคคลเริ่มมีการพัฒนา
- ฝ่ายบุคคลทั้งสองประเทศไม่มีความแตกต่าง แต่องค์กรในออสเตรเลียมีขนาดใหญ่กว่า
- จุดแข็งคือ การสร้างนวัตกรรมและการบูรณาการ การสร้างกลยุทธ์ และการบริหารการเปลี่ยนแปลง ส่วนโอกาสพัฒนาของฝ่ายบุคคลคือ การใช้เทคโนโลยี การจัดการกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และการนำกลยุทธ์ไปสู่แผนปฏิบัติการ
ประเทศจีน มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว มีปัญหาเรื่องมลภาวะ มีการบริโภคพลังงานและวัตถุดิบสูง มีค่าแรงถูก สวัสดิการแรงงานต่ำ ทำให้การเจริญเติบโตไม่ยั่งยืน
- สิ่งที่จีนต้องการคือ แรงงานที่มีความรู้ และเป็นคนเก่ง เพื่อเปลี่ยนจากการผลิตสินค้าราคาถูก เป็นสินค้าเทคโนโลยีที่มีคุณค่า
- ดังนั้น ฝ่ายบุคคลของจีนต้องเร่งพัฒนาตนเองใน 3 ด้านคือ การสร้างขีดความสามารถ แชมป์การบริหารการเปลี่ยนแปลง และการบริหารและพัฒนาคนเก่ง
- ข้อเสนอแนะให้ฝ่ายบุคคลคือ การเรียนรู้เรื่องธุรกิจและออกแบบฝ่ายบุคคลให้สอดคล้อง เรียนรู้เรื่องการคิดอย่างเป็นระบบ และการเรียนรู้เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ
สหภาพยุโรป มีชาติสมาชิก 27 ประเทศ ประชากร 500 ล้านคน พื้นที่รวมใกล้เคียงกับสหรัฐอเมริกา ภาษาราชการ 23 ภาษา มีอัตราคนว่างงานสูง มีเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน มีความเป็นอิสระในการเคลื่อนไหวของสินค้า บริการ บุคคล และเงินทุน
- ฝ่ายบุคคลมีลักษณะเฉพาะและหลากหลาย มีขีดสมรรถนะทั้ง 6 ประการต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโดยรวมของโลก เป็นเพราะฝ่ายบุคคลมองเฉพาะภายในองค์กรไม่ได้มองโลกภายนอก
- ดังนั้นฝ่ายบุคคลในยุโรปควรรีบปรับปรุงในเรื่อง การใช้เทคโนโลยี มีความรับผิดชอบ การสร้างนวัตกรรมและการบูรณาการ และแชมป์การบริหารการเปลี่ยนแปลง
อินเดีย เป็นประเทศที่มีพลวัตทางเศรษฐกิจมากตั้งแต่ ค.ศ. 1992 เป็นต้นมา มี GDP เป็นลำดับที่ 9 และมีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เป็นลำดับที่ 2 ของโลก
- จากการประเมินฝ่ายบุคคล พบว่ามีคะแนนสูงโดยเฉพาะความรับผิดชอบ การสร้างขีดความสามารถ การเป็นแชมป์การบริหารการเปลี่ยนแปลง และการมีนวัตกรรม
- ส่วนการมีส่วนร่วมในการวางแผนกลยุทธ์ และการใช้เทคโนโลยี ยังมีโอกาสปรับปรุง
กลุ่มประเทศลาตินอเมริกา ประกอบด้วย 20 ประเทศเอกราช ที่เคยเป็นอาณานิคมของสเปนและโปรตุเกสมาก่อน ส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาธอลิค ส่งออกแร่ธาตุต่าง ๆผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร น้ำมันและก๊าซ มีเศรษฐกิจที่ผันผวน การคอร์รัปชั่นยังคงเป็นปัญหา แรงงานมีมากแต่คนเก่งมีน้อย
