กาล
กาลเริ่มเกิด เมื่อกาย ก่อเกิด
กาลจึงเชิด ชูกาย ให้ใหญ่สูง
แล้วกาลกัด กินกาย ทลายซุง
กายถูกปรุง ถลุงย่อย เมื่อร้อยปี
กฎ
เพราะมีกาย ให้กาล ก่อกำเนิด
กฎจึงเกิด กินกาย สายวิถี
เป็นกฎกาย ไหลตามเงื่อน เคลื่อนเป็นปี
กฎตัวนี้ มีพลัง เบื้องหลังเรา
กรรม
เพราะมีกาย มีกาล มีกรรมเกิด
กรรมชูเชิด เปิดปม จมความเขลา
เจตนา สร้างกรรม ทำสั้น-ยาว
มีกายเคล้า ใจคลุก ทุกข์สุข-วน
อาหาร
มีกายยั้ง เพราะร่างกาย อาศัยภัตต์
ช่วยบำบัด สร้างเสริม เติมผลักผล
อาหารดี มีสาร เกิดงานกล
เกิดมวลผล กลกาย เคลื่อนไหวดี
เนื้อหนัง
เมื่อกายกิน อินทรีย์ มีกล้ามเนื้อ
ช่วยจุนเจือ เอื้อกำลัง พลังฉี
กระดูกแข็ง แรงขัน มั่นคงดี
เกิดวิถี แรงกล เพราะผลกิน
ความคิด
เพราะกายดี มีคุณ หนุนสมอง
ให้คิดคล่อง ว่องไว ได้เป็นสิน
คิดสร้างสรรค์ ปั้นแต่ง แหล่งทำกิน
ทั่วแผ่นดิน ถิ่นทอง สมองทำ
จิตใจ
มีกายเกื้อ เกิดกาล บ้านความคิด
เกิดใจจิต คิดรู้สึก นึกคิดย้ำ
แสดงออก บอกสื่อ ถือใจทำ
ทั้งจิตดำ จิตดี มีปะปน
กายกำเนิด เกิดกาล ผ่านพละ
หมดวาระ ตามกาล วันสิ้นผล
เพราะมีกาย กาลจึงกิน สิ้นในตน
กายเหี่ยวย่น หดแห้ง แรงหมดเอย
---------------------๙/๑/๕๘-----------------------
ความคิด
เพราะกายดี มีคุณ หนุนสมอง
ให้คิดคล่อง ว่องไว ได้เป็นสิน
คิดสร้างสรรค์ ปั้นแต่ง แหล่งทำกิน
ทั่วแผ่นดิน ถิ่น สมองทำ
จิตใจ
มีกายเกื้อ เกิดกาล บ้านความคิด
เกิดใจจิต คิดรู้สึก นึกคิดย้ำ
แสดงออก บอกสื่อ คือความงาม
และทั้งจิตดำ จิตดี มีปะปน
ชอบมากๆๆ ค่ะ 2 ท่อนนี้ค่ะ .... สอนได้ดีมากๆๆ ค่ะ
ขอบคุณค่ะ