- ฝ่ายบุคคลมีจุดเด่นคือ เป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบสูง (ในลาตินอเมริกา ความสัมพันธ์ส่วนตัวมีอิทธิพลสูงในการทำงาน) แต่ด้านการสร้างนวัตกรรมและการบูรณาการ ในงานฝ่ายบุคคลเป็นโอกาสในการพัฒนา และการใช้เทคโนโลยีต้องรีบปรับปรุง
กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ในช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่นานนัก มีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ เกิดความไม่สงบทางการเมืองในหลายประเทศ รวมถึงการเกิดเศรษฐกิจถดถอยของโลก ส่งผลกระทบทางลบต่อเศรษฐานะของประเทศ ที่รัฐบาลต้องจัดงบประมาณเข้ามาสนับสนุนทางธุรกิจ
- มีการขาดแคลนแรงงาน โดยเฉพาะด้านการบิน 35,000 คน การดูแลรักษาสุขภาพ 1,500,000 คน จึงต้องนำเข้าแรงงานต่างชาติจำนวนมาก คนงาน 2 ใน 3 เป็นชาย
- ความท้าทายของฝ่ายบุคคลจึงมีสูงในทุกด้าน โดยเฉพาะการสร้างนวัตกรรมและการบูรณาการ และการใช้เทคโนโลยี
อเมริกาเหนือ การถดถอยทางเศรษฐกิจของอเมริกา เริ่มในปี ค.ศ. 2007 ทำให้รัฐบาลกลางของอเมริกา ต้องอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบจำนวนมาก แรงงานมีหลายรุ่น ตั้งแต่ Mature, Baby Boomer, Gen X, Gen y และประชากรสูงอายุมีมากขึ้นเรื่อย ๆ เพศหญิงมีบทบาทในการบริหารองค์กรเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจปรับตัวจากการเป็นผู้ผลิต มาเป็นเศรษฐกิจที่ใช้ความรู้เป็นพื้นฐาน
- ฝ่ายบุคคลในอเมริกาแนวโน้มเข่นเดียวกับระดับโลก โดย 6 ปัจจัยที่ใช้ประเมิน มีค่าของความสัมพันธ์กับผลงานทางธุรกิจ (R2 = .479) สูงกว่าของระดับโลก (R2 = .425)
- สิ่งที่ฝ่ายบุคคลทำได้ดีคือ แชมป์การบริหารการเปลี่ยนแปลง การใช้เทคโนโลยี และ การสร้างขีดความสามารถ สิ่งที่ต้องปรับปรุงคือ การมีส่วนในการวางกลยุทธ์ การสร้างนวัตกรรมและการบูรณาการ และการเป็นผู้ที่น่าเชื่อถือ
ตุรกี เคยเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่คือ อาณาจักรออตโตมัน เป็นประเทศที่อยู่ระหว่างการเลือกทางเดินที่มีทั้งความเป็นตะวันตกและตะวันออก มีวัฒนธรรมที่หลากหลาย มีประชากร 75 ล้านคน เป็นมุสลิม 99.8% และเป็นชาติมุสลิมชาติเดียวใน NATO
- ฝ่ายบุคคลขึ้นกับขนาดของบริษัท เป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบสูง มีการสร้างขีดความสามารถ แชมป์บริหารการเปลี่ยนแปลง และการสร้างนวัตกรรมและการบูรณาการ
- จากข้อมูลและการสัมภาษณ์ ฝ่ายบุคคลในตุรกี มีส่วนในการพัฒนาขับเคลื่อนประเทศตุรกี ที่มีความหลากหลาย เป็นพลวัต และมีการขยายตัวของภาคธุรกิจ ซึ่งเป็นความท้าทายที่น่าสนใจ
ตอนที่ 3 การบูรณาการของความแตกต่าง
- เป็นความท้าทายของฝ่ายบุคคล ในการทำหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับ การนำ การประสานงาน การกระตุ้น การวางแนวทางให้สอดคล้อง การฝึกอบรม การพัฒนา การประเมิน และการมอบอำนาจ
- งานบริหารบุคคล ไม่ใช่งานตรงไปตรงมาเหมือนการสร้างจรวด แต่เป็นงานที่ซับซ้อน มีความท้าทาย เพราะธรรมชาติของบุคคลที่มีความหลากหลาย ทั้งวัฒนธรรมและความเชื่อ
- สมรรถนะของฝ่ายบุคคล 6 ประการที่รวบรวมมาจากการวิจัย จะช่วยยกระดับบทบาทของฝ่ายบุคคลที่มีต่อองค์กร ในการมีส่วนช่วยให้องค์กรประสบความสำเร็จ ตามวิสัยทัศน์ที่ตั้งไว้
แนวโน้มระดับโลก
- โลกในปัจจุบัน ไม่มีการแบ่งแยกระดับของประเทศอีกต่อไป (The World is Flat) ทุกองค์กรมีโอกาสในการเสาะหาคนเก่งเข้ามาร่วมงาน
- Thomas Friedman กล่าวว่า เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่คนเก่ง (Talent) มีความสำคัญกว่าภูมิภาค องค์กรพยายามหาคนเก่งในระดับนานาชาติ เพื่อให้เกิดความได้เปรียบในการแข่งขัน
- ฝ่ายบุคคลจึงมีบทบาทในการหาคนเก่งเข้ามาทำงานให้กับองค์กร และฟูมฟักให้ทำงานได้เข้ากับองค์กร
สมรรถนะฝ่ายบุคคลแบบทั่วไปและแบบเฉพาะเป็นรายบุคคล
- สมรรถนะของฝ่ายบุคคล ไม่ว่าจะอยู่ในภูมิภาคใด จากผลการวิจัยพบว่า มี 6 ประการที่สำคัญ ซึ่งฝ่ายบุคคลในทุกธุรกิจ ที่มีความเป็นเลิศระดับโลกให้ลำดับความสำคัญดังนี้
- 1. Credible Activist
- 2. HR Innovator and Integrator
- 3. Strategic Positioner
- 4. Capacity Builder
- 5. Change Champion
- 6. Technology Proponent
- ดังนั้น สมรรถนะระดับบุคคล ของฝ่ายบุคคลที่มีผลกระทบกับผลงานคือ การเป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบ การสร้างนวัตกรรมและการบูรณาการ และการมีส่วนร่วมในการวางกลยุทธ์
ผลลัพธ์ที่ได้ต่างกันออกไป
- เมื่อถามถึงสมรรถนะของฝ่ายบุคคล ที่มีผลกระทบกับผลลัพธ์ขององค์กร ว่าข้อใดมีความสำคัญ ซึ่งผลปรากฏออกมาตามลำดับคือ
- 1. HR Innovator and Integrator
- 2. Technology Proponent
- 3. Capacity Builder
- 4. Change Champion
- 5. Strategic Positioner
- 6. Credible Activist
- หมายถึงเพื่อผลลัพธ์ที่ออกมาดี ควรมุ่งเน้นสมรรถนะของฝ่ายบุคคลเรื่องการสร้างนวัตกรรมและการบูรณาการ การใช้เทคโนโลยี และการสร้างขีดความสามารถ
ฝ่ายบุคคลในอนาคตจะเป็นอย่างไร ขึ้นกับ
-
แรงผลักดันระดับโลก ของบริษัท 4 ระดับคือ ระดับชาติ ระดับนานาชาติ ระหว่างชาติ และระดับโลก
-
ความหลากหลายของประชากร ขึ้นกับภูมิภาคที่ต่างกันไป
-
การเชื่อมโยงทางเทคโนโลยี ทำให้บุคคลมีการคิดและการกระทำเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
-
การปรับตัวทางเศรษฐกิจ อัตราการเปลี่ยนแปลงในแต่ละภูมิภาคที่ไม่เท่ากัน
- ดังนั้นฝ่ายบุคคลอาจต้องปรับตัวเป็นแบบ หน่วยเล็ก ๆ (Granular) แบ่งไปตามหน่วยงานขององค์กร หรือแบ่งไปตามตลาด โดยมีจุดเน้นที่ คนเก่ง ขีดความสามารถองค์กร และภาวะผู้นำ (Talent, Organizational Capabilities, and Leadership)
คนเก่ง (Talent)
- คนเก่งมีความสำคัญต่ออนาคตขององค์กร การบริหารคนเก่งจะส่งผลต่อผลิตภาพขององค์กร ด้านการเงิน และด้านลูกค้า
- การบริหารคนเก่งของฝ่ายบุคคล แทนที่จะกระทำนาน ๆ ครั้ง ต้องปรับให้เป็นวินัยและกระทำอย่างสม่ำเสมอ ควรมีแผนระยะยาว มีความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือองค์กร เปลี่ยนจากสมดุลระหว่างงานกับชีวิตเป็นการบูรณาการงานกับชีวิต จากในประเทศเป็นระดับโลก และจากความมั่นคงของอาชีพเป็นความยืดหยุ่นในอาชีพ
- ฝ่ายบุคคลมีส่วนช่วยบริหารคนเก่ง เพื่อความยั่งยืนขององค์กร
ขีดความสามารถขององค์กร (Organizational Capabilities)
- เป็นสิ่งที่องค์กรทำได้ดี เป็นที่รู้จักโดยทั่วไป ในการส่งมอบคุณค่า
- องค์กรในอนาคตจะมีขีดความสามารถคือ ความอ่อนตัว (Flexibility) ความร่วมมือ (Collaboration) ความรับผิดชอบต่อสังคม (Social Responsibility) ความซับซ้อน (Complexity) ความมีคุณธรรม (Integrity) และการจัดการความเสี่ยง (Risk Management)
- ซึ่งฝ่ายบุคคลต้องให้ความสนใจ
ภาวะผู้นำ
(Leadership)
- การสร้างผู้นำและวางระบบการนำทั้งองค์กร เป็นบทบาทที่มีความสำคัญของฝ่ายบุคคล เพื่อความยั่งยืนอย่างยาวนานขององค์กร คือ
- การปรับเปลี่ยนจากวิธีสั่งการแล้วควบคุม (Command and Control) มาเป็นโค้ช สร้างความร่วมมือ และมีการสื่อสาร (Coach, Collaboration and Communication)
- จากเพราะเหตุใดและอะไร (Why and What) เป็นอย่างไร (How)
- จากผู้นำ (Leader) เป็นภาวะผู้นำ (Leadership)
สมรรถนะของฝ่ายบุคคลในอนาคต
จากผลการวิจัย คาดว่าสมรรถนะในอนาคตของฝ่ายบุคคลอาจจะปรับเปลี่ยนเป็น
- การเปลี่ยนแปลงบริบทและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Context and Stakeholder Changes)
- การปรับเป็นหน่วยย่อยเล็ก ๆ ตามสายงาน (HR Granularity)
- คนเก่ง (Talent)
- การสร้างขีดความสามารถขององค์กร (Organizational Capabilities)
- ภาวะผู้นำ (Leadership)
สรุป
- จากผลการวิจัย ฝ่ายบุคคลควรมีการเรียนรู้โดยมีมุมมองจากภายนอกเข้ามาภายในองค์กร นั่นคือ มีความเข้าใจในเรื่องสังคม เทคโนโลยี เศรษฐกิจ การเมือง สิ่งแวดล้อม และแนวโน้มของประชากร รวมถึงลูกค้า นักลงทุน กฎหมาย และชุมชน
- สมรรถนะของฝ่ายบุคคลพึงมี 6 ประการคือ เป็นผู้ที่น่าเชื่อถือ นักสร้างนวัตกรรมและบูรณาการ นักวางกลยุทธ์ ผู้สร้างขีดความสามารถ แชมป์การบริหารการเปลี่ยนแปลง และผู้ให้การสนับสนุนเทคโนโลยี
**************